สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสักเครื่องเพื่อใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะกับราคาที่สบายกระเป๋ากว่า วันนี้ผมจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ nubia Neo 3 5G เกมมิ่งโฟนในราคาเพียง 6,999 บาท ที่อัดแน่นฟีเจอร์การเล่นเกมที่ควรมีมาให้แบบ ครบ จบ ในเครื่องเดียว และสำหรับใครไม่สะดวกอ่านรีวิว สามารถรับชมวิดีโอรีวิวได้เลยครับ
Unbox
ภายในกล่องของ nubia Neo 3 5G มาพร้อมกับอุปกรณ์พร้อมใช้งานตัวเครื่องได้ทันที โดยประกอบด้วยตัวเครื่อง nubia Neo 3 5G, เคสแบบแข็ง, เข็มจิ้มซิม, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น, ใบประกัน, สายชาร์จแบบ USB-C to C และอแดปเตอร์ชาร์จกำลังไฟสูงสุด 33W
Design
ในด้านของงานออกแบบตัวเครื่อง nubia Neo 3 5G ฝาหลังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความล้ำสมัย ความเป็นเกมเมอร์ในตัว ผ่านภาษาการออกแบบสไตล์ Futuristic Mecha Design พร้อมไฟ RGB ที่เราสามารถปรับได้ 5 สี และเอฟเฟ็กต์ 5 รูปแบบ ในตำแหน่งดวงตาหุ่นยนต์สุดเท่ห์
สำหรับหน้าจอขอ nubia Neo 3 5G มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.78” ความละเอียด HD 2,030 x 900 px รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,000 nits รองรับการรับชมคอนเทนต์ HDR10+ โดยจะมีขอบหน้าจอที่หนาเท่ากันทั้ง 3 ด้าน ส่วนขอบจอด้านล่างจะมีความหนากว่าขอบด้านอื่นๆ และด้านบนสุดของหน้าจอมีช่องลำโพงสำหรับสนทนา กับการขับลำโพงเสริมในการทำงานของลำโพงคู่
ด้านล่างของตัวเครื่องมาพร้อมกับไมโครโฟน 1 ตัว ตามมาด้วยพอร์ต USB-C 2.0 สำหรับการเชื่อมต่อ, การชาร์จโทรศัพท์กำลังไฟสูงสุด 33W กับแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh ใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มใน 1 ชม. 30 นาที และช่องลำโพงอีก 1 ช่อง สำหรับการทำงานลำโพงคู่ พร้อมรองรับระบบเสียง DTS:X® Ultra
ทางด้านขวามือของตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่มพาวเวอร์สีแดงตัดกับสีของตัวเครื่องได้อย่างสวยงาม พร้อมรองรับการสแกนลายนิ้วมือ และขอบทางด้านบน-ล่าง จะเป็นแถบ Shoulder Triggers สำหรับการจำลองปุ่ม L R ในการเล่นเกม โดยเราสามารถตั้งค่าการใช้งานปุ่มเสมือนนี้ได้กับทุกเกมที่เราต้องการใช้งาน
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง และช่องใส่ซิม โดยถาดใส่ซิมของ nubia Neo 3 5G เป็นแบบ Hybrid Slot ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้งาน 2 ซิม หรือ 1 ซิม คู่กับการใส่ microSD ในการใช้งาน
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงไมโครโฟน 1 ตัวเท่านั้น โดยเฟรมเครื่องของ nubia Neo 3 5G จะเลือกใช้เฟรมเครื่องแบบพลาสติก ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่ไม่ได้มากจนเกินไปบนสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.8"
นอกจากนี้การออกแบบภายในของ nubia Neo 3 5G เลือกใช้แผ่นระบายความร้อนหลายชั้นด้านในเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกมให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การกรระจายความร้อนจากบอร์ดตัวเครื่อง ออกสู่ภายนอกได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อรวมกับวัสดุของตัวเครื่องที่เลือกใช้เป็นพลาสติกทำให้ผู้ใช้งานจะรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่กระจายออกมาได้น้อยกว่าวัสดุประเภทอื่น
Performance
ในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน nubia Neo 3 5G จะทำงานผ่านระบบปฏิบัติการณ์ Android 15 ตั้งแต่แกะกล่อง ครอบทับด้วย MyOS 15 ที่เข้าใจง่ายในการใช้งาน มีความใกล้เคียงกับแอนดรอยด์คลีนทั่วๆ ไป โดยระบบของตัวเครื่องจะกินเนื้อที่เบื้องต้นไป 17.17 GB และแบ่งให้แรมเสมือนอีก 12GB ทำให้เราจะมีเนื้อที่ภายในในการใช้งานได้จริงๆ อยู่ที่ 226..83 GB แบบ UFS2.2
ส่วน SoC หัวใจหลักของ nubia Neo 3 5G ก็คือ UNISOC T8300 8 แกน โดยจะแบ่งการทำงานด้านประสิทธิภาพผ่าน ARM-Cortex A78 2 แกน และปรัหยัดพลังงาน ARM-Cortex A55 6 แกน ที่มีประสิทธิภาพการทำงานอยู่ในระดับ Snapdragon 4 Gen 2 และ Dimensity 7020 แต่จัดการความร้อนได้ดีกว่า นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีแรม 8GB LPDDR4X เมื่อบวกกับแรมเสมือนแล้ว จะทำให้เรามีแรมในการใช้งานมากสุดถึง 20GB พร้อมยกประสบการณ์ในการเล่นเกมกราฟิกระดับเริ่มต้น เฟรมเรต 60fps ได้ยาวนานต่อเนื่อง ทั้งเกม Honor of Kings, PUBG Mobile ส่วนเกมที่ต้องใช้กราฟิกสูงๆ อย่าง Genshin Impact, Zeless Zone Zero สามารถเล่นที่กราฟิกระดับเริ่มต้น เฟรมเรต 30fps ได้ดีอยู่
สำหรับผลการทดสอบ Antutu Benchmark V10.46 จะมีคะแนนอยู่ที่ 474,115 โดยแบ่งคะแนนย่อยได้ดังนี้ CPU 154,791 คะแนน GPU 61,984 คะแนน MEMORY 113,824 คะแนน และ UX 143,516 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่าน Geeekbech 6 จะมีคะแนน Single-Core 861 คะแนน และ Multi-Core 2,050 คะแนน
Gaming Experience
และจุดเด่นสำคัญของ nubia Neo 3 5G เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะนั้นก็คือ ฟีเจอร์ด้านการเล่นเกมที่อยู่ใน Game Space 3.0 ที่ออกแบบ UI ให้ nubia Neo 3 5G กลายเป็นเครื่องเกมพกพา
เราสามารถปรับระดับของการทำงาน CPU และ GPU ได้ 3 ระดับ คือ Eco โหมดประหยัดพลังงาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้ยาวนานต่อเนื่อง, Balance จะปรับการทำงานของ CPU/GPU ให้เหมาะสมกับเกมนั้นๆ , และ Rise เพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกมสูงสุด
นอกจากนี้ หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่หาได้ยากในหมู่สมาร์ทโฟนราคาประหยัด ไปจนถึงระดับพรีเมี่ยมก็คือ Charge Bypass ที่เราสามารถเสียบสายชาร์จในขณะเล่นเกม โดยกำลังไฟจะยิงเข้ามาที่เครื่องโดยตรง ไม่ผ่านแบตเตอรี่ของตัวเครื่อง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถนอมอายุแบตเตอรี่ขณะใช้งาน และแก้ปัญหาความร้อนที่จะเกิดกับแบตเตอรี่ขณะเล่นเกมได้อีกด้วย ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับสายเล่นเกมที่โหยหากันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
สิ่งสุดท้ายที่จะมาเพิ่มความว่องไวในการเล่นเกมนั้นก็คือ L-R Shoulder Triggers ที่เราสามารถตั้งค่าในการใช้งานได้กับทุกเกม และในเวลาที่เราใช้งานร่วมกับเกมประเภท FPS จะเพิ่มความแม่นยำในการยิงได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงพื้นที่ของหน้าจอที่เราสามารถกวาดและมองได้มากกว่าปกติในการเล่นเกม
Camera

Conclusion
nubia Neo 3 5G เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใส่ความสามารถพร้อมในการเล่นเกม ครบจบได้ในเครื่องเดียว กับขุมพลังที่เพียงพอต่อการเล่นเกมกราฟิกระดับเริ่มต้นได้อย่างดีเยี่ยม หากใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อนำไปเล่นเกมในงบราคาไม่เกิน 7,000 บาท นี่ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างดีเยี่ยมอย่างแน่นอนครับ
เป็นเจ้าของ nubia Neo 3 5G ได้แล้ววันนี้ ผ่านทาง Shopee | Lazada