รีวิว Roborock Saros 10R ที่สุดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดในเวลานี้


กลับมาพบกับการรีวิว สินค้าอีกหนึ่งตัวจากทาง Roborock นี่คือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นระดับไฮเอนด์ที่สุดเท่าที่เคยจับมา กับ Roborock Saros 10R ถือว่าเป็นแฟลกชิปของปีนี้เลยก็ว่าได้ จุดเด่นเยอะแยะมากมายในรุ่นนี้ เยอะจนงง ลองใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ บอกตรงๆเลยว่า ไม่เคยใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอะไร ล้ำขนาดนี้มาก่อน Roborock Sanos 10R  เป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้นอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสักตัวที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้านของคุณ Roborock Sanor 10R เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ



ตัวเครื่องมีสีดำเข้ม สวยงาม ตัวจริงสวยมาก และ หรูมากสมราคา มันไม่เหมือนเครื่องดูดฝุ่นผมว่ามันเหมือน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนึงเลยนะ สวยจริง ตัวเครื่องแนะนำว่าไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ให้ตั้งในจุดที่เราจะตั้งเลย เพราะหลังจากเรา ตั้งค่าแล้ว ตัวเครื่องจะจดจำแผนที่บ้าน ตามมุมตามซอกต่างๆ ของตัวบ้าน 


ตัวเครื่องมีความใหญ่ แต่เตี้ยกว่าตัวก่อน เซ็นเซอร์ทั้งหมด ถูกยกลงไปใส่ด้านหน้า และ ด้านข้างแทนทั้งหมด มีความสูงเพียง 7.98 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าบางมาก มันสามารถเข้าไปในจุดที่เข้าไม่ถึงได้เช่น ใต้โซฟา ใต้โต๊ะ ใต้เตียง ใต้โต๊ะรับแขก และอื่นๆ ได้เลย ก่อนหน้านี้ผมเคยใช้อยู่ตัวนึง มันสูงกว่านี้ เข้าใต้โซฟาไม่ได้ แต่อันนี้เข้าได้เลย ถือว่าเจ๋งมาก


สบายๆ ครับไว้ใจได้แน่นอนว่า มันจะไม่ทำให้คุณต้องมานั่งก้มลงไปถูด้านใต้โต๊ะอีก 


อีกสิ่งที่ผมชอบมากๆ และ คิดว่ามันพึ่งจะมามีในปีนี้คือ ระบบป้องกันการพันของเส้นผมมันมีชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า DuoDivide Brush เป็นแปรงขนสั้นคู่ขนานสองอัน พร้อมใบแบบเกลียวที่นำทางขนสัตว์ไปยังช่องดูดฝุ่นตรงกลาง ซึ่งดูดฝุ่นได้อย่างรวดเร็ว และไม่พันกันเป็นก้อนๆ การออกแบบช่วยป้องกันการพันกันและการอุดตันของขนสัตว์ และเส้นผมแน่นอน โดยได้ผ่านการรับรองจาก SGS และ TUV Rheinland ด้วย มั่นใจได้เลยว่า ไม่พันแน่นอน 


พามาดูความพิเศษบริเวณด้านล่างกัน กัน ทำไมถึงเจ๋ง ซึ่งรอบนี้ คุณมั่นใจได้เลยว่ามันจะสามารถทำความสะอาดบริเวณ ซอกได้แบบหมดจดแน่นอน เริ่มจากทางซ้ายบน มันชื่อว่า FlexiArm Side Brush ซึ่งมันจะทำหน้าที่ ปัดฝุ่นบริเวณซอก มุมต่างๆ คือ อันนี้ว้าวจริง และ ยังไม่ค่อยเห็นจากที่ไหน ถัดลงมาหน่อย จะเป็นล้อ ซึ่งความเจ๋งของมันคือ มันจะมีโช๊ค !! สามารถยกเครื่องเองได้ เวลาเจอพรม หรือ เนินแบบเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมันสามารถยกตัวม็อบได้สูงถึง 10 เซนติเมตร และ สามารถ ข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ถึง 4 เซนติเมตร ทำให้รับประกันได้เลยว่า มันจะเข้าไปทำความสะอาดตามที่ต่างๆ ได้อย่างแน่นอน ส่วนด้านล่างสุดจะ เป็น Mop ถูพื้นแล้วมันสามารถยืดออกมาได้ด้วย เพื่อทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น 

แล้วแรงดูดตัวนี้คือโหดมาก น่าจะแรงสุดแล้วมั่งครัง แรงดูดจะอยู่ที่ พลังดูด 19,000 Pa ซึ่งสูงมาก





ผมลองแกะฝาออกมา มันจะเป็นที่เก็บฝุ่น ซึ่งตัวถุงเก็บฝุ่นมีขนาดใหญ่มาก ในกล่องมีมาให้สำรองอีก 1 ผืนนะครับ เวลาดึงออกง่ายมาก แถมยังมีกลไก ปิดฝุ่นให้เพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายออกมาภายในบ้าน ซึ่งอันนี้เจ๋งมาก 


ในส่วนนี้จะเป็นระบบ การซักล้าง โดยตัวม็อบ สามารถถอดเองได้จากตัวเครือง สามารถซักได้เอง เราเองแทบจะไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเครื่องเลย เพราะตัวเครื่องมีระบบ ซักด้วยน้ำร้อน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียรวมถึง อบผ้า ให้แห้งก็ได้ โดยหากซักด้วยน้ำร้อนจะสามารถ ทำอุณหภูมิน้ำได้สูงถึง 80 องศา



ในส่วนของเซ๋นเซอร์ จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ 3D TOF Solid-state LiDAR + RGB ยกระดับไปอีกขั้น สามารถสร้างแมพได้อย่างรวดเร็ว พร้อม พร้อมไฟส่องพื้นสำหรับการสแกนและการจดจำสิ่งกีดขวาง มีการสร้างภาพ HDR ตัวระบุระยะทางที่เข้ารหัสด้วยสี (สีแดงสำหรับระยะใกล้ สีน้ำเงินสำหรับระยะไกล) และ AI สำหรับการจดจำวัตถุ 73 ประเภท รวมถึงสัตว์เลี้ยงอีกด้วย


มาพร้อมกับถังเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ มีถังเก็บน้ำสกปรก และ น้ำสะอาด ถังข้างในคือโคตรใหญ่ ใช้ยาวๆ แน่นอน สำหรับ Roborock Saros 10R มาพร้อมกับถังน้ำขนาด ถัง 4 ลิตร สำหรับเก็บน้ำสะอาด และ 3 ลิตรสำหรับการเก็บน้ำสกปรก คือ ถังน้ำใหญ่จริง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่า มันจะหมดไว แต่ก็ขึ้นอยู่แต่บ้านด้วย บางบ้านใหญ่ ก็อาจจะต้องมาเติมถี่หน่อย แต่รับประกันได้ว่า หากคุณมีรุ่นก่อนหน้า ระยะเวลาการเติมน้ำ หรือ เอาน้ำเสียไปทิ้ง จะช้าลงแน่นอนครับ ไม่ต้องคอยเทบ่อยๆ ตัวถุงเก็บฝุ่นมีขนาดถึง 2.5 ลิตร 


มาถึงในเรื่องของการใช้งาน 


ส่วนตัวคิดว่า มันแก้ไขปัญหาหลายจุดมากๆ อหนึ่งเลยคือ มันเตี้ยทำให้มันสามารถ เข้าไปตามซอกได้ โดยที่เราไม่ต้องกังวล บางรุ่นไม่สามารถ เข้าไปใต้โซฟา ใต้โต๊ะรับแขก ซึ่งปัญหานี้ ยังไงก็ต้องแก้ด้วยมือคนอยู่ดี แต่รอบนี้คือ มันเข้าไปชอนไชทำความสะอาด ได้เกือบหมด ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีจริงๆ สำหรับรุ่นนี้ บ้านผมพรมเช็ดเท้าเยอะ ก็ไม่มีปัญหาในการกำจัดฝุ่นเลย อสอง ไม่ต้องคอยมาเอาฝุ่นออกบ่อยๆ ซัก 1-2 อาทิตย์ ค่อยทำความสะอาดทีก็ได้ มีระบบซักในตัว ลดการสัมผัส ซึ่งดีขึ้นไปอีก 

ที่ชอบจริงๆ เลยคือ ระบบหัวแปรงที่ ทำให้เส้นผม พันกันนี่แหละครับผมว่า คือโคตรดี มันแก้ปัญหาได้แบบหมดจดจริงๆ ตั้งแต่ผมใช้มา ยังไม่เคยเจอปัญหาเส้นผมพันกันเลย แม่ผมชอบหวีผมแล้วผมชอบร่วง ตามพื้นเวลาเหยียบ ก็จะติดเท้าไปด้วย ซึ่งตั้งแต่ได้ตัว Saros 10R มาไม่เจอปัญหาอีกเลย และ อีกอันคือ ขนสัตว์ บ้านผมเลี้ยงแมว บางทีขน ก็ร่วงพื้นเต็มไปหมด บางทีเรากวาด ขนมันเล็กมาก บางทีมองไม่เห็นเลย แต่เวลาเหยียบพื้นจะรู้สึก มันลื่นๆ ยกเท้าขึ้นมา รู้เลย ตั้งแต่ใช้ ก็เจอปัญหานี้น้อยลงจริงๆ ก็มาช่วยแก้ปัญหาได้ดีมากๆ 

รวมถึงตัวแอพที่ใช้ง่ายอย่างมาก ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเลยแปปเดียว เท่านั้นรู้แน่นอน เพราะมันรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบด้วย คือ ขออวยแอพเลยว่า ใช้ง่าย มันดูดีไปหมดทุกอย่าง ผมเองพึ่งเคยใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ต่อแอพได้ นี่แหละ ตื่นเต้นสุด คือ ตัวแอพ สามารถกำหนดได้หมดเลย 




โดยเราสามารถ ดูสถานะน้ำในถังของเราได้เลยผ่านแอพ ว่าถึงเวลาไปเทแล้วหรือยัง หรือ ปริมาณน้ำสะอาดต่ำไป หรือ ถุงเก็บฝุ่นใกล้เต็มแล้ว คือ ดูได้หมดเลย คือดีจริง ตัวแอพกับตัวเครื่อง สัมพันธ์กันดีมาก กดปุ๊ป คือ รับคำสั่งเลย แทบจะเรียลไทม์ หรือ เราจะตั้งแพลนการใช้งานก็ได้ ว่าตรงนี้ให้ดูดและ ถู ตรงนี้ให้ถูอย่างเดียว หรือ ดูดอย่างเดียว หรือ ให้ AI คิดให้ก็ได้ 


กำหนด โหมดต่างๆ ได้ เช่นโหมดซักผ้าถูพื้น เราจะล็อคไว้เลยก็ได้ ว่าต้องซักด้วยน้ำร้อนเท่านั้น ซักด้วยน้ำอุ่น หรือ ซักด้วยอุณหภูมิปกติ ก็ได้ แล้วอยากขจัดคราบยังไงละ หมดจดก็ได้ ประหยัดน้ำก็ได้ สมดุลก็ได้ หรือ ให้ AI คิดก็ได้ 

เราสามารถ สแกนหาตำแหน่งแผนที่บ้านได้เลยแล้ว ละเอียดมาก คือ กดสั่งการได้ภายในแอพได้ทั้งหมด รวมถึง รองรับคำสั่งเสียงเราเพียงแค่พูดว่า Hello Rocky ตัวเครื่องก็จะรับคำสั่ง พร้อมกับทุกคำสั่ง ซึ่งแน่นอนว่ารองรับภาษาไทย 100% ไม่ต้องกังวล ว่าจะสปีคอิงริช !!! ใครไม่เก่งภาษาไม่ต้องกังวล โดยเราสามารถ พูดคำต่างๆ ได้ดังนี้ เราสามารถ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแอพเลย จะมีบอก เช่นเราพูด Hello Rocky ดูดฝุ่นอย่างเดียว ก็ได้ หรือ เริ่มทำแผนที่ หรือ เพิ่มแรงฝุ่น ลดแรงฝุ่น กลับแท่นชาร์จ หรือ หยุดทำงานชั่วคราวก็ได้ คือมีให้เราใช้คำสั่งเยอะเลยครับ ลองเข้าไปดูได้ 




นอกจากนี้ยังสามารถ ควบคุมหุ่นยนต์ ได้ด้วยตัวเอง ผ่านในแอพนั้นแหละ สามารถให้หุ่นตรวจตา ภายในบ้านได้ หรือ ค้นหาสัตว์เลี้ยงของเราก็ได้ เช่น ผมกำลังค้นหาแมวภายในบ้าน เราก็ให้มันเดินสำรวจไปเลย จนกว่าจะเจอ หากเจอแล้ว ก็จะส่งเสียงว่าเจอแล้ว ประมาณนี้ครับ




ประมาณนี้ละกันครับ ผมถือว่า Roborock Saros 10R คือ แฟลกชิปหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของปีนี้เลยก็ว่าได้ กับค่าตัวที่ 44,999 บาท ราคาอาจจะมองว่าสูงไป แต่สำหรับผมผมว่า มันเน้นความคุ้มค่าในระยะยาว มากกว่า เบาแรงเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ความเห็นส่วนตัวนะครับ ปล่อยให้น้องทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ผมใช้มา ประมาณ 2 สัปดาห์ ++ ก็รู้สึกได้เลยว่า สุขภาพจิตไม่เสีย ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทำความสะอาดบ้านเท่าไหร่ โดยเฉพาะการถูพื้น ฮ่ะฮ่า 

ขอสรุปประมาณนี้ละกันครับ

Roborock Saros 10R เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ต้องการบ้านสะอาดหมดจด ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าที่เคย หากคุณกำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสักตัว ผมขอแนะนำให้ Roborock Sanros 10R เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เลย

ข้อควรพิจารณา:
ราคา: หุ่นยนต์รุ่นนี้มีราคาค่อนข้างสูง
ขนาด: หุ่นยนต์มีขนาดค่อนข้างใหญ่อาจไม่เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด

และ ใครที่กังวลในเรื่องของศูนย์บริการ ไม่ต้องกังวลเลยครับ สินค้ารับประกัน 2 ปี สามารถไปได้ตามนี้เลย 


ทุกท่านสามารถ จับจองเป็นเจ้าของ Roborock รุ่นต่างๆ ได้ทั้งตัวแทนจำหน่าย และ ช่องทางออนไลน์ ทั้ง Shopee , Lazada และอื่นๆ ได้เลยครับ หรือ จะไปเห็นตัวจริง จับจองเป็นเจ้าของได้เลยที่ OPPO Brand Shop ทั้ง 5 สาขาตามนี้ครับ พร้อมบริการอยู่ใน 

OPPO Brand Shop ทั้ง 5 สาขาดังนี้
📍เดอะมอลล์ท่าพระ ชั้น 3
📍เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 3
📍เซ็นทรัลนครปฐม ชั้น 1
📍เซ็นทรัลขอนแก่น ชั้น 3 
📍เซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี ชั้น 2
และศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม ชั้น 4 แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า 

ใหม่กว่า เก่ากว่า