หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ที่มาพร้อมกับชิพ Apple A18 ส่วน iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมกับชิพ Apple A18 Pro โดยทั้ง 2 ชิพมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้
Apple A18
- สถาปัตยกรรม: ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร
- CPU: 6 คอร์ (2 คอร์ประสิทธิภาพสูง และ 4 คอร์ประหยัดพลังงาน)
- GPU: 5 คอร์
- Neural Engine: 16 คอร์
- ประสิทธิภาพ: เร็วกว่า A16 Bionic ถึง 30% และใช้พลังงานน้อยลง 30%
- การประมวลผลภาพ: มีการปรับปรุงในด้านการประมวลผลภาพ ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอมีคุณภาพสูงขึ้น
- Smart HDR 5: ช่วยให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดและสีสันที่สมจริงมากขึ้น
- การถ่ายวิดีโอ: รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps
- การถ่ายภาพในที่แสงน้อย: มีการปรับปรุงในด้านการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ทำให้ภาพถ่ายในที่มืดมีความคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้น
- การเชื่อมต่อ: รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร
- การประหยัดพลังงาน: มีการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น
- การเล่นเกม: รองรับการเร่งความเร็ว ray tracing สำหรับการเล่นเกมที่มีคุณภาพระดับคอนโซล
Apple A18 Pro
- สถาปัตยกรรม: ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรเช่นกัน
- CPU: 6 คอร์ (2 คอร์ประสิทธิภาพสูง และ 4 คอร์ประหยัดพลังงาน)
- GPU: 6 คอร์ (เพิ่มขึ้นจาก A18 มา 1 คอร์)
- Neural Engine: 16 คอร์
- ประสิทธิภาพ: เร็วกว่า A17 Pro ถึง 15% และใช้พลังงานน้อยลง 20%
- การประมวลผลภาพ: มีการปรับปรุงในด้านการประมวลผลภาพเช่นกัน แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพในที่แสงน้อยและการถ่ายวิดีโอ
- Smart HDR 5: เช่นเดียวกับ A18 แต่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ภาพถ่ายมีความละเอียดและสีสันที่ดียิ่งขึ้น
- การถ่ายวิดีโอ: รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 120fps ทำให้การถ่ายวิดีโอมีความลื่นไหลและคมชัดมากขึ้น
- การถ่ายภาพในที่แสงน้อย: มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในด้านการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ทำให้ภาพถ่ายในที่มืดมีความคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้น
- การเชื่อมต่อ: รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 เช่นเดียวกับ A18 แต่มีการเพิ่มการรองรับ 5G mmWave สำหรับการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น
- การประหยัดพลังงาน: มีการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นเช่นกัน แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์การชาร์จเร็ว
- การเล่นเกม: รองรับการเร่งความเร็ว ray tracing ที่เร็วขึ้น 2 เท่า
- การออกแบบระบายความร้อน: มีการออกแบบระบายความร้อนที่ดีกว่า ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพการเล่นเกมได้สูงขึ้น
ทั้งสองชิปนี้มีการปรับปรุงที่สำคัญในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การเล่นเกมและการประมวลผล AI โดย Apple A18 ที่อยู่ใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและการใช้งานที่ราบรื่นในชีวิตประจำวัน ส่วน iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การเล่นเกมกราฟิกระดับสูงสุดหรือผู้ที่ทำงานด้านกราฟิกและการประมวลผลหนัก กับการใช้งานสายครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง
ถ้าคุณต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับการเล่นเกมหรือการทำงานหนัก Apple A18 Pro อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณต้องการชิปที่มีประสิทธิภาพสูงและเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป Apple A18 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน