ยกระดับประสบการณ์ประชุมอัจฉริยะที่คล่องตัว รวดเร็ว ตอบรับเทรนด์การทำงานแบบ Digital Workplace ของคนรุ่นใหม่
จาบร้า (Jabra) ผู้นำระดับโลกในโซลูชั่นอุปกรณ์ด้านเสียงส่วนบุคคลและโซลูชั่นการทำงานแบบไฮบริด ปรับโฉมตลาดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งใหม่ พร้อมรับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริดที่มาแรง ด้วยการยกทัพโซลูชั่นวิดีโอคอนเฟอเรนซ์รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล PanaCast มาจัดแสดงในงาน InfoComm Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2567 นำโดย PanaCast 50 intelligent video bar และ PanaCast 50 Video Bar System (VBS) ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลัง AI และออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การประชุมที่ยอดเยี่ยมสำหรับองค์กรและคนทำงานรุ่นใหม่ ด้วยคุณภาพเสียงที่เหนือชั้น ทั้งยังให้ความยืดหยุ่นสำหรับการทำงานจากระยะไกลที่ไม่มีใครเทียบได้
มิสเตอร์ โฮลเกอร์ ไรซิงเกอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายโซลูชั่นวิดีโอสำหรับองค์กรแบรนด์ จาบร้า(Jabra) กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้ช่วย AI มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดเป็นอย่างมาก แต่การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้เห็นคุณค่าที่แท้จริงของเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม PanaCast จากแบรนด์จาบร้าเป็นอุปกรณ์ที่นำเสนอประสบการณ์การใช้งานอันชาญฉลาด เราจะยังคงพัฒนาอุปกรณ์การทำงานร่วมกับวิดีโอ โดยอัปเดตฟีเจอร์ AI เพื่อให้ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด”
สำหรับ Jabra PanaCast 50 intelligent video bar เป็นระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อัจฉริยะรุ่นแรกของจาบร้าที่ได้รับการรับรองการใช้งานฟังก์ชัน Microsoft Intelligent Speaker ช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนพูดและพูดว่าอย่างไรในห้องประชุม และสามารถระบุชื่อผู้พูดในบันทึกการประชุมได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องมือที่ใช้ AI เช่น Intelligent Meeting Recap และ Copilot ของ Microsoft Teams ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ฟังก์ชัน Intelligent Speaker ของ PanaCast 50 ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการถอดข้อความและให้ข้อมูลที่ถูกต้องยิ่งขึ้นสำหรับ Intelligent Meeting Recap และ Copilot
ด้วยมุมมองภาพที่กว้างถึง 180 องศาของ PanaCast 50 ทำให้สามารถมองเห็นภาพผู้เข้าประชุมทุกคนในห้องด้วยกล้องวิดีโอคุณภาพสูง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยฟังก์ชัน People Recognition ของ Microsoft ที่ช่วยให้จดจำและเพิ่มชื่อของผู้เข้าร่วมประชุมภายในห้องได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับประสบการณ์การประชุมแบบไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ PanaCast 50 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Multi-Stream Dynamic Composition* ที่มอบมุมมองภาพระยะใกล้ของผู้เข้าร่วมประชุมภายในห้อง ด้วยการสตรีมภาพวิดีโอผู้เข้าประชุมแต่ละคน นอกเหนือจากแสดงภาพที่มีมุมมองแบบพาโนรามาของห้องประชุมทั้งหมด เพื่อมอบประสบการณ์การประชุมที่เป็นธรรมชาติและครอบคลุมผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ด้วยฟีเจอร์ Intelligent Speaker, People Recognition และ Multi-Stream Dynamic Composition ทำให้ Jabra PanaCast 50 สามารถมอบประสบการณ์การประชุมแบบไฮบริดที่ครอบคลุมที่สุดเมื่อทำงานร่วมกับ Microsoft Teams
Jabra PanaCast 50 Video Bar System (VBS) เป็นโซลูชันล้ำสมัยที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสม เพื่อมอบประสบการณ์การประชุมด้วยโหมด Bring-Your-Own-Device (BYOD) ที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมการประชุมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านแล็ปท็อปของตนเอง เพียงเชื่อมต่อสาย USB เข้ากับ PanaCast 50 Video Bar System (VBS) การเข้าร่วมประชุมจะเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Enhanced Noise Suppression จะช่วยแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนได้อย่างชาญฉลาด เช่น เสียงพิมพ์และเสียงกระดาษ เป็นต้น อีกทั้งยังส่งมอบเสียงคุณภาพสูงให้กับผู้เข้าร่วมประชุมทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Single-Stream Dynamic Composition และการใช้งานใน Teams Rooms* ที่สามามารถแสดงมุมมองภาพระยะใกล้ของผู้ที่พูดคนล่าสุดในห้องประชุม พร้อมด้วยภาพพาโนรามามุมกว้างถึง 180 องศาของห้องประชุม ในขณะที่ฟีเจอร์ Multi-Stream Dynamic Composition สำหรับ Zoom Rooms* จะสร้างการสตรีมวิดีโอแบบเรียลไทม์ของผู้เข้าร่วมประชุมในห้องแต่ละคน พร้อมมุมมองพาโนรามา 180 องศาของห้องประชุม ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้ PanaCast 50 Video Bar System (VBS) สามารถรองรับการสตรีมได้ถึง 6 สตรีม ได้แก่ วิดีโอของห้องประชุมทั้งหมดจำนวน 1 สตรีม และสตรีมเพิ่มเติมอีก 5 สตรีม เพื่อการจับภาพระยะใกล้ของผู้เข้าร่วมประชุมในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ของ PanaCast 50 Video Bar System (VBS) จะมอบประสบการณ์การประชุมที่ครอบคลุมมากขึ้น ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทางไกลสามารถมองเห็นทุกคนในห้องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
จุดเด่นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ Jabra+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ใหม่บนคลาวด์ที่เน้น API โดยได้รับการออกแบบมาสำหรับการตรวจสอบและจัดการโซลูชันห้องประชุมจากระยะไกล ด้วย Jabra+ ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้สามารถตรวจสอบและจัดการโซลูชันห้องประชุมทั้งหมดของ Jabra ได้อย่างราบรื่น พร้อมด้วยภาพรวมที่ชัดเจนของห้อง สถานที่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ในฐานะแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่รวมกัน Jabra+ จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการการทำงานของอุปกรณ์และโซลูชั่นการประชุมได้จากระยะไกล ด้วย Jabra+สำหรับผู้ดูแลระบบ สามารถควบคุมและจัดการการประชุมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมองภาพรวมของการประชุม สถานที่และอุปกรณ์ได้อย่างชัดเจน ด้วยซอฟต์แวร์ Jabra+ ผู้ดูแลระบบสามารถผสานรวมกับระบบบริการช่วยเหลือด้าน IT และเครื่องมือของบุคคลที่สามได้ในอนาคต เพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับการจัดการอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น การอัปเดตอุปกรณ์ การปรับแต่งหูฟัง หรือการผสานรวมกับอุปกรณ์ Jabra ผู้ใช้สามารถใช้งานผ่านระบบเดียว นอกจากนี้ การจัดการอุปกรณ์ส่วนบุคคลยังมีกำหนดเปิดตัวในปลายปีนี้อีกด้วย
นายสถาพร สัมภวะผล ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีนแบรนด์จาบร้า(Jabra) กล่าวว่า "ในปัจจุบันพนักงานและองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น การทำงานแบบไฮบริดจึงได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้มากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ภายในงาน InfoComm Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคมนี้ จาบร้าภูมิใจนำเสนอ PanaCast 50 intelligent video bar และ PanaCast 50 Video Bar System (VBS) ที่มาพร้อมกับระบบห้องประชุมอัจฉริยะครบวงจร นอกจากนี้ยังเปิดตัวบริการ Jabra Warranty+ ที่ขยายการคุ้มครองอุปกรณ์สูงสุดถึง 5 ปี เพื่อให้ผู้ใช้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดย Warranty+ มีให้บริการในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม"
*Available in Q3 2024.