ยกเทคโนโลยีดิจิทัลทวินและนวัตกรรมการผลิตล่าสุดสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมาแสดงในงาน ProPak Asia 2024
ซีเมนส์ เดินหน้าสนับสนุนวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรม F&B ในการก้าวสู่ยุคดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนมากขึ้น นำเทคโนโลยีและโซลูชันระดับโลกล่าสุด อาทิ Robot Integrator, Integrated Energy Management System, Advanced Planning and Scheduling หรือ APS Predictive Maintenance และอีกหลากหลายนวัตกรรมด้านความยั่งยืน มาร่วมจัดแสดงและสาธิตยูสเคสที่น่าสนใจ ภายในงาน ProPak Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) โดยซีเมนส์จะอยู่ที่ ฮอลล์ 98 บูท B44
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) กำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้าน โดยเฉพาะต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นการดูแลสุขภาพ สินค้าที่ออกแบบเฉพาะบุคคล และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือนมีนาคม 2567 หดตัว 5.13% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ซึ่งมีหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมัน โดยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
ปัจจุบันผู้ประกอบการมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน ในปีงบประมาณ 2566 ผลิตภัณฑ์และโซลูชันจากซีเมนส์ช่วยให้ลูกค้าของบริษัทฯ หลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ประมาณ 190 ล้านตัน สอดรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
โจเซฟ คง หัวหน้ากลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล ซีเมนส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ซีเมนส์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นอุตสาหกรรมการผลิตไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้และเดินหน้าสู่เส้นทางการผลิตที่ยั่งยืน เรามุ่งมั่นสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรม F&B ไปสู่การใช้โซลูชันเทคโนโลยีดิจิทัลที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของอุตสาหกรรม การจัดแสดงโซลูชันของซีเมนส์ ภายในงาน Propak Asia 2024 ครั้งนี้จะช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฯเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ตั้งแต่ส่วนการออกแบบ (Design) ส่วนการผลิต (Production) และห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส ผลักดันการใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมฯ
เทคโนโลยีและโซลูชันไฮไลท์ของซี
- Robot Integrator: ปัจจุบันภาคการผลิตมีการใช้เครื่
องจักรและหุ่นยนต์อย่างแพร่หลาย จากผู้ผลิตต่างแบรนด์ ซึ่งทำให้เกิดความซับซ้อน สิ้นเปลืองทรั พยากรและงบประมาณในการจัดการ ทั้งนี้โซลูชัน Robot Integrator ผนวกรวมการจัดการหุ่นยนต์จากผู้ ผลิตหลายรายเข้าด้วยกันภายใต้ Interface เดียว ลดเวลาการเขียนโปรแกรมและวิ ศวกรรมซอฟต์แวร์ลงถึง 30%* สามารถช่วยให้อุตสาหกรรม F&B ได้รับประโยชน์ในสองด้านหลัก ๆ ได้แก่ ด้านการทำวิศวกรรม และด้านการปฏิบัติงาน ช่วยลดความผิดพลาดและการซ่ อมบำรุงที่ไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ
- Integrated Energy Management System: ซอฟต์แวร์โซลูชันในการตรวจสอบจั
ดการพลังงานครบวงจรที่ได้รั บการรับรองมาตรฐาน ISO 50001 โดยโซลูชันนี้จะบันทึกข้อมู ลและวิเคราะห์การใช้พลั งงานหลากหลายประเภทที่เกี่ยวเนื่ องกับการผลิต สามารถปรับขยายได้ (Scalable) สามารถให้ข้อมูลการใช้พลั งงานในส่วนย่อยไปจนถึ งภาพรวมของทั้งองค์กร ช่วยให้ผู้ประกอบการเห็ นภาพรวมสามารถลดต้นทุนด้านพลั งงานได้อย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มผลผลิตและขี ดความสามารถในการแข่งขันของธุ รกิจ
- Opcenter Advanced Planning and Scheduling (หรือ APS): ซอฟต์แวร์ช่
วยการวางแผนและกำหนดตารางการผลิ ตขั้นสูง ที่มีความสามารถเพิ่มประสิทธิ ภาพการวางแผนและกำหนดตารางการผลิ ต ลดเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจั กร เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า ประโยชน์เด่นของ Opcenter APS
- เพิ่มผลผลิตขึ้นได้สูงสุดถึง 25% ด้วยการตรวจจับอุ
ปสรรคคอขวดในระบบ ลดเวลาการตั้งค่า เพิ่มประสิทธิภาพในการนำเครื่ องจักรและเครื่องมือต่าง ๆ มาใช้ และลดงานที่อยู่ในระหว่ างการดำเนินการลง - ลดการเก็บสินค้าคงคลังลงได้สู
งสุดถึง 50% โดยลดของเสียในระบบ ระบุสาเหตุการขาดแคลนสินค้าได้ อย่างง่ายดาย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวี ยนของวัสดุและการซิงโครไนซ์ด้ านการผลิต - การจัดส่งตรงเวลาเพิ่มขึ้นได้สู
งสุดถึง 50% โดยเพิ่มประสิทธิภาพและความพร้ อมใช้งาน ลดระยะเวลาการรอคอยสินค้า
- Senseye Predictive Maintenance: โซลูชันการบำรุงรักษาเชิ
งคาดการณ์นี้ช่วยจัดการกั บความท้าทายของผู้ผลิตในการบริ หารการบำรุงรักษาสินทรัพย์ ด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำที่สามารถสร้ างแบบจำลองพฤติกรรมของเครื่องจั กรและผู้ดูแลแบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจั ดสรรทรัพยากรไปใช้ในจุดที่มี ความจำเป็นสูงสุด ลดเวลาเครื่องจักรหยุดทำงานลงสู งสุดถึง 50% ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงสูงสุ ดถึง 40% แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยเร่ งกระบวนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์ เมชันขององค์กรได้อีกด้วย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมสัมผัสนวัตกรรมซีเมนส์ที่
หมายเหตุ: *กรณีศึกษาที่ประเทศสเปน Robotics meets automation: how EPF is creating an industrial ecosystem