ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 6300 จะช่วยเสริมศักยภาพสมาร์ทโฟน 5G ให้เล่นเกมได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย MediaTek HyperEngine และยกระดับความเร็ว CPU สูงสุดถึง 2.4GHz พร้อมรองรับกล้องที่คมชัด มีความละเอียดสูงถึง 108MP สามารถเก็บทุกรายละเอียดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้ถ่ายในสภาพแสงน้อย นักออกแบบสมาร์ทโฟนสามารถสร้างโมเดลรุ่นใหม่ ๆ ที่มีจอแสดงผลนับพันล้านสี และยังได้ใช้เทคโนโลยีโมเด็ม 5G ล่าสุดอีกด้วย
โดยคุณสมบัติที่สำคัญของ MediaTek Dimensity 6300 มีดังต่อไปนี้
กล้อง 108MP ที่ลดนอยส์ได้ดีกว่า
รองรับเซนเซอร์กล้อง 108MP ช่วยให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดที่น่าตื่นตา พร้อมทั้งลดนอยส์ได้แบบหลายเฟรม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและเสถียรแม้ถ่ายในสภาพแสงน้อย
เล่นเกมได้เร็วขึ้นด้วย MediaTek HyperEngine
เพลิดเพลินไปกับความเร็วของ CPU ที่อัปเกรดเป็น 2.4GHz ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้เร็วขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมีประสิทธิภาพ GPU มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มทางเลือกของคู่แข่ง
เทคโนโลยีเกม MediaTek HyperEngine จะช่วยยกระดับเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนทั้งหมด ทำให้เล่นเกมได้นานกว่าด้วยประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุดที่ดีขึ้น 11% ค่า FPS ที่สูงขึ้น 13% ในฉากของเกมที่ต้องการการประมวลผลสูง พร้อมทั้งระบบคาดการณ์การเชื่อมต่ออัจฉริยะระหว่าง 5G และ Wi-Fi, การโทร/ข้อมูล 5G การทำงานพร้อมกันและการเชื่อมต่อที่มีความน่าเชื่อถือได้มากขึ้นเพื่อให้เชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นอยู่ตลอดเวลา
การแสดงสีบนหน้าจอนับพันล้านสี
สัมผัสสีที่แท้จริงโดยไม่มีเส้นตัดขอบเพราะสามารถแสดงสีได้นับพันล้านสี พร้อมเทคโนโลยี True Color AMOLED ที่สามารถแสดงภาพและวิดีโอขนาด 10 บิตจริงได้ ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ความเร็วการแสดงผลอาจสูงถึง 120Hz ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าของการมองเห็น และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นอย่างยิ่ง เช่น การเลื่อนหน้าและภาพเคลื่อนไหวในแอป
โมเด็มมาตรฐาน 3GPP R16
Dimensity 6300 มีโมเด็ม 5G มาตรฐาน 3GPP Release-16 รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อล่าสุดที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกกำลังใช้งานอยู่ นักออกแบบอุปกรณ์สามารถออกแบบสมาร์ทโฟนเพียงแบบเดียวให้ใช้งานได้ในตลาดเซลลูล่าร์ทั่วโลกโดยไม่ต้องลดต้นทุนและเร่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั่วโลก
MediaTek 5G UltraSave 3.0+
MediaTek 5G UltraSave 3.0+ มีชุดการเพิ่มการประหยัดพลังงาน R16 แบบครบวงจร รวมถึงชุดการเพิ่มประสิทธิภาพของ MediaTek เอง ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น 13-30% เมื่อเทียบกับทางเลือกของคู่แข่งเมื่อต้องเชื่อมต่อ 5G sub-6GHz ในสถานการณ์ปกติ
5G ที่เร็วและเข้าถึงได้มากขึ้น
การกำหนดสเปกตรัมโทรศัพท์มือถือสูงสุดที่ 140MHz ช่วยให้สามารถทำดาวน์ลิงก์ 5G ได้สูงสุดที่ 3.3Gb/s ผ่านการรวม Carrier Aggregation 2CC โดยสามารถทำความเร็วดาวน์ลิงก์เร็วขึ้นสูงสุด 40% ภายในพื้นที่เมือง และสูงสุด 30% ในเขตชานเมือง เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นของคู่แข่ง โดย CA สามารถใช้งานดูเพล็กซ์ FDD+TDD แบบผสมโดยรวมข้อดีของย่านความถี่ต่ำและกลางไว้ด้วยกัน ส่งผลให้สมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงความเร็วที่เร็วขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้น การรวม Carrier Aggregation ยังช่วยให้สามารถส่งต่อสัญญานได้อย่างราบรื่นระหว่างพื้นที่การเชื่อมต่อ 5G สองแห่งทั่วทั้งเลเยอร์ความครอบคลุม โดยที่ผู้ใช้จะได้รับความครอบคลุมของเลเยอร์ทรูพุตมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับที่ไม่มี CA
การเพิ่มประสิทธิภาพอัจฉริยะตามสถานการณ์
ไม่ว่าจะเดินทางบนรถไฟความเร็วสูง รถไฟใต้ดิน หรือเดินทางในรถยนต์ใต้ดิน โมเด็ม 5G ของ MediaTek สามารถจดจำสภาพแวดล้อมการเชื่อมต่อ และใช้การเพิ่มประสิทธิภาพอัจฉริยะตามสถานการณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความเร็วดาวน์ลิงก์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นของคู่แข่ง
รองรับ LB+LB ENDC และ DL MIMO 8 เลเยอร์
รองรับข้อกำหนดล่าสุดของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เช่น ENDC แบบคู่ ความถี่ต่ำ และ DL MIMO 8 เลเยอร์ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนจะสามารถรองรับข้อกำหนดในอนาคตได้
แพลตฟอร์มขนาดกะทัดรัดและประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ
การใช้กระบวนการผลิตชิประดับ 6nm ของ TSMC ช่วยให้มั่นใจได้ถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น แม้สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่มีความต้องการสูงก็ตาม นวัตกรรมทางวิศวกรรมของ MediaTek ยังสร้างแพลตฟอร์มที่มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น ทำให้การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มีอิสระมากขึ้น
โดย Dr. Yenchi Lee รองผู้จัดการทั่วไปหน่วยธุรกิจการสื่อสารไร้สายของ MediaTek