วันนี้แล็ปท็อปยอดนิยมของโลกดียิ่งกว่าที่เคยด้วยประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นและ Wi-Fi ที่เร็วขึ้น ทั้งยังรองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ ทั้งหมดนี้มาในดีไซน์ที่บางเฉียบและเบาเป็นพิเศษ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple เปิดตัว MacBook Air ใหม่พร้อมชิป M3 อันทรงพลัง ซึ่งจะยกระดับประสิทธิภาพที่ประหยัดพลังงานและความสะดวกในการพกพาที่ผสานกันอย่างลงตัวไปอีกขั้น และชิป M3 ก็ทำให้ MacBook Air เร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 13 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด ยิ่งกว่านั้นเมื่อมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นในชิป M3 ด้วยแล้ว MacBook Air จึงยังคงเป็นแล็ปท็อประดับผู้ใช้ทั่วไปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI เช่นเดิม MacBook Air ทั้งรุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว มาพร้อมดีไซน์ที่บางเฉียบและเบาเป็นพิเศษ, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง, จอภาพ Liquid Retina ที่สวยงามน่าทึ่ง และความสามารถใหม่ๆ อย่างการรองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ และ Wi-Fi ที่เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ MacBook Air ใหม่ยังมาพร้อมตัวเครื่องอะลูมิเนียมแบบ Unibody ที่แข็งแรงทนทาน และมีให้เลือก 4 สีสวยงาม ได้แก่ สีมิดไนท์ ซึ่งใช้กระบวนการซีลชุบผิวสุดล้ำเพื่อลดรอยนิ้วมือ รวมถึงสีสตาร์ไลท์ สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน ยิ่งเมื่อรวมกับกล้อง ไมโครโฟน และลำโพงระดับเวิลด์คลาส, การชาร์จ MagSafe, ดีไซน์แบบไร้พัดลมที่ทำงานเงียบ และ macOS ด้วยแล้ว MacBook Air จึงสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยากจะหาใครเทียบจนทำให้รุ่น 13 นิ้วกลายเป็นแล็ปท็อปที่ขายดีที่สุดในโลก และทำให้รุ่น 15 นิ้วกลายเป็นแล็ปท็อป 15 นิ้วที่ขายดีที่สุดในโลกเช่นกัน
"MacBook Air เป็น Mac ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของเรา และเป็นแล็ปท็อปที่ลูกค้าเลือกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ มาวันนี้ MacBook Air ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยชิป M3 และความสามารถใหม่ๆ" Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว "MacBook Air ใหม่ยังคงเป็นแล็ปท็อปที่บางและเบาที่สุดในโลกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยจนถึงผู้ใช้ในระดับธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานอันทรงพลัง หรือใครก็ตามที่อยากได้ความลงตัวในแบบที่ยากจะหาใครเทียบระหว่างประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้ในดีไซน์แบบไร้พัดลม"
ประสิทธิภาพที่เร็วสุดแรงจากชิป M3
ชิป M3 สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม ช่วยให้ MacBook Air ทำงานได้เร็วขึ้นและมากความสามารถยิ่งขึ้น ด้วย CPU แบบ 8-core ที่ทรงพลัง, GPU สูงสุดแบบ 10-core และการรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 24GB ทั้งหมดนี้ทำให้ MacBook Air ใหม่เร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับรุ่นที่มีชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 13 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด อีกทั้งยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่า MacBook Air ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel สูงสุด 6 ชั่วโมง ผู้ใช้จะสัมผัสได้ทันทีถึงความเร็วระดับสุดขั้วของชิป M3 ไม่ว่าจะทำอะไร ตั้งแต่การทำงานทั่วไปในชีวิตประจำวัน จนถึงงานที่ต้องประมวลผลหนักๆ อย่างการปรับแต่งภาพและตัดต่อวิดีโอ หรือการพัฒนาซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ GPU เจเนอเรชั่นถัดไปในชิป M3 ยังทำให้ MacBook Air รองรับการให้แสงเงาแบบเมชและเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ จึงสามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สวยงามสมจริงแบบสุดๆ จากแสงเงาและภาพสะท้อนที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นล่าสุดที่รองรับการถอดรหัส AV1 เพื่อให้การสตรีมวิดีโอจากบริการต่างๆ มีคุณภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย
ชิป M3 ยกระดับประสิทธิภาพของ MacBook Air ให้ทะยานไปอีกขั้น
- เกมอย่าง No Man’s Sky มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1
- การปรับแต่งภาพด้วย AI โดยใช้คุณสมบัติ Super Resolution ของ Photomator เร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับรุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 15 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่อัปเกรดเป็น Mac ที่มาพร้อม Apple Silicon
- การทำงานในสเปรดชีต Excel เร็วขึ้นสูงสุด 35% เมื่อเทียบกับรุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่อัปเกรดเป็น Mac ที่มาพร้อม Apple Silicon
- การตัดต่อวิดีโอใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับรุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 13 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่อัปเกรดเป็น Mac ที่มาพร้อม Apple Silicon
- เมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 แล้ว MacBook Air มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า, ท่องเว็บได้เร็วขึ้นสูงสุด 50% และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นสูงสุดถึง 40%
แล็ปท็อประดับผู้ใช้ทั่วไปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI
การเปลี่ยนมาเป็น Apple Silicon ทำให้ Mac ทุกเครื่องเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับ AI และชิป M3 ก็มาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น รวมถึงตัวเร่งความเร็วใน CPU และ GPU สำหรับอัดฉีดพลังให้กับการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ ทำให้ MacBook Air เป็นแล็ปท็อประดับผู้ใช้ทั่วไปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI ในขณะที่ macOS ก็ใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพด้าน AI อันเหนือชั้นนี้ในการขับเคลื่อนคุณสมบัติที่ชาญฉลาดเพื่อยกระดับทั้งเรื่องงานและความคิดสร้างสรรค์ด้วยคุณสมบัติด้านกล้องอันทรงพลัง การแปลงเสียงพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ การแปล การคาดเดาข้อความ การทำความเข้าใจภาพ การช่วยการเข้าถึง และอีกมากมาย
ยิ่งเมื่อสามารถเข้าถึงระบบนิเวศของหลากหลายแอปที่มาพร้อมคุณสมบัติด้าน AI สุดล้ำด้วยแล้ว ผู้ใช้จึงสามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การตรวจทานการบ้านด้วย AI Math Assistance ใน Goodnotes 6 ไปจนถึงการปรับแต่งรูปให้สวยขึ้นโดยอัตโนมัติใน Pixelmator Pro หรือแม้แต่การตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกจากวิดีโอด้วย CapCut ยิ่งเมื่อรวมกับสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมของ Apple Silicon ด้วยแล้ว MacBook Air ยังสามารถรันโมเดล AI ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หรือโมเดล Diffusion ที่ใช้ในการสร้างภาพขึ้นมาด้วยตัวของอุปกรณ์เองด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และนอกเหนือจากการทำงานแบบ On-device แล้ว MacBook Air ยังรองรับโซลูชั่นแบบคลาวด์ด้วย จึงสามารถใช้งานแอปเพื่อการทำงานและสร้างสรรค์อันทรงพลังที่อาศัยความสามารถของ AI เช่น Microsoft Copilot สำหรับ Microsoft 365, Canva และ Adobe Firefly
แล็ปท็อปยอดนิยมของโลก
ผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกใช้ MacBook Air แทนที่จะเป็นแล็ปท็อปอื่นๆ และชิป M3 ก็สร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งด้วยการผสมผสานที่ลงตัวชนิดหาตัวจับยากทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา และความสามารถที่ผู้ใช้ต่างชื่นชอบ
- สองขนาดที่ใช่ ในดีไซน์ที่พกพาง่ายสุดๆ: MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ในตัวเครื่องอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทาน มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน น้ำหนักเบาเหลือเชื่อ และบางเพียงหนึ่งเซนติเมตรนิดๆ จึงสามารถพกไปทำงาน เล่น หรือสร้างสรรค์ได้ทุกที่ โดยที่รุ่น 13 นิ้ว พกพาสะดวกสุดๆ ในขณะที่รุ่น 15 นิ้ว มีพื้นที่หน้าจอมากขึ้นสำหรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ เรียกได้ว่ามีขนาดที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน ตั้งแต่นักเรียนที่ต้องไปไหนมาไหนอยู่ตลอด จนถึงนักธุรกิจมืออาชีพที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น
- จอภาพ Liquid Retina ที่งดงาม: MacBook Air โดดเด่นด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 หรือ 15.3 นิ้ว ที่สวยงามน่าทึ่ง, ความสว่างสูงสุด 500 นิต, รองรับสีสัน 1 พันล้านสี และมีความละเอียดสูงกว่าแล็ปท็อป PC ที่เทียบเคียงกันสูงสุด 2 เท่า คอนเทนต์จึงดูสวยสดพร้อมรายละเอียดที่คมชัด ส่วนตัวหนังสือก็ดูคมกริบสุดๆ
- รองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ: วันนี้ MacBook Air พร้อมชิป M3 รองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอในขณะที่แล็ปท็อปพับปิดอยู่ เหมาะสำหรับผู้ใช้ธุรกิจหรือใครก็ตามที่ต้องการใช้จอภาพหลายจอสำหรับทำงานแบบมัลติทาสก์สลับไปมาระหว่างแอป หรือเปิดดูเอกสารหลายอย่างพร้อมกัน
- การเชื่อมต่ออเนกประสงค์: MacBook Air พร้อมชิป M3 รองรับ Wi-Fi 6E ซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 2 เท่า และยังมาพร้อมพอร์ต MagSafe สำหรับชาร์จ และพอร์ต Thunderbolt อีก 2 พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม รวมถึงช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.
- กล้อง ไมโครโฟน และลำโพง: กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p ช่วยให้ผู้ใช้ดูดีที่สุดไม่ว่าจะคุยเล่นกับเพื่อนๆ และครอบครัว หรือคุยเรื่องงานอย่างจริงจังกับเพื่อนร่วมงานทั่วโลก และยังมั่นใจได้ว่าเสียงจะดีที่สุดด้วยชุดไมโครโฟน 3 ตัว และการปรับเสียงพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งขณะโทรคุยแบบเสียงและวิดีโอ ยิ่งกว่านั้น MacBook Air ยังรองรับ Spatial Audio ที่เต็มอิ่มสมจริงพร้อมด้วย Dolby Atmos ให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับมิติเสียงแบบ 3 มิติไม่ว่าจะฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์
- Magic Keyboard และ Touch ID: Magic Keyboard แบ็คไลท์ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและเงียบมาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชั่นความสูงมาตรฐานและ Touch ID ที่ให้ผู้ใช้ปลดล็อค Mac, ซื้อสินค้าด้วย Apple Pay และลงชื่อเข้าแอปและเว็บไซต์ได้รวดเร็ว ง่ายดาย และปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ความมหัศจรรย์ของ macOS
ประสบการณ์ที่ได้จาก MacBook Air เมื่อใช้งานร่วมกับ macOS นั้นยากจะหาใครเทียบ
- macOS Sonoma: วันนี้ผู้ใช้สามารถวางวิดเจ็ตบนเดสก์ท็อป โต้ตอบกับวิดเจ็ตด้วยคลิกเดียว หรือแม้แต่เข้าถึงระบบนิเวศที่หลากหลายของวิดเจ็ต iPhone บน MacBook Air ได้เลย ส่วนการประชุมแบบวิดีโอก็น่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อมีคุณสมบัติเยี่ยมๆ อย่าง Presenter Overlay และ Reaction นอกจากนี้ยังมีโปรไฟล์ใน Safari ที่จะแยกการท่องเว็บในหลายๆ หัวข้อเรื่องหรือโปรเจ็กต์ออกจากกัน รวมถึงแอปหน้าเว็บที่ช่วยให้เปิดเว็บไซต์โปรดได้เร็วขึ้น ในขณะที่การเล่นเกมก็ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกันเมื่อมีโหมดเกม
- ยกระดับการทำงานไปอีกขั้น: ผู้ใช้ทุกคน รวมถึงนักธุรกิจมืออาชีพ สามารถใช้ประโยชน์จากจอภาพขนาดใหญ่ของ MacBook Air ด้วย Split View หรือจะทำงานข้ามไปมาระหว่างแต่ละหน้าจอด้วยการรองรับจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ และยังมีคุณสมบัติอย่าง Stage Manager หรือตัวจัดการให้อยู่ตรงกลางที่ช่วยให้ผู้ใช้อย่างเช่นนักศึกษามีสมาธิกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้เต็มที่
- ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้งานกับ iPhone: คุณสมบัติความต่อเนื่องช่วยให้ MacBook Air ทำงานร่วมกับ iPhone และอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ด้วยคุณสมบัติอย่าง AirDrop ที่ให้ผู้ใช้แชร์และรับรูปภาพ เอกสาร และอีกมากมายกับอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ หรือคลิปบอร์ดกลางที่ให้ผู้ใช้คัดลอกรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความจากแอปหนึ่งบนอุปกรณ์ Apple เครื่องหนึ่งมาวางในอีกแอปหนึ่งบน Mac ที่อยู่ใกล้ๆ ได้สะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติความต่อเนื่องของกล้องที่ช่วยให้ผู้ใช้สแกนหรือถ่ายภาพอะไรบางอย่างที่อยู่ใกล้ๆ ด้วย iPhone โดยที่ภาพจะปรากฎบน Mac ในทันที ส่วน Handoff ก็ให้ผู้ใช้เริ่มทำอะไรบางอย่างบนอุปกรณ์ Apple เครื่องหนึ่ง เช่น การตอบอีเมล แล้วมาทำต่อในอีกเครื่องได้ง่ายๆ
- หลากหลายแอปให้เลือกใช้: MacBook Air มาพร้อมแอปอันทรงพลัง อย่าง FaceTime, Freeform, iMovie, GarageBand และรูปภาพ รวมถึงแอปเพื่อการทำงานอย่าง Pages, Numbers และ Keynote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างงานที่น่าทึ่งได้ไม่ยาก และยังมีอีกหลายพันแอปที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ Apple Silicon แอปต่างๆ ที่ผู้ใช้คุ้นเคยจึงทำงานได้เร็วสุดขั้วบน macOS ซึ่งรวมถึง Microsoft 365 และแอป iOS โปรดอีกมากมาย
ดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
MacBook Air ใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ Apple ชิ้นแรกที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลถึง 50% ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเครื่อง, แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น หรือทองแดงรีไซเคิล 100% ในแผงวงจรหลัก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Apple และ MacBook Air ยังได้มาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังปลอดสารปรอท สารหน่วงการติดไฟกลุ่มโบรมีน และ PVC ในขณะที่บรรจุภัณฑ์ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก 99% ซึ่งทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 มากยิ่งขึ้น
วันนี้ Apple มีความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับการดำเนินงานในระดับองค์กรทั่วโลก และเราวางแผนที่จะทำให้ซัพพลายเชนในการผลิตทั้งหมดรวมถึงอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
- MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M3 มีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท และมีราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 36,300 บาท ในขณะที่ MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M3 มีราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท และมีราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 44,200 บาท ซึ่งทั้งสองรุ่นมีจำหน่ายในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์
- MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2 มีจำหน่ายในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ โดยวันนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท และมีราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 31,400 บาท
- ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม ตัวเลือกในการปรับแต่งตามสั่ง และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ที่ apple.com/th/mac
- Apple Trade In ให้ลูกค้านำคอมพิวเตอร์เครื่องปัจจุบันมาแลกเป็นเครดิตสำหรับใช้ซื้อ Mac เครื่องใหม่ และลูกค้าสามารถตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ได้ที่ apple.com/th/shop/trade-in
- ลูกค้าทุกท่านที่ซื้อ Mac จาก Apple สามารถเข้าร่วม Online Personal Session ฟรีกับ Apple Specialist, รับบริการตั้งค่าผลิตภัณฑ์ที่ร้านหลายสาขา รวมถึงความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูล และคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับแต่ง Mac เครื่องใหม่ให้ทำงานอย่างที่ต้องการ