ในวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ลิงค์ แอนด์ โค (Lynk & Co) เริ่มต้นบทใหม่บนเส้นทางระดับโลกด้วยการเปิดตัวร้านค้าเรือธงของบริษัทอย่างยิ่งใหญ่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยลิงค์ แอนด์ โค จับมือกับกรีนลิงค์ (Greenlynk) บริษัทในเครือทาสโก กรุ๊ป (TASCO group) ที่มีประสบการณ์โชกโชนในตลาดจัดจำหน่ายรถยนต์เวียดนาม โอกาสครั้งสำคัญนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของกลยุทธ์การขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ ลิงค์ แอนด์ โคมองว่าการเปลี่ยนแปลงจากการดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคอ่าวตะวันออกกลางสู่การรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่สดใสสำหรับบทใหม่ของการพัฒนาระดับโลก
ในระยะเวลาไม่ถึง 6 ปีนับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวลิงค์ แอนด์ โค 01 (Lynk & Co 01) รถยนต์รุ่นแรกอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2560 ลิงค์ แอนด์ โคได้บรรลุจุดหมายสำคัญโดยการผลิตรถยนต์ได้มากกว่า 1 ล้านคัน นั่นทำให้ลิงค์ แอนด์ โคอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในฐานะหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมียมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยจุดยืนในตลาด “รถยนต์พรีเมียมใหม่” ลิงค์ แอนด์ โคมุ่งแสวงหาความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายอิทธิพลระดับโลกของบริษัทในด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี การออกแบบ การผลิต และความปลอดภัย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ไลน์ผลิตภัณฑ์ของลิงค์ แอนด์ โคจึงครอบคลุมยานยนต์หลากหลายประเภทตั้งแต่เอสยูวี (SUV) ไปจนถึงซีดาน ตั้งแต่ระบบส่งกำลังแบบดั้งเดิมไปจนถึงรุ่นพลังงานใหม่ ยานยนต์แต่ละรุ่นคือตัวอย่างของการแสวงหาความสุดยอดด้านการออกแบบ คุณภาพ และสมรรถนะของลิงค์ แอนด์ โค โดยมีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์แบรนด์ที่ครอบคลุมให้แก่ผู้บริโภค ลิงค์ แอนด์ โคตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้เล่นคุณภาพระดับโลกโดยเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
ความสำเร็จของลิงค์ แอนด์ โคหยั่งรากลึกลงในทิศทางกลยุทธ์และความมุ่งมั่นอย่างไม่สั่นคลอนในการเป็นแบรนด์ที่ยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง นับตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งขึ้น ลิงค์ แอนด์ โคได้แผ่ขยายการดำเนินงานออกไปทั่วโลก โดยก่อตั้งสโมสร 11 แห่งใน 6 ประเทศยุโรป และดำเนินงานในหลายประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์, คูเวต และโอมาน และล่าสุดก็ได้ขยายตลาดเข้าไปในเวียดนามแล้ว ลิงค์ แอนด์ โคมาพร้อมกับศักยภาพองค์กรที่แข็งแกร่งระดับโลก ได้ก่อตั้งศูนย์ออกแบบประจำยุโรปในเมืองกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน โดยร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์ออกแบบในจีน, สหรัฐ, อังกฤษ และที่อื่น ๆ ทำงานร่วมกับซีอีวีที (CEVT) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ล้ำสมัย และโรงงานระดับโลกหลายแห่งที่ยึดหลักการ “อุตสาหกรรม 4.0” (Industry 4.0) ซึ่งความร่วมมือกันในครั้งนี้ช่วยรับประกันว่าลิงค์ แอนด์ โคจะมีห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับโลกของตน ดังเช่นที่คุณหลี่ ตงฮุย (Li Donghui) ซีอีโอของจี๋ลี่ โฮลดิง กรุ๊ป (Geely Holding Group) กล่าวถึงเส้นทางการพัฒนาของแบรนด์ไว้ว่า “นับตั้งแต่ที่แบรนด์เปิดตัวขึ้นในปี 2559 ลิงค์ แอนด์ โคได้ขับเคลื่อนเทรนด์ยานยนต์ด้วยโมเดลของลิงค์ แอนด์ โค กลายเป็นผู้ชนะในเวทีระดับโลกและแสดงเสน่ห์ของแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ”
ลิงค์ แอนด์ โคยึดปรัชญา “Born Global, Open and Connected” โดยได้ก่อตั้งการดำเนินงานระดับโลกผ่านกลยุทธ์ที่ครอบคลุมด้านผลิตภัณฑ์ ตลาด และช่องทางการขาย การขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของลิงค์ แอนด์ โคครอบคลุมถึงการเปิดสาขาในฟิลิปปินส์และในโฮจิมินห์ซิตี ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทจะบรรลุการขยายกิจการในอ่าวเปอร์เซีย รุกเข้าสู่ประเทศอาหรับมากขึ้น และสำรวจตลาดใหม่ ๆ ในเอเชียกลาง ทั้งนี้ ปรัชญา "Think Outside of the Car" คือวิถีชีวิตที่ลิงค์ แอนด์ โคยึดมั่นเสมอมาในฐานะผู้สร้างแบรนด์พรีเมียมใหม่ระดับโลก