- ฮุนได มอเตอร์ จัดพิธีเปิดดำเนินการก่อสร้างโรงงานเมืองอุลซาน ซึ่งเป็นเมืองที่ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท จอง จูยอง ได้สร้างรากฐานการผลิตแห่งแรกของบริษัทเมื่อกว่า 50 ปีก่อน
- โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ต่อยอดจากมรดกของแบรนด์ฮุนได มอเตอร์ พร้อมวางรากฐานเพื่อการเติบโตของบริษัทในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์
- โรงงานแห่งใหม่มีพื้นที่ 548,000 ตร.ม. กำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 200,000 คันต่อปี
- ใช้เงินลงทุนราว 2 ล้านล้านวอน (1.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เริ่มก่อสร้างเต็มรูปแบบในไตรมาสใน 4 ปี 2023 และจะเริ่มการผลิตในไตรมาส 1 ปี 2026
- โรงงานกำหนดผู้คนเป็นศูนย์กลางและใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแนวใหม่ มอบสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
- พิธีการยังประกอบด้วยการเปิดนิทรรศการมรดกของแบรนด์ เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ณ โรงงานเมืองอุลซานของฮุนได
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ จัดพิธีเปิดดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ ณ ศูนย์อุตสาหกรรมในเมืองอุลซาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ โดยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะแห่งใหม่นี้จะเป็นรากฐานสำคัญเพื่อการเติบโตในอนาคตของบริษัทในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า และสานต่อปณิธานของประธานผู้ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกของฮุนได มอเตอร์ เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้ถูกออกแบบให้คำนึงถึงผู้คนเป็นหลัก โดยใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแนวใหม่ในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่เหมาะสมกับพนักงานมากที่สุด โดยโรงงานเมืองอุลซานถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของฮุนไดในยุคพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะกลายกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์หลักแห่งอนาคต
ฮุนได มอเตอร์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาต่อยอดมรดกของแบรนด์ที่สืบทอดมายาวนานถึง 56 ปีที่โรงงานแห่งใหม่นี้ พร้อมยกระดับองค์ความรู้ในธุรกิจยานยนต์และขีดความสามารถทางเทคโนโลยีให้สูงยิ่งขึ้น ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติในยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า บนพื้นฐานปรัชญาที่กำหนดให้ผู้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนายานยนต์
คณะผู้บริการที่เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้นำโดย จอง อึยซอน ประธานบริหารกลุ่มฮุนได มอเตอร์, จาง แจฮุน ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได มอเตอร์, และ ลี ดงซอก รองประธานบริหาร รวมถึงประธานเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยและหัวหน้าฝ่ายการผลิตในประเทศ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ โดยมีบุคคลสำคัญมากมายให้เกียรติเข้าร่วมในพิธี เช่น คิม โด-กยอม นายกเทศมนตรีนครอุลซาน และ จาง ยองจิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน
“โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในเมืองอุลซาน คือจุดเริ่มต้นของอนาคตอันสดใสในอีก 50 ปีข้างหน้าและเป็นก้าวแรกของยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ร่วมแบ่งปันความฝันของเราในการเป็นบริษัทที่มีอายุยาวนานถึง 100 ปี ณ ที่แห่งนี้” จอง อึยซอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “ความฝันในการสร้างรถยนต์ที่ดีที่สุดในอดีต ทำให้เมืองอุลซานกลายเป็นเมืองแห่งยานยนต์จวบจนปัจจุบัน และก็เช่นกัน ผมเชื่อมั่นว่าเมืองอุลซานจะกลายเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมการเดินทางรูปแบบใหม่และยืนอยู่แถวหน้าในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า โดยเริ่มต้นจากโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้”
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทฮุนได มอเตอร์ มีบทบาทสำคัญที่สุดในการเติบโตของเมืองอุลซาน” คิม โด-กยอม นายกเทศมนตรีนครอุลซาน กล่าว “เราจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อไปเพื่อสร้างสรรค์อนาคตใหม่ร่วมกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก”
จาง ยองจิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กล่าวแสดงความยินดี ว่า “ผมเชื่อว่าบริษัทฮุนได มอเตอร์ จะกลายเป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นในวงการยานยนต์ไฟฟ้าจากการลงทุนครั้งมหาศาลนี้ โดยรัฐบาลจะเน้นย้ำสนับสนุนการปรับปรุงเงื่อนไขการลงทุนธุรกิจ รวมถึงสร้างมาตรการจูงใจทางภาษีที่ชัดเจน และขจัดกฎระเบียบที่ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป”
สะท้อนจิตวิญญาณอันมุ่งมั่นในการนำเสนอชีวิตที่ดีและการเดินทางที่ยั่งยืนสู่ผู้คน
โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในอุลซานพัฒนาขึ้นบนวิสัยทัศน์ของ จอง จูยอง ประธานผู้ก่อตั้งฮุนได มอเตอร์ (ค.ศ. 1915-2001) ซึ่งเชื่อว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะกลายเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจเกาหลีและการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ และเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน เขาได้เลือกเมืองอุลซานในการสร้างวิสัยทัศน์ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้น และตระหนักถึงความฝันด้านธุรกิจยานยนต์ของเกาหลี ในปัจจุบัน โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากรากฐานดังกล่าว เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมไปสู่วงการรถยนต์ทั่วโลก
“เรามีจุดแข็งที่ได้เปรียบที่สุดในโลก ซึ่งก็คือช่างเทคนิคฝีมือเยี่ยมที่สุดของโลกนั่นเอง ผมเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถและความทุ่มเทเหล่านั้น รถยนต์สัญชาติเกาหลีของเราจะทำให้โลกต้องตื่นตะลึงในอนาคต” ประธานผู้ก่อตั้งกล่าวในอดีต คำพูดอันโด่งดังของเขาได้ถูกนำมากล่าวอีกครั้งด้วยการพากย์เสียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยนำเสนอในพิธีครั้งนี้เพื่อแสดงถึงจิตวิญญาณแบบมนุษยนิยมของฮุนได มอเตอร์ และเป็นสัญลักษณ์ของความฝันอันยาวนานที่มีต่อเหล่าพนักงาน ในการก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านยานยนต์ระดับโลก
โรงงานฮุนได มอเตอร์ในเมืองอุลซานเริ่มต้นจากการเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ในปี 1968 และเติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้นอย่างน่าประทับใจ โดยรถยนต์รุ่นแรกที่บริษัทผลิตในจำนวนมากคือรุ่น Pony ในปี 1975 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นและแรงผลักดันอันเหลือเชื่อของพนักงานบริษัทในการพัฒนารถยนต์ขึ้นเองโดยอิสระเป็นคันแรกของเกาหลีใต้ให้เกิดขึ้นจริง พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้แม้สภาพการณ์ภายในประเทศกำลังดุเดือดและเกิดความกังขาขึ้นมากมาย หากด้วยแรงหนุนจากความฝันอันยิ่งใหญ่ ทำให้สามารถเปิดตัวรถยนต์เกาหลีสู่ตลาดโลกได้ในที่สุด
การผลิตรถยนต์รุ่น Pony ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอิสรภาพทางเทคโนโลยี นำไปสู่การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ซึ่งในอดีตต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด ทั้งยังก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ในประเทศตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้ จอง มงกู ประธานกิตติมศักดิ์ ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคุณภาพ ซึ่งเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงบริษัทฮุนได มอเตอร์ ไปสู่แบรนด์ระดับโลก ซึ่งสร้างชื่อเสียงในตลาดยานยนต์โลก นอกเหนือจากเฉพาะในเกาหลีใต้
ตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โรงงานฮุนไดในอุลซานถือเป็นโรงงานการผลิตเชิงเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์แบบครบวงจรของบริษัทและเป็นแหล่งกำเนิดของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมของเกาหลี
การกำหนดผู้คนเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานปรัชญามนุษยนิยมในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า
ฮุนได มอเตอร์ มุ่งมั่นพัฒนาวิสัยทัศน์ด้านการเดินทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้านมนุษยนิยมของประธานผู้ก่อตั้งในอดีต
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้จะเป็นโรงงานใหม่แห่งแรกของฮุนได มอเตอร์ ในเกาหลีในรอบ 29 ปี หลังจากการเปิดโรงงานที่เมืองอาซานในปี 1996 โดยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้พร้อมก้าวเป็นผู้นำในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สูงเกินความคาดหวังของลูกค้า และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานอุตสาหกรรมในประเทศ
ค่านิยมการกำหนดให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางของฮุนได มอเตอร์ เพื่อนำเสนอประสบการณ์การเดินทางที่อิสระแก่ผู้คนและความมุ่งมั่นเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนนั้น ไม่เพียงมีเป้าหมายที่ตัวลูกค้าเท่านั้น แต่ยังมุ่งเป้าไปที่พนักงานที่ผลิตรถยนต์ของฮุนได มอเตอร์ อีกด้วย โดยจะเห็นได้จากการที่โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอุลซานมีแผนติดตั้งนวัตกรรมการผลิตรูปแบบใหม่ สร้างสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่เหมาะสมสำหรับพนักงาน รวมถึงมอบพื้นที่เพื่อการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงงานที่คำนึงถึงผู้คนเป็นสำคัญและเป็นผู้นำตลอดช่วง 50 ปีข้างหน้า
“ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โรงงานเมืองอุลซานของฮุนไดมีการพัฒนาไปอย่างมากเนื่องจากทีมช่างสายการผลิตได้เรียนรู้ สร้างสรรค์ และท้าทายสิ่งใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง” จาง แจฮุน ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กล่าว “การสืบทอดมรดกของโรงงานเมืองอุลซานได้เปลี่ยนความฝันอันยิ่งใหญ่ให้กลายเป็นความจริงผ่านพลังของผู้คน โดยฮุนไดจะมุ่งมั่นอย่างที่สุดเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้บุกเบิกรายแรกในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า บนพื้นฐานของความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเดินทางสำหรับผู้คน”
ประจุพลังสู่การเดินทางแห่งยุคอนาคต
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเมืองอุลซานของฮุนไดจะเป็นส่วนหนึ่งของไซต์งานขนาด 548,000 ตร.ม. โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 200,000 คันต่อปี ด้วยงบการลงทุนราว 2 ล้านล้านวอน (1.53 พันล้านดอลลาร์) โดยจะเริ่มการก่อสร้างเต็มรูปแบบในไตรมาส 4 ของปีนี้ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2025 และเริ่มการผลิตในไตรมาสแรกของปี 2026 โดยกำหนดจะผลิตรถเอสยูวีไฟฟ้า Genesis ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับหรูของฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป เป็นรุ่นแรก
โรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่การทดลองเดิมของฮุนได มอเตอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่บริษัทมองเห็นอนาคตและกำหนดทิศทางการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ พื้นที่การทดลองถูกใช้งานครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อบริษัทพยายามขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ผ่านการพัฒนายานพาหนะที่สามารถทนทานต่อลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายและสภาพอากาศที่รุนแรงได้ทั่วโลก
ฮุนได มอเตอร์ได้พัฒนารถยนต์ประสิทธิภาพสูงระดับโลกมากมายในสถานที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ เช่น Sonata, Accent และ Elantra (ใช้ชื่อแบรนด์ Avante ในเกาหลีใต้) และในที่นี้เองที่การวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและการขับขี่อัตโนมัติได้ถือกำเนิดขึ้น บนความฝันของการสร้างสรรค์ยานพาหนะคุณภาพระดับโลก
ปี 1991 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Sonata (Y2) ซึ่งเป็นต้นแบบรถไฟฟ้ารุ่นแรกของฮุนได มอเตอร์ ได้ถูกพัฒนาขึ้น และในปีต่อมา รถยนต์ไร้คนขับคันแรกก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบครั้งแรกบนสนามทดสอบ Belgian Road
ศูนย์ทดสอบทางวิศวกรรมแบบครบวงจร ซึ่งเป็นสถานที่ถือกำเนิดของรถยนต์ฮุนได มอเตอร์ หลายรุ่น และยังเป็นแหล่งบ่มเพาะการวิจัยยานยนต์ จนนำไปสู่ความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้าในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็น IONIQ 5 และ IONIQ 6 ซึ่งได้รับการยกย่องด้านความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีไปทั่วโลก
นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตรูปแบบใหม่และไซต์งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ฮุนได มอเตอร์วางแผนใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแบบใหม่ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมกลุ่มฮุนได มอเตอร์ ในสิงคโปร์ (HMGICS) ที่โรงงานเมืองอุลซานแห่งนี้ เพื่อรองรับการทำงานแห่งอนาคตและยกระดับความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพของพนักงาน
นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตของ HMGICS ประกอบด้วยระบบควบคุมอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์แปรผันตามความต้องการของงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำเพื่อให้โรงงานมีความเป็นกลางทางคาร์บอนและการรับรองมาตรฐาน RE100 (การใช้พลังงานหมุนเวียน 100%) รวมถึงการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมิตรต่อมนุษย์ เพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีความปลอดภัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
ฮุนได มอเตอร์ จะใช้แนวทางนี้เพื่อสร้างระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ รวมถึงการลำเลียงชิ้นส่วนอัตโนมัติที่โรงงาน โดยจะใช้ระบบการผลิตที่ยืดหยุ่นที่เอื้อต่อการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก และทำให้โรงงานประกอบชิ้นส่วนเป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตในภาพรวม
บริษัทยังวางแผนสร้างสถานที่ปฏิบัติงานที่ปลอดภัย รัดกุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม เช่น หุ่นยนต์ ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน การออกแบบพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเพื่อลบภาพจำของโรงงานที่ปิดทึบแบบเดิมๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ถึงปรัชญาการผลิตรถยนต์รุ่นต่อไป ในฐานะแหล่งผลิตยานยนต์แห่งอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสมบูรณ์
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้จะมีการออกแบบที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพื่อลดความเหนื่อยล้าของพนักงาน และส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทุกคนหลุดพ้นจากสภาพโรงงานเครื่องจักรกลหนักอันน่าเบื่อหน่ายเช่นในอดีต โดยจะมีการดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่โรงงานให้มากที่สุด เพื่อให้คนงานได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ ส่วนเลาจ์ของกลุ่มคนทำงานซึ่งจะถูกใช้เป็นทั้งพื้นที่พักผ่อนและสำนักงาน จะถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิด เพื่อให้ผู้คนสามารถรวมตัวกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สวนสาธารณะ (Central Park) ของโรงงานซึ่งนำธรรมชาติของอุลซานมาไว้ภายในนั้น ถูกคาดหมายให้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและศูนย์กลางเชื่อมต่อแต่ละอาคารอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ แผงพลังงานแสงอาทิตย์และแผงคอนกรีตอัปไซเคิลจะถูกนำไปติดตั้งบนส่วนตกแต่งด้านหน้าของอาคาร เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นโรงงานบนแนวคิดยั่งยืนที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างชัดเจน
พิธีเปิดที่สะท้อนทั้งภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และวิสัยทัศน์แห่งอนาคต
ฮุนได มอเตอร์ จัดพิธีเปิดดำเนินการก่อสร้างเพื่อสะท้อนถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของโรงงานอุลซาน พิธีเริ่มต้นด้วยวิดีโอที่ใช้เสียงพากย์เสียงของประธานผู้ก่อตั้ง จอง จูยอง ซึ่งสร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณแนวมานุษยนิยมของบริษัท ตลอดจนความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่คำนึงถึงผู้คนเป็นศูนย์กลาง และวิสัยทัศน์ของแบรนด์ฮุนได “ความก้าวหน้าเพื่อมนุษยชาติ”
หลังจากการทักทายของประธานชุง จึงเป็นการอภิปรายของหัวหน้าฝ่ายการผลิตในประเทศ ลี ดงซอก เพื่อนำเสนอคุณสมบัติหลักและวิสัยทัศน์ของโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่นี้ ซึ่งจะถูกสร้างให้เป็น “พื้นที่สำหรับผู้คน”
ช่วงพิธีการซึ่งเป็นเสมือนการสรุปอีเวนต์ทั้งหมด จัดขึ้นบนแนวคิด “Portal to Another Dream” เพื่อสื่อสารว่าฮุนได มอเตอร์ จะมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในยุคยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของโรงงานในเมืองอุลซานแห่งนี้
บุคคลสำคัญที่มีส่วนในการพัฒนาโรงงานเมืองอุลซานอย่างอดีตรองประธานบริษัท ยูน ยอ-ช็อล, อดีตรองประธานบริษัท คิม อ็อก-โจ และอดีตประธานาธิบดี ยูน กับฮัน ก็ได้เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังรวมถึงนักออกแบบระดับตำนาน จิออเกตโต จูเจียโร นักออกแบบรถยนต์อิสระรุ่นแรก ๆ ของฮุนได มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้วางคอนเซ็ปต์รุ่น Pony และ Pony Coupe ตลอดจน Pony Excel, Presto, Stella รวมถึง Sonata ทั้งรุ่นแรกและรุ่นสอง
ฮุนได มอเตอร์ ยังจัดนิทรรศการมรดกของแบรนด์เพื่อเฉลิมฉลองพิธีการครั้งสำคัญ ประกอบด้วยการจัดงาน 3 ธีม ได้แก่ “The Beginning of a Dream”, “The Realization of a Dream” และ “Our Dream, Dreams Ever Dreamt” ซึ่งสะท้อนถึงระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมาของโรงงานเมืองอุลซาน
ธีมแรก “The Beginning of a Dream” (จุดเริ่มต้นแห่งความฝัน) นำเสนอเนื้อหาของรุ่น Cortina ที่ได้รับการฟื้นฟูใหม่ โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตโดยโรงงานอุลซาน ต่อด้วยสารคดีเกี่ยวกับการก่อตั้งโรงงานและการก่อสร้างทางด่วนคยองบู (Gyeongbu Expressway) เน้นย้ำถึงก้าวแรกแห่งความฝันของประธานผู้ก่อตั้ง จอง จูยอง ที่มีจุดเริ่มต้นในเมืองอุลซาน และได้พัฒนาต่อสู่อุตสาหกรรมระดับชาติที่มากเกินกว่าภาคธุรกิจยานยนต์
ธีมที่สอง “The Realization of a Dream” (การตระหนักถึงความฝัน) นำเสนอเส้นทางการพัฒนาของโรงงานเมืองอุลซาน ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นโรงงานผลิตรถยนต์เชิงเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ทั่วไปเมืองอุลซาน การกำเนิดรถยนต์แห่งชาติรุ่น Pony การก่อสร้างท่าเรือส่งออกสินค้า และการสร้างศูนย์ทดสอบรถยนต์จนเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Sonata (Y2) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าต้นแบบของฮุนได มอเตอร์ เพื่อบอกเล่าความมุ่งมั่นของพนักงานในการสร้างรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก นับตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาปไปจนถึงรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ธีมสุดท้าย “Our Dream, Dreams Ever Dreamt” (ความฝันของเรา ฝันใด ๆ ที่เคยเฝ้าฝัน) นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของโรงงานเมืองอุลซานของฮุนได มอเตอร์ และพนักงานที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงงาน โดยมีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ของพนักงานจากผู้สร้างโรงงาน เช่น ซองเช็คเงินเดือนที่พวกเขาเก็บสะสมมาอย่างยาวนาน ใบรับรองพนักงาน และบันทึกที่เขียนด้วยลายมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพ และอีกมากมาย
นิทรรศการนี้จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ที่หอมรดกภายในศูนย์วัฒนธรรมโรงงานเมืองอุลซาน ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป
“โรงงานเมืองอุลซานเป็นโรงงานเชิงเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 ด้วยความฝันอันยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก” จี ซองวอน หัวหน้าฝ่ายการตลาด ฮุนได มอเตอร์ กล่าว “การจัดพิธีเปิดดำเนินการก่อสร้างครั้งนี้ ทำให้เราสามารถย้อนรอยการเดินทางของโรงงานอุลซาน ซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้คนนับหมื่นที่ช่วยกันผลักดันเรา จนประสบความสำเร็จดังเช่นในปัจจุบัน พวกเขาคือหัวใจสำคัญของการเดินทางสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าของเรา”
“เราจะมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันการเดินทางสำหรับทุกคนในฐานะผู้นำแห่งการผลิตรถยนต์แห่งอนาคต ผ่านโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองอุลซานแห่งนี้” จี ซองวอน กล่าวเสริม