HPE ผลักดันการพัฒนาระบบ Data First เปิดตัว HPE Compute Scale-Up Server 3200 เสริมแกร่งยุคการเปลี่ยนแปลงทางข้อมูลดิจิทัล

 

HPE Compute Scale-Up Server 3200 เป็น Mission Critical Server ที่จะสามารถช่วยองค์กรต่างๆ เอาชนะความท้าทายท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางข้อมูลดิจิทัล พร้อมสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ


Hewlett Packard Enterprise(NYSE: HPE) ประกาศเปิดตัว HPE Compute Scale-Up Server 3200 โซลูชันอันทรงพลังที่ออกแบบมาสำหรับการจัดการไซโลข้อมูล (Data Silos) และช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาไปพร้อมๆ กับยุคแห่ง Data-first อย่างล้ำสมัย และในขณะเดียวกันยังสามารถรักษาเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของข้อมูลและปริมาณงานที่ต้องการเอาไว้ได้


โดยเฉพาะทุกวันนี้ในโลกดิจิทัลที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไซโลข้อมูลกลายเป็นอุปสรรคหลักต่อความก้าวหน้า ทำให้ข้อมูลไม่สามารถเข้าถึงได้และเกิดความท้าทายในการบูรณาการ ส่งผลให้ศักยภาพงานไม่ดำเนินไปตามที่ควร ซึ่ง HPE Compute Scale-Up Server 3200 ที่ขับเคลื่อนโดยชิปประมวลผล Intel® Xeon® Generation รุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับ Mission-critical ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพองค์กรอย่างแท้จริงเพื่อเผชิญกับความท้าทายด้านข้อมูลเหล่านี้ด้วยความมั่นใจ


นายพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ ประเทศไทยและเวียดนาม บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า “ในขณะที่ปริมาณการใช้ข้อมูลมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมด้านโซลูชันเพื่อจัดการกับไซโลข้อมูลในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (digital transformation) อย่างรวดเร็ว ไม่เคยมีความสำคัญมากเท่านี้มาก่อน  ทั้งนี้ HPE Compute Scale-Up Server 3200 จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราควบคุมศักยภาพของข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันยังมาพร้อมกับความน่าเชื่อถือที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานอย่าง Mission-critical”


หนึ่งในข้อดีของแพลตฟอร์มนี้คือความสามารถในการขยายขนาด ซึ่งเหมาะสมกับ SAP HANA (High-performance Analytic Appliance) เป็นพิเศษ เซิร์ฟเวอร์นี้ได้รับการรับรอง SAP สำหรับ SAP HANA ในการใช้งานสูงสุดที่ 16 ซ็อกเก็ตและหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกันสูงสุด 32 TB ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำการปรับขนาดของ SAP อย่างสมบูรณ์แบบ


HPE Compute Scale-Up Server 3200 ได้รับการออกแบบมา สอดคล้องกับความต้องการข้อมูลที่เปลี่ยนแปลง โดยโมดูลาร์ Superdome Flex ช่วยให้เกิดการปรับขนาดได้อย่างราบรื่นในโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable รุ่นที่ 4 ตั้งแต่ 4 - 16 ตัว ในระบบเดียว ด้วยความสามารถในการขยายขนาดนี้จะช่วยลดการกระจายของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้การจัดการง่ายขึ้น และลดความจำเป็นในการแยกชุดข้อมูลขนาดใหญ่


HPE Compute Scale-Up Server 3200 มอบความสามารถด้านประสิทธิภาพที่โดดเด่น ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองปริมาณงานที่มีความต้องการมากที่สุด โดดเด่นด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 โปรเซสเซอร์แต่ละตัวมีคอร์มากถึง 60 คอร์ ซึ่งมากกว่าสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า โปรเซสเซอร์เหล่านี้ยังมีตัวเร่งความเร็วในตัวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ AI การวิเคราะห์ข้อมูล และเวิร์คโหลดอื่นๆ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วอื่นๆ อย่างมาก


นอกจากนี้ยังช่วยในการลด Downtime ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากการมี Downtime เยอะสามารถส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ HPE Compute Scale-Up Server 3200 ได้พัฒนามาพร้อมกับความน่าเชื่อถือ ความพร้อมในการใช้งาน และความสามารถในการให้บริการ (RAS) ที่พิสูจน์แล้วจาก HPE Superdome Flex


เพื่อสนองต่อการละเมิดความปลอดภัยและการโจมตีทางข้อมูลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น HPE Compute Scale-Up Server 3200 จึงมาพร้อมเฟรมเวิร์คความปลอดภัยที่ครอบคลุม ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงต่อภัยคุกคาม โดยความสามารถด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมของเซิร์ฟเวอร์ประกอบด้วย:

  • HPE Silicon Root of Trust ระดับท็อปของรุ่น ด้วยฮาร์ดแวร์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางของ HPE
  • Dual Trusted Platform Modules ในทุกระดับโครงสร้าง – หนึ่งโมดูลสำหรับระบบหลัก และอีกหนึ่งโมดูลสำหรับระบบย่อย
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ได้รับการรับรอง พร้อมการกู้คืนอัตโนมัติในเฟิร์มแวร์ที่ถูกบุกรุก
  • ระบบจัดการโครงข่ายแบบแยก ด้วยพอร์ตอินเตอร์เฟส LAN ในตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบปฏิบัติการโฮสต์เข้าถึงเครือข่ายการจัดการได้โดยตรง


นอกเหนือจากนี้ HPE Compute Scale-Up Server 3200 ยังเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบกับ HPE Serviceguard สำหรับ Linux (SGLX) ซึ่งเป็นโซลูชันที่มีความพร้อมในการใช้งานสูงและการกู้คืนความเสียหายที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องแอป พลิเคชัน ทั้งในรูปแบบ physical และ virtual environment โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่

ใหม่กว่า เก่ากว่า