หฤหรรษ์จัดจ้านทั่วไทย ครองอันดับ 1 แล้ววันนี้บนชาร์ต Netflix Thailand!
ความปังนี้มันอิหยังวะ! เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ ภาพยนตร์ไทยเว้าอีสานเรื่องแรกจาก Netflix ปังสุดๆ แบบฉุดไม่อยู่ คว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Netflix ประเทศไทยภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว! นอกเหนือจากความสนุกในการติดตามเรื่องราวเพื่อหาตัวฆาตกรแล้ว อีกองค์ประกอบหนึ่งที่ใครๆ ต่างพูดถึงก็คืองานภาพและสีสันจัดจ้านที่เป็นจุดเด่นของผู้กำกับ “วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง” ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนในภาพยนตร์เรื่องนี้ Netflix จึงอยากชวนทุกคนมาเจาะลึกเบื้องหลังการทำงานด้านโปรดักชันดีไซน์ พร้อมเกร็ดน่าสนใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไปพร้อมๆ กัน
ฉากกลางคืนทั้งหมด ถ่ายทำตอนกลางวัน
เริ่มกันที่สิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ หากใครได้ดูภาพยนตร์ เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ แล้ว คงจะเห็นว่าเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนเป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่า ฉากกลางคืนทั้งหมดนั้น ถ่ายทำกันในตอนกลางวัน และสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้คือการใช้เต็นท์ขนาดยักษ์ที่สูงถึง 6 เมตร (สูงเท่าบ้านหนึ่งหลัง) มาทำเป็นสตูดิโอนอกสถานที่!
วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับ เล่าถึงที่มาของการใช้เต็นท์ในการถ่ายทำว่า “ช่วงที่ถ่าย สตูดิโอใหญ่ๆ ไม่ว่างเลย เหลือคิวให้เราใช้ได้แค่สั้นๆ ซึ่งเราถ่ายไม่ทัน เราเลยเปลี่ยนวิธีเป็นการไปหาโลเคชัน หาบ้าน แล้วเอาเต็นท์กับผ้าดำมาครอบไว้อีกที โดยตัวบ้านที่ใช้ถ่ายเป็นบ้านที่มีอยู่แล้ว เราไปต่อเติม และตกแต่งให้ตรงกับบท อีกอย่างซีนส่วนใหญ่มันถ่ายกลางคืนทั้งนั้นเลย เราก็แก่แล้ว ถ่ายดึกมากไม่ไหว (หัวเราะ) เลยหาวิธีแก้ปัญหา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน ทีมงานก็มีคำถามเหมือนกันว่ามันจะถ่ายได้จริงๆ เหรอ เพราะนอกจากถ่ายฉากกลางคืนกันตอนกลางวันแล้ว ความท้าทายอีกอย่างคือเราต้องทำให้คนดูเชื่อด้วยว่าที่เราถ่ายกันอยู่มันคือข้างนอกสตูดิโอ เพราะตอนถ่ายมันเห็นโครงหลังคาตลอดเวลา เราก็ต้องไปปรับให้มันสมจริง ก็เป็นการทดลองทำดู ซึ่งก็เวิร์กทั้งในแง่การควบคุมแสงและช่วยให้การถ่ายทำไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศนัก เพราะตอนถ่ายทำเป็นช่วงพายุเข้าพอดี”
เบื้องหลังงานภาพที่สื่อความหมาย
อีกคนหนึ่งที่รับบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดงานด้านภาพให้ออกมาสวยงามและตรงใจผู้กำกับ คือผู้กำกับภาพ (Director of Photography) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับภาพฝีมือดีอย่าง หญิง-นิรมล รอสส์ มาดูแล ซึ่งหากดูจากผลงานที่ผ่านมา เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ จะมีสีสันฉูดฉาดแตกต่างจากงานก่อนหน้าของหญิง-นิรมลไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งวิศิษฏ์เผยว่าต้องมีกระบวนการในการปรับจูนเพื่อให้เห็นภาพตรงกันก่อนถ่ายทำอีกด้วย
“ส่วนตัวเราจะเห็นภาพไฟนอลโปรดักต์ในหัวตั้งแต่แรกเลย แต่กับพี่หญิง เราใช้วิธีชวนเขาไปดูเกรดสีด้วยกัน ช่วยดูช่วยจูนกันไป เพราะสไตล์ในหนังเรื่องนี้ เป็นสไตล์ที่ต้องทำความเข้าใจนิดนึง และต้องทำหลายอย่างก่อนถ่ายจริง นอกจากนี้ก็จะให้ reference และคีย์เวิร์ดกับพี่หญิง อย่างในเรื่องนี้คีย์เวิร์ดงานภาพของมันคือ ความอลังการของธรรมชาติ ตัดเข้ามาในบ้านที่เล็กๆ แคบๆ อึดอัด คั่นด้วยความใหญ่โตของธรรมชาติ” วิศิษฏ์เล่าถึงเบื้องหลังการออกแบบงานภาพ และความสำคัญด้านการสื่อสารผ่านงานภาพ “เรื่องนี้เราลองออกแบบภาพด้วยมุมมองของไม่ใช่บุคคลที่สาม แต่เป็นมุมมองของบุคคลในเรื่องเลย เช่น ตอนพี่หม่ำจ้องมาเวลาที่สอบสวนทราย เราก็ใช้ภาพที่แทนมุมมองของทรายกับมุมมองของพี่หม่ำ ทำให้รู้สึกเหมือนเราโดนสอบไปด้วย เหมือนเราเข้าไปอยู่ในมุมมองของคนคนนี้ แล้วก็สลับไปที่อีกคนหนึ่ง”
ฉากบนโต๊ะอาหารที่ต้องเล่าได้ละเอียดยิบในฉากเดียว
การออกแบบแต่ละฉากต้องผ่านการคิดคำนึงอย่างรอบด้าน เพื่อให้เล่ารายละเอียดได้โดยไม่ต้องพูดออกมา วิศิษฏ์เล่าว่า “ฉากโต๊ะอาหารที่เป็นฉากสำคัญของเรื่อง เรามี reference มาจากภาพ The Potato Eaters ของวินเซนต์ แวนโก๊ะห์ เพราะอยากได้บรรยากาศแบบชนบท มีไฟดวงเดียว ฉากนี้มีคนดูสังเกตด้วยว่ามันมีความเป็นสัจนิยมมหัศจรรย์ (magical realism) อยู่ เพราะจริงๆ เรื่องนี้เราอยากใส่ความเป็นแฟนตาซีเข้าไป พอได้เซ็ตฉากที่ต้องการแล้วก็มาเป็นเรื่องของการถ่ายทำ ความยากของฉากโต๊ะอาหารมันอยู่ที่การเล่าให้คนดูเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละคร ตำแหน่งที่นั่ง ใครนั่งตรงไหน ความสัมพันธ์เป็นยังไง มันจะบอกความสนิทหมด การจัดบล็อกกิ้งจึงยาก และที่ยากเป็นพิเศษคือการที่นักแสดงต้องกินต้มอึ่ง 50 เทค (หัวเราะ)” เขากล่าวติดตลกทิ้งท้าย
เรียกได้ว่าเบื้องหลังการถ่ายทำ เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ นั้นมีความละเอียด และกล้าทดลองอะไรใหม่ๆ ซึ่งต้องขอซูฮกให้กับความกล้าคิดกล้าทำและความเก๋าประสบการณ์ของผู้กำกับมือฉกาจอย่างวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ใครยังไม่ได้ดู ไปพิสูจน์ความจัดจ้านของภาพและสี และม่วนไปกับการไขคดีฆาตกรรมปริศนากันได้แล้ววันนี้ ที่ Netflix เท่านั้น!