Rabbit Care พร้อมเป็นแบ็กให้ “เดอะแบก” จับมือ Non-Bank ลุยช่วยผู้มีรายได้น้อย คัดผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้เลือกมากที่สุดในไทย

 

ปัจจุบัน คนจำนวนมากต้องเผชิญกับความกดดันจากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายด้านเศรษฐกิจ มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจากภาครัฐที่ลดลง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น หน้าที่ความรับผิดชอบด้านการงานและการเงิน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาระและความคาดหวังปริมาณมหาศาลที่หัวหน้าครอบครัวต้องแบกรับอยู่บนบ่าจนถูกขนานนามว่า “เดอะแบก”


รายงานล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ณ เดือนเมษายน 2566 เทียบกับปีที่แล้ว มีการกู้เงินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลที่เปิดกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (Non-bank) ที่มีจำนวนสูงขึ้นถึง 14% และยอดสินเชื่อคงค้างสุทธิในกลุ่ม Non-bank ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นถึง 34%



แนวโน้มนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการการสนับสนุนด้านการเงินของประชาชนยังคงมีมาก แต่การเข้าถึงเงินกู้หรือการสนับสนุนทางการเงินกลับมีข้อจำกัดจากนโยบายการพิจารณาและอนุมัติเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในรายงาน SCB EIC Consumer Survey 2566 โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เดือนกุมภาพันธ์ 2566 พบว่ามีสัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นหนี้สูงถึง 63% โดยเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 31% ของจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นหนี้นอกระบบและมีแนวโน้มที่จะสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนกลุ่มนี้ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินกู้จากเงื่อนไขจำนวนมากของการกู้เงินผ่านธนาคาร อีกทั้งยังขาดความรู้ความเข้าใจทางการเงิน  และความสามารถในการค้นหาและเปรียบเทียบความแตกต่างของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่อประกอบการตัดสินใจและเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับตนเอง แรบบิท แคร์ จึงเล็งเห็นถึงปัญหาและความต้องการในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่จะช่วยค้นหาหรือเปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และต้องการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น



แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ประกันภัย (InsureTech) และผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน (FinTech)  จึงให้ความสำคัญกับกลุ่ม เดอะแบก ซึ่งเป็นหนึ่งใน CFO (Chief Family Officer) หรือ “ผู้บริหารครอบครัว” ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องเงิน แรบบิท แคร์ เข้าใจถึงความต้องการและภาระหน้าที่ที่เดอะแบก และผู้บริหารครอบครัวทุกคนต้องเผชิญมาตลอด


ปัจจุบัน แรบบิท แคร์ มีพันธมิตรในกลุ่มธนาคารและผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 14 ราย และมีผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อยที่อยู่บนแพลตฟอร์มมากกว่า 25 รายการพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่มที่มีความต้องการแตกต่างกัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2566)


เพื่อให้เดอะแบกทุกคนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น แรบบิท แคร์ จึงได้พัฒนาระบบปฏิบัติการความแคร์ CareOS 2.0 นับว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีแพลตฟอร์มช่วยเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล โดยเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ความสะดวก ใช้งานง่าย มีการรวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่า 25 ผลิตภัณฑ์มาไว้บนแพลตฟอร์มเดียว เมื่อต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สามารถเข้ามาที่ “เครื่องมือเปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล” แล้วกรอกข้อมูลที่สำคัญ เช่น วงเงินสินเชื่อที่ต้องการ รายได้ปัจจุบัน จังหวัดที่อยู่ เป็นต้น หลังจากนั้น ระบบจะประมวลผลและแสดงผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณภายใน 30 วินาที


ความอัจฉริยะของระบบปฏิบัติการความแคร์เวอร์ชั่นล่าสุด CareOS 2.0 ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องความครบและความเร็ว แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์ คะแนนความเห็นจาก แรบบิท แคร์ ถึงแนวโน้มการได้รับอนุมัติสินเชื่อ เพื่อประกอบการตัดสินใจและเปรียบเทียบการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล โดยระบบจะพิจารณาจากข้อมูลที่ลูกค้ากรอกเข้ามาในระบบ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือคำนวณสินเชื่อส่วนบุคคลที่ช่วยให้เดอะแบกสามารถวางแผนการชำระได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยเพิ่มวินัยด้านการชำระหนี้ และบริหารจัดการเงินของตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม



แรบบิท แคร์ เข้าใจดีว่าเดอะแบกและผู้บริหารครอบครัวทุกคนมีความต้องการที่หลากหลายและมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและครอบคลุมความต้องการของคนทุกกลุ่ม เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลซิตี้ จาก บริษัท ยูโอบี แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ที่ช่วยให้ลูกค้ารวมหนี้ทุกรายการมาไว้ในที่เดียว เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ และทำให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง อีกทั้งลูกค้ายังเห็นภาพรวมภาระทางการเงินทั้งหมดได้สะดวก โดยผู้สมัครที่มีรายได้เริ่มต้น 20,000 บาทต่อเดือน พนักงานประจำอายุงาน 4 เดือน ก็สามารถสมัครได้ และอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 0.84% ต่อเดือน


“เคทีซี พราว” (KTC PROUD) เป็นผลิตภัณฑ์บัตรกดเงินสดของเคทีซี สําหรับผู้มีรายได้ต่อเดือนเริ่มต้นที่ 12,000 บาท บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” บัตรเดียวครบทุกฟังก์ชั่นการ ใช้จ่าย ไม่ว่าจะกดเงินสดผ่าน ATM โอนเงินด่วนผ่านแอปฯ KTC Mobile รูดซื้อสินค้า หรือผ่อนสินค้าในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน สูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ


อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ คือ บัตรกดเงินสด A money ซึ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกํากับจาก บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จํากัด (มหาชน) ที่ทลายกําแพงรายได้ของผู้สมัคร โดยมีรายได้ต่อเดือนเริ่มต้นที่ 5,000 บาท และอายุงานเพียง 1 เดือน ก็สมัครได้ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้าประกัน และมีอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกไม่เกิน 25% ต่อปี


แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) พร้อมสนับสนุนและช่วยให้คุณก้าวผ่านทุกปัญหาทางด้านการเงินได้ ด้วยแพลตฟอร์มที่ช่วยเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่สะดวกสบาย ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณพิจารณาและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีของคุณและทุกคนในครอบครัว

ใหม่กว่า เก่ากว่า