App Store เปิดให้บริการในปี 2008 ด้วยความตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ นั่นคือการจัดทำแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยเพื่อให้ผู้ใช้ค้นพบและดาวน์โหลดแอปได้อย่างอุ่นใจ และเพื่อเปิดโอกาสที่น่าตื่นเต้นให้นักพัฒนาได้นำเสนอไอเดียดีๆ และขยายธุรกิจให้เติบโต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Apple ได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศที่ส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้และนักพัฒนา และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ App Store ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีชีวิตชีวาและล้ำสมัยที่ดึงดูดผู้ใช้งานจากทั่วโลกโดยเฉลี่ยมากกว่า 650 ล้านรายต่อสัปดาห์ ขณะเดียวกันยังทำให้นักพัฒนาที่ลงทะเบียนกับ Apple มากกว่า 36 ล้านรายมีแพลตฟอร์มการกระจายแอประดับโลกที่รองรับวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นกว่า 195 วิธี และ 44 สกุลเงิน
วันนี้ Apple ประกาศว่าในปี 2022 นั้น App Store ได้ป้องกันการทำธุรกรรมที่มีโอกาสเป็นการฉ้อโกงมากกว่า 2 พันล้านเหรียญ และปฏิเสธแอปที่ส่งมาเกือบ 1.7 ล้านแอป เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานระดับสูงของ App Store ในด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และเนื้อหา
การใช้บัญชีเพื่อการฉ้อโกง
ในปีที่ผ่านมา Apple ปิดบัญชีนักพัฒนา 428,000 บัญชี และบัญชีลูกค้า 282,000 บัญชีที่มีลักษณะฉ้อโกงและใช้งานในทางที่ผิด
หลายปีที่ผ่านมา Apple ได้ปรับปรุงระบบเพื่อเฝ้าสังเกตการใช้บัญชีเพื่อการฉ้อโกงอย่างต่อเนื่องและตรวจจับได้อย่างรวดเร็ว โดยในปี 2021 นั้น Apple ได้ปิดบัญชีนักพัฒนาที่เคลื่อนไหวในลักษณะที่อาจเป็นการฉ้อโกงมากกว่า 802,000 บัญชี ต่อมาในปี 2022 ตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือ 428,000 บัญชี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวิธีการและหลักปฏิบัติใหม่ๆ ที่ช่วยให้ App Store สามารถป้องกันการสร้างบัญชีที่อาจเป็นการฉ้อโกงได้ นอกจานี้ยังมีการปฏิเสธการลงทะเบียนเข้าร่วม Apple Developer Program ที่ต้องสงสัยว่าเป็นการฉ้อโกงเกือบ 105 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพส่งแอปเข้ามายัง App Store
ในปี 2022 นั้น Apple ปกป้องผู้ใช้จากแอปที่ไม่น่าเชื่อถือเกือบ 57,000 แอปจากแหล่งที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม่ได้มาพร้อมกับระบบป้องกันเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเหมือนกับ App Store ยิ่งกว่านั้น มาร์เกตเพลสที่ไม่ได้รับอนุญาตเหล่านี้ยังเป็นแหล่งกระจายซอฟต์แวร์อันตรายที่ลอกเลียนแบบแอปดัง หรือนำแอปนั้นไปดัดแปลงแก้ไขโดยไม่ได้รับความยินยอมจากนักพัฒนาด้วย
เฉพาะในช่วง 30 วันที่ผ่านมา Apple บล็อคความพยายามเกือบ 3.9 ล้านครั้งในการติดตั้งหรือเปิดแอปที่เผยแพร่อย่างผิดกฎหมายผ่าน Developer Enterprise Program ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เปิดให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถแจกจ่ายแอปภายในให้พนักงานใช้
นอกจากนี้ Apple ยังดำเนินการกับบัญชีลูกค้าที่มีลักษณะฉ้อโกง และปิดบัญชีลูกค้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกงและการใช้งานในทางที่ผิดมากกว่า 282 ล้านบัญชีในปี 2022 รวมถึงการบล็อคบัญชีใหม่ที่มีลักษณะฉ้อโกงจำนวน 198 ล้านบัญชีตั้งแต่ก่อนที่บัญชีจะถูกสร้างขึ้น
การตรวจสอบแอป
แนวป้องกันด่านหน้าของ App Store ที่ช่วยปกป้องผู้ใช้จากแอปที่ไม่ปลอดภัยหลายแสนแอปในปี 2022
Apple ตรวจสอบความปลอดภัยของทุกแอปหลายขั้นตอนก่อนจะเข้ามาอยู่ใน App Store เริ่มตั้งแต่ในขั้นการพัฒนาโดยที่ Xcode จะตรวจสอบแอปอย่างเป็นระบบเพื่อรับรองว่าแอปนั้นใช้เทคโนโลยีที่ได้รับอนุญาต และเพื่อให้มั่นใจว่าแอปนั้นมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับ App Store และหลังจากนักพัฒนาอัปโหลดแอปมาที่ App Store Connect ก็จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าแอปนั้นไม่ได้อ้างอิงไปยัง API ส่วนตัว และปราศจากมัลแวร์ที่รู้จัก จากนั้นเมื่อตรวจสอบเสร็จ แต่ละแอปที่ส่งมาจะได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดโดยสมาชิกทีม App Review เพื่อให้มั่นใจว่าแอปนั้นได้มาตรฐานของ Apple ในด้านคุณภาพและความปลอดภัย
ทีม App Review ได้พัฒนากระบวนการของตนเองมาเรื่อยๆ และขยายการดำเนินงานไปทั่วโลกเพื่อรองรับนักพัฒนา และช่วยให้แอปของนักพัฒนาเข้ามาอยู่ใน App Store ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ทีมงานต้องตรวจสอบมากกว่า 100,000 แอปที่ส่งมาในแต่ละสัปดาห์โดยที่ 90% ของแอปได้รับการตรวจสอบภายใน 24 ชั่วโมง และหลังจากที่ได้ตรวจสอบแอปที่ส่งมามากกว่า 6.1 ล้านแอปในปี 2022 ทีม App Review ได้ช่วยนักพัฒนากว่า 185,000 รายเผยแพร่แอปแรกของตัวเองทาง App Store และโทรศัพท์ติดต่อนักพัฒนามากกว่า 20,000 สายเพื่อช่วยวินิจฉัยและแก้ปัญหาที่ทำให้การส่งแอปถูกปฏิเสธ
ในปี 2022 มีการปฏิเสธแอปที่ส่งมายัง App Store เกือบ 1.7 ล้านแอป ด้วยหลายเหตุผล อย่างเช่นข้อกังวลเกี่ยวกับการฉ้อโกงและความเป็นส่วนตัว และในปีนี้ทีม App Review สามารถตรวจจับแอปที่ใช้โค้ดมุ่งร้ายได้มากกว่าหนึ่งครั้ง โดยที่โค้ดดังกล่าวอาจขโมยข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้จากบริการของบริษัทอื่นได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกรณีที่ทีม App Review ตรวจพบแอปจำนวนมากปลอมตัวเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการการเงินที่ไม่มีอันตราย แต่มีความสามารถในการแปลงตัวเองเป็นอีกแอปหนึ่งได้ โดยในปี 2022 มีการบล็อคหรือถอดแอปที่ใช้วิธีวางเหยื่อและเปลี่ยนเป้าหมายลักษณะนี้ออกจาก App Store เกือบ 24,000 แอป
มีอีกหลายเหตุผลที่แอปอาจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลด้านการฉ้อโกง ตัวอย่างเช่น มีการปฏิเสธแอปที่ส่งมายัง App Store มากกว่า 153,000 แอปในปีที่ผ่านมาเนื่องจากตรวจพบว่าเป็นสแปม แอปลอกเลียนแบบ หรือชี้นำไปในทางที่ผิด ในขณะที่เกือบ 29,000 แอปถูกปฏิเสธเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ปกปิดไว้หรือไม่ได้ชี้แจง หรือบางครั้งแอปพยายามดึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยที่ผู้ใช้ไม่รับรู้หรือไม่ให้ความยินยอม และในปี 2022 นั้นมีการปฏิเสธแอปที่ส่งมาสูงถึง 400,000 แอปเนื่องจากละเมิดความเป็นส่วนตัว
นอกจากนี้ App Review ยังตรวจสอบแอปที่แจ้งเข้ามาผ่านเครื่องมือรายงานปัญหาของ Apple และดำเนินการทันทีเพื่อถอดแอปที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นแอปฉ้อโกงหรือมุ่งร้ายจริง ส่วนแอปที่ไม่ได้รับอนุมัติ ซึ่งอยู่ในบัญชีของนักพัฒนาที่ถูกปิดด้วยเหตุผลเรื่องการฉ้อโกงและการใช้งานในทางที่ผิด จะถูกถอดออกโดยอัตโนมัติและห้ามไม่ให้ส่งเข้ามาที่ App Store อีก โดยในปี 2022 นั้น App Review ดำเนินการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แอปที่อาจเป็นการฉ้อโกงเกือบ 84,000 แอปหลุดมาถึงผู้ใช้ใน App Store
การให้คะแนนและรีวิว
ในปีที่ผ่านมา Apple ตรวจพบและบล็อคการให้คะแนนและรีวิวที่เป็นการฉ้อโกงใน App Store มากกว่า 147 ล้านรายการ
การให้คะแนนและรีวิวเป็นคุณสมบัติสำคัญของ App Store ซึ่งผู้ใช้อาศัยในการช่วยตัดสินใจเลือกแอปที่จะดาวน์โหลด ในขณะที่นักพัฒนาก็ใช้เป็นฟีดแบ็คที่สำคัญในการพัฒนาแอป ดังนั้นการให้คะแนนและรีวิวปลอมๆ จากบัญชีฉ้อโกงหรือหรือบัญชีที่เป็นบอตอาจชี้นำและชักจูงให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งพยายามหลอกล่อระบบโดยการบิดเบือนความจริง โดยในปี 2022 ซึ่งมีการประมวลผลการให้คะแนนและรีวิวมากกว่า 1 พันล้านรายการนั้น Apple ได้บล็อคและลบการให้คะแนนและรีวิวที่ไม่ผ่านมาตรฐานการควบคุมดูแลมากกว่า 147 ล้านรายการ
การฉ้อโกงการชำระเงินและบัตรเครดิต
Apple บล็อคการทำธุรกรรมฉ้อโกงเป็นสถิติสูงถึง 2 พันล้านเหรียญในปี 2022 พร้อมกับแบนบัญชีฉ้อโกง 714,000 บัญชีไม่ให้ทำธุรกรรมได้อีก
ในขณะที่เศรษฐกิจดิจิทัลพัฒนาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็มีคนหันมาใช้การชำระเงินออนไลน์เพื่อซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น ดังนั้น Apple จึงได้ลงทุนอย่างจริงจังในการสร้างเทคโนโลยีการชำระเงินที่ปลอดภัย อย่าง Apple Pay และ StoreKit เพื่อปกป้องข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้งาน โดยมีแอปเกือบ 943,000 แอปที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อจำหน่ายสินค้าและบริการบน App Store
Apple ให้ความสำคัญกับการฉ้อโกงบัตรเครดิตอย่างจริงจังมากที่สุด และยังคงแน่วแน่ที่จะปกป้องไม่ให้ App Store และผู้ใช้ได้รับความลำบากจากเรื่องดังกล่าว ตัวอย่างเช่น ในการใช้ Apple Pay จะไม่มีการแชร์หมายเลขบัตรเครดิตกับผู้ขาย เพื่อกำจัดปัจจัยเสี่ยงในกระบวนการทำธุรกรรมการชำระเงิน
เมื่อปีที่แล้ว Apple บล็อคบัตรเครดิตเกือบ 3.9 ล้านใบที่ถูกขโมยเพื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้ซื้อสินค้าในลักษณะฉ้อโกง พร้อมกับแบน 714,000 บัญชีไม่ให้ทำธุรกรรมได้อีก ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดแล้ว Apple บล็อคการทำธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงถึง 2.09 พันล้านดอลลาร์ใน App Store ในปี 2022
ความพยายามของ Apple ในการทำให้ App Store เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนานั้นไม่เคยสิ้นสุด และเนื่องจากมิจฉาชีพยังคงพลิกแพลงกลวิธีที่ไม่สุจริตและวิธีการหลอกลวงไปเรื่อยๆ Apple จึงต้องเสริมแผนการป้องกันการฉ้อโกงโดยอาศัยฟีดแบ็คที่รวบรวมหลากหลายช่องทาง ตั้งแต่ข่าวสาร จนถึงสื่อโซเชียล หรือสายโทรติดต่อ AppleCare และจะยังคงเดินหน้าพัฒนาแนวทางและเครื่องมือใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้และนักพัฒนาใน App Store ได้รับอันตรายจากการฉ้อโกง