งานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่โดยบริการดิจิทัลคอนเทนต์และช่องทางอัจฉริยะของออมเดียระบุว่า หลังจากได้รับผลกระทบจากความล่าช้าและการยกเลิกการผลิตอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2564 การผลิตเนื้อหาโดยแพลตฟอร์มสตรีมมิงชั้นนำของโลกก็ฟื้นตัวกลับมาในปี 2565
เน็ตฟลิกซ์ (Netflix), อะเมซอน (Amazon), แอปเปิ้ลทีวีพลัส (Apple TV+), ดิสนีย์พลัส (Disney+), เอชบีโอ แม็กซ์ (HBO Max), ฮูลู (Hulu), พาราเมาท์พลัส (Paramount+) และพีค็อก (Peacock) มีออริจินัลคอนเทนต์ที่ออกฉายครั้งแรกในปี 2565 รวมทั้งหมด 1,752 เรื่อง เพิ่มขึ้น 60% และรวมเวลา 4,878 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 87%
เน็ตฟลิกซ์เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ออกฉายในปี 2565 มากที่สุดด้วยจำนวน 935 เรื่องและ 3,531 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่า 50% มาจากนอกสหรัฐอเมริกา หากนับตั้งแต่ลิลี่แฮมเมอร์ (Lilyhammer) ซึ่งเป็นออริจินัลซีรีส์เรื่องแรกของเน็ตฟลิกซ์ ออกฉายในปี 2555 ออมเดียก็ประมาณการว่าเน็ตฟลิกซ์ได้เปิดตัวออริจินัลคอนเทนต์ของตัวเองไปแล้วกว่า 14,000 ชั่วโมง
ออมเดียประมาณการว่าออริจินัลคอนเทนต์ของเน็ตฟลิกซ์จำนวน 935 เรื่องที่ออกฉายในปี 2565 (ไม่จำเป็นต้องเป็นปีเดียวกับที่ผลิต) มีมูลค่า 5.8 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ ออมเดียยังคาดการณ์ว่า 42% ของยอดทั้งหมดนี้เป็นการลงทุนโดยสตรีมเมอร์นอกอเมริกาเหนือ โดยลงทุน 1.1 พันล้านดอลลาร์ในยุโรป และ 1 พันล้านดอลลาร์ในเอเชียและโอเชียเนีย
เป็นปีที่สามติดต่อกันที่อะเมซอนเปิดตัวออริจินัลคอนเทนต์ที่ไม่ใช่ของสหรัฐมากกว่าที่เป็นของสหรัฐลงบนไพรม์ วิดีโอ (Prime Video) โดยมีออริจินัลคอนเทนต์รวม 203 เรื่องและ 764 ชั่วโมงที่ออกฉายครั้งแรกในปี 2565 ถือเป็นยอดรวมรายปีที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของอะเมซอน
"การผลิตต้นฉบับที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ การผลิตใหม่ที่ล่าช้าเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถออกฉายได้ในที่สุด และการเปิดตัวบริการ D2C ที่ได้รับการสนับสนุนจากสตูดิโอในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น ดิสนีย์พลัส, เอชบีโอ แม็กซ์, และพาราเมาท์พลัส" คุณทิม เวสต์คอตต์ นักวิเคราะห์อาวุโสของออมเดียกล่าว
จำนวนออริจินัลคอนเทนต์ทั้งหมดจากผู้ให้บริการรายอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวถึงที่ออกฉายในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 614 เรื่องในปี 2565 เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบเป็นรายปี ออริจินัลคอนเทนต์เหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา โดยบริการเอชบีโอ แม็กซ์ของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ผลิตออริจินัลคอนเทนต์มากกว่า 30% จากทั้งหมด 614 เรื่อง ขณะที่ดิสนีย์พลัสผลิตคอนเทนต์ 19% จากทั้งหมดนั้น
"ยังไม่ชัดเจนว่าเราจะได้เห็นการเติบโตเช่นเดียวกันนี้ในปีนี้หรือไม่ หลังจากทั้งวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรีและดิสนีย์ (Disney) อยู่ภายใต้แรงกดดันจากผู้ถือหุ้นให้ลดค่าใช้จ่ายและหยุดการขาดทุนจากกลยุทธ์การย้ายไปสู่สตรีมมิง" คุณเวสต์คอตต์กล่าว
