HP ผู้นำด้านการทำงานแบบไฮบริดด้วย Future-Ready Portfolio



การทำงานร่วมกันที่เปี่ยมไปด้วยพลังและสร้างสรรค์ผลงานได้มากมายจากพีซีเพื่องานธุรกิจ เวิร์กสเตชัน อุปกรณ์ต่อพ่วงและการบริการที่มอบประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์ที่เยี่ยมยอดได้จากทุกที่

จากงาน Amplify™ Partner Conferenceเอชพี อิงค์ (NYSE: HPQ) ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์และระบบโซลูชันแบบใหม่เพื่อก้าวไปสู่ยุคต่อไปของการทำงานในรูปแบบไฮบริดสำหรับทุกคน ด้วยชุดระบบโซลูชันที่ครอบคลุมซึ่งสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานแบบไฮบริด

 

จากข้อมูลมีพนักงานเพียง (22%) ที่กล่าวว่า 'ประสบความสำเร็จได้จากการทำงานรูปแบบไฮบริด จึงเห็นได้ชัดว่าบริษัทต่างๆ ยังคงหาแนวทางในการทำงานรูปแบบไฮบริด “บริษัทส่วนใหญ่ต้องการก้าวผ่าน 'การบังคับทำงานไปสู่ยุคที่มีการทำงานรูปแบบไฮบริด” Alex Cho ประธานกลุ่มธุรกิจ Personal Systems ของ เอชพี อิงค์กล่าวว่า “ปัญหาคือพวกเขาไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร เราเชื่อว่าอนาคตความยืดหยุ่นในรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดในการทำงานที่บ้านและที่ทำงานให้กับพนักงานจากทั่วทุกแห่ง

 

จากการศึกษาเรื่อง Future of Work ของเอชพี พนักงานจำนวน (80%) ต้องการทำงานในออฟฟิศเป็นบางครั้ แต่หลายบริษัทยังคงประสบปัญหาในการให้พนักงานกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ จากการวิจัยของเอชพีชี้ให้เห็นว่าอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศคือการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เอื้ออำนวยความสะดวกต่อการทำงานอันที่จริงแล้ว (89%) กล่าวว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการผลักดันให้ตัดสินใจกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ ในทำนองเดียวกัน ในบรรดาผู้ที่รายงานว่าประสบความสำเร็จจากการทำงานรูปแบบไฮบริดนั้น พบว่ามี (90%) เชื่อว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสมจะทำให้ได้รับประสบการณ์การทำงานที่ดี เพื่อส่งเสริมให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ การมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดตั้งสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดซึ่งจะช่วยให้บริษัทและพนักงานประสบความสำเร็จได้มากดียิ่งขึ้น

 

การทำงานแบบไฮบริดต่างจากการทำงานทางไกล การทำงานแบบไฮบริดที่แท้จริงคือการสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเชื่อมต่อถึงกัน และสร้างสรรค์ผลงานทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น ซึ่งเทคโนโลยีคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดGuayente Sanmartin หัวหน้าฝ่าย Commercial Systems and Displays Solutions เอชพี อิงค์ กล่าวว่า เอชพีเป็นบริษัทเดียวที่สามารถทำให้เกิดการทำงานแบบไฮบริดได้อย่างแท้จริงในทุกที่ ทั้งบ้าน ออฟฟิศ และในพื้นที่อื่น ๆ  อีกทั้งเรากำลังพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยให้ทีมสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย


ยกระดับประสบการณ์การทำงานร่วมกันในยุคการทำงานแบบไฮบริดด้วยฟีเจอร์ HP Presence

ตั้งแต่ปี 2564 ฟีเจอร์ HP Presence  ได้ยกระดับประสบการณ์การประชุมทางวิดีโอเพื่อการทำงานร่วมกันที่ใกล้ชิดมากขึ้นและขับเคลื่อนประสบการณ์การใช้งานแบบไฮบริด ไม่ว่าจะทำงานที่บ้านหรือในออฟฟิศ ฟีเจอร์ HP Presence จะถูกติดตั้งในโน้ตบุ๊กสำนักงาน สำหรับองค์กร ของเอชพีทุกรุ่น ตั้งแต่ ProBook และ Dragonfly series ไปจนถึง กลุ่มผลิตภัณฑ์โมบายเวิร์กสเตชัน HP Z สิ่งนี้ทำให้บริษัทต่างๆ มีระบบโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการทำงานให้ราบรื่นและสอดคล้องร่วมกัน ในด้านวัฒนธรรมในการทำงาน นวัตกรรม และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ประสบการณ์การทำงานทั้งในหรือนอกออฟฟิศเป็นไปอย่างราบรื่นตอบสนองการทำงานและเติมเต็มประสบการณ์ทำงานทั้งในหรือนอกออฟฟิศอย่างไร้รอยต่อ ด้วยนวัตกรรมอย่าง ฟีเจอร์ Multi-Camera Experience ที่รองรับการใช้งานด้วยการจับภาพด้วยกล้องหลายตัวขณะเคลื่อนไหว เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแสดงใบหน้าในการประชุมงานที่มีการเคลื่อนไหวหลากหลายในเวลาเดียวกัน เช่น ทั้งขณะประชุมผ่านกล้องและเขียนกระดานไวท์บอร์ดไปพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกันและระบบ Auto Camera Select ระบบการติดตามใบหน้าอัจฉริยะที่ยกประสบการณ์การประชุมอย่างเหนือชั้น


การทำงานที่บ้าน ออฟฟิศ สถานที่สำหรับประชุม และระหว่างการเดินทางได้อย่างราบรื่น

อุปกรณ์ HP EliteBook และ ProBook ในรุ่นถัดไปมาพร้อมสำหรับการทำงานร่วมกันระดับพรีเมียมด้วยฟีเจอร์ HP Presence ขณะที่ผู้ใช้งานก็สามารถย้ายการทำงานจากบ้านไปออฟฟิศหรือไปยังห้องประชุมได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็ได้รับการออกแบบมาสำหรับเพื่อตอบโจทย์ความยืดหยุ่นในการทำงานรูปแบบไฮบริด


HP EliteBook 800 และ 805 G10 Series: นำเสนอการทำงานด้านธุรกิจร่วมกันที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก ทำให้สามารถประชุมด้วยระบบเสมือนจริงและโต้ตอบได้ด้วยเทคโนโลยี HP Presence ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 13 หรือระบบปฏิบัติการ AMD Ryzen™ ในเจนเนอเรชั่นถัดไป และหน่วยความจำสูงสุด 64GB LPDDR5 โดยคอมพิวเตอร์ในรุ่นนี้มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการบริหารจัดการในองค์กรขนาดใหญ่

HP EliteBook 600 และ 605 G10 Series: ได้ติดตั้งเทคโนโลยีล่าสุดให้กับพนักงานในราคาที่คุ้มค่า การออกแบบระดับพรีเมียม ประสบการณ์การทำงานร่วมกัน การจัดการ และการรักษาความปลอดภัยจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ยินและมองเห็นไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศหรือจากระยะไกล คอมพิวเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 13 หรือ AMD Ryzen™ เจเนอเรชั่นถัดไป กลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่น HP EliteBook 600 Series จะมี USB Type A (USB 3.2 Gen 1) สองพอร์ต, Thunderbolt™ 4 หนึ่งพอร์ต พร้อมกับ USB4 Type-C พอร์ต ® และพอร์ตมัลติฟังก์ชัน USB Type-C® หนึ่งพอร์ต เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่น HP EliteBook 605 Series มาพร้อมกับ USB Type A (USB 3.2 Gen 1) สามพอร์ต และพอร์ต USB Type-C® แบบมัลติฟังก์ชันหนึ่งพอร์ต




HP ProBook 400 และ 405 G10 Series: ช่วยให้เจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และพนักงาน เติบโตได้จากระบบการทำงานรูปแบบไฮบริด พร้อมได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบการลงทุนด้านไอทีด้วยเครื่องมือการทำงานร่วมกันที่มีอยู่ในตัวเครื่องเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น และแชสซี (chassis) ที่ทนทานและสามารถซ่อมบำรุงได้ สำหรับโน้ตบุ๊กมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มผลิตภาพการผลิตด้านธุรกิจที่กำลังเติบโตด้วยระบบปฏิบัติการ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 13 หรือระบบปฏิบัติการ AMD Ryzen™ เจนเนอเรชั่นถัดไป


การออกแบบที่มีประสิทธิภาพสูงต่อความยืดหยุ่นในการทำงานแบบไฮบริด

เอชพีได้ตอกย้ำนวัตกรรมโดยเน้นไปที่เทคโนโลยีและระบบโซลูชันที่ไม่เพียงแต่จะให้ประสิทธิภาพสูงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถจัดการกับปัญหาใหม่ ๆ ด้วยระบบการทำงานแบบไฮบริดเมื่อทำงานร่วมกันในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่มีขั้นตอนการทำงาน และการปฏิบัติงานในรูปแบบการทำงานที่ซับซ้อน ตั้งแต่ปี 2562 ได้มีบริษัท (71%) ได้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องเวิร์กสเตชันให้กับพนักงาน โดยเป็นเครื่องที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขภายในเครื่อง และสามารถเข้าถึงเครื่องได้จากระยะทางไกล ผลิตภัณฑ์รุ่น Z by HP มาพร้อมกับฟีเจอร์ HP Presence ที่มีเครื่องมือการทำงานร่วมกันและระบบโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานในปัจจุบัน



ZBook G10 กลุ่มผลิตภัณฑ์โมบายเวิร์กสเตชันล่าสุด ได้แก่ ZBook Firefly, ZBook Power, ZBook Studio, ZBook Fury —มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแบตเตอรี่มีอายุที่ยาวนาน และสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา


ZBook Firefly G10 และ ZBook Power G10เวิร์กสเตชันสองรุ่นใหม่ที่ผสานประสิทธิภาพในระดับมืออาชีพเข้ากับความคล่องตัว ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยชิ้นส่วนประกอบในระดับ pro-grade  มีการปรับปรุงคุณสมบัติการทำงานร่วมกัน และการแสดงผลสีหน้าจอที่แม่นยำ และองค์ประกอบทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการทำโปรเจกต์ได้จากทุก ๆ ที่ อีกทั้งยังมีตัวเลือกต่าง ๆ ในการตั้งค่าด้วยขุมพลังจากสถาปัตยกรรม Intel® vPro® แบบใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยระบบปฏิบัติการ Intel Core™ เจนเนอเรชั่น 13 และระบบปฏิบัติการ AMD Ryzen™ PRO เจนเนอเรชั่นถัดไป สำหรับรุ่นพกพา (mobile) และ GPU NVIDIA RTX™ Ada Generation สำหรับแล็ปท็อป หรือการ์ดจอ integrated AMD Radeon™ ด้วยประสิทธิภาพเหล่านี้สามารถช่วยลดการทำงานที่เชื่องช้าในระหว่างขั้นตอนการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มผลิตภาพการผลิตไปด้วย ZBook Firefly และ ZBook Power จะเป็นรุ่นแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ZBook ที่นำเสนอระบบปฏิบัติการ AMD Ryzen™ และ Ryzen™ PRO สำหรับใช้ในรุ่นพกพา (mobile)

ZBook Studio G10ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานหรือกระแสงานด้วยระบบปฏิบัติการ Intel® Core™ i9, NVIDIA RTX™ 5000 Ada Generation Laptop GPU หรือ GeForce RTX™ GPU, และ 64 GB RAM ตั้งแต่การออกแบบ มิติไปจนถึงข้อมูลวิทยาศาสตร์และการประมวลผลด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ได้ติดตั้งระบบ ZBook Studio ที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพในระดับมืออาชีพ มีความทันสมัยซึ่งออกแบบมาสำหรับการสร้างโมเดลที่มีความซับซ้อน สามารถเรนเดอร์หรือสร้างภาพกราฟฟิกตามเวลาจริงหรือสามารถสรุปและแสดงข้อมูลออกมาให้อยู่ในรูปของแผนภาพได้

ZBook Fury G10สามารถจัดการกับขั้นตอนการปฏิบัติงานหรือกระแสงานที่ซับซ้อนได้จากทุกที่ด้วยระบบปฏิบัติการ desktop class Intel Core HX นอกจากนี้ใน ZBook Fury รุ่นใหม่นี้ ยังได้ใส่ NVIDIA RTX™ 5000 Ada Generation Laptop GPU เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเรนเดอร์โมเดล มิติ ใช้งานระบบจำลอง วิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ หรือใช้งานโปรแกรมการเรียนรู้แบบจำลอง (Training machine learning models) ไปพร้อมๆกัน


นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์รุ่น Z by HP Performance Desktops ที่ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นเครื่องเวิร์กสเตชันในรูปแบบ Single-Socket ที่ทรงพลังที่สุดในโลกที่มาพร้อมกับ GPU 4 ตัว สามารถช่วยประมวลผลขั้นตอนปฏิบัติงานที่ซับซ้อนและข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ผลิตภัณฑ์ Z by HP  รุ่นเดสก์ท็อปเวิร์กสเตชันที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ ประกอบไปด้วยระบบปฏิบัติการ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่นใหม่8 และ GPU NVIDIA RTX™ รุ่นล่าสุด เดสก์ท็อปเวิร์กสเตชันเหล่านี้มีไว้สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการขุมพลังและประสิทธิภาพในการประมวลผลกระแสข้อมูลจำนวนมาก แต่ยังคงมีความคล่องตัวเมื่อมีการเข้าถึงเครื่องจากระยะไกล Z2 Mini G9, Z2 SFF G9, Z2 Tower G9 และ Z1 Tower G9 ได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับนักออกแบบ วิศวกร และนักเรียนที่ต้องทำงานในหลาย ๆ แอปพลิเคชันพร้อมกัน นอกจากนี้ในรุ่น Z2 Mini G9, Z2 SFF G9 และ Z2 Tower G9 ยังรองรับฟีเจอร์ HP Anyware Remote System Controller อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงการจัดการจากระยะไกลที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก อุปกรณ์นี้สร้างขึ้นสำหรับเทคโนโลยี Out-of-Band Management ทำให้แผนกไอทีสามารถตรวจสอบและจัดการเวิร์กสเตชันทุกเครื่องได้จากทุกที่ และผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปเริ่มต้นของ Z by HP ยังคงนำเสนอประสิทธิภาพและความสามารถในวงกว้างเพื่อช่วยให้ผู้ใช้อยู่ในโซนสร้างสรรค์ได้ตลอดเวลา

 


เปิดประสบการณ์การมองเห็นและได้ยินอย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่ทำงาน

การทำงานแบบไฮบริดไม่ใช่แค่การทำงานจากระยะไกล แต่ยังเกี่ยวกับการมอบประสบการณ์ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นทั้งสำหรับผู้ที่อยู่ในห้องและสำหรับผู้ที่เข้าร่วมจากนอกห้อง ขณะนี้เอชพีและ Poly กำลังส่งมอบชุดอุปกรณ์การประชุมผ่านวิดีโอเชิงธุรกิจที่ครอบคลุมที่สุดในโลกสำหรับการทำงานแบบไฮบริด


การอัปเดตซอฟต์แวร์ Poly ล่าสุด Poly Video OS 4.0 ให้ประสบการณ์ที่ไร้ที่ติ อาทิ โหมด multi-camera ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถเก็บเสียงจากลำโพงหลายตัวไว้ในเฟรมเพื่อประสบการณ์การทำงานร่วมกันทางไกลที่น่าสนใจมากขึ้น Poly Video OS 4.0 พร้อมใช้งานแล้วในแถบวิดีโอ Poly Studio X Series และระบบการประชุมผ่านวิดีโอแบบโมดูลาร์ Poly G7500 Poly Studio X70 เป็นแถบวิดีโอตัวแรกและตัวเดียวสำหรับห้องขนาดใหญ่ที่ได้มีการรับรองสำหรับ Microsoft Teams พร้อมกับ Poly G7500 นอกจากนี้ แถบวิดีโอที่ใช้แอนดรอยด์ ของ Poly Studio X มีให้ใช้งานและได้รับการรับรองสำหรับการใช้ Google Meet

 


ไม่ว่าคุณจะโทรสายส่วนตัว ประชุม หรือฟังรายการเพลงโปรดของคุณ ชุดหูฟังเอียร์บัดไร้สาย Poly Voyager Free 60 Series ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้จะมอบประสบการณ์ระดับมือโปรที่เหนือชั้น ทางเอชพีขอแนะนำรุ่นระดับเริ่มต้น Poly Voyager Free 60 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์พกพาและมาพร้อมกับเคสชาร์จมาตรฐาน โดยซีรีส์นี้ประกอบด้วยสามเวอร์ชัน ได้แก่ Poly Voyager Free 60, Poly Voyager Free 60 UC และ Poly Voyager 60+ UC เวอร์ชัน Poly Voyager Free 60 UC และ 60+ UC ได้มีการรับรองสำหรับ Microsoft Teams และ Zoom ทุกรุ่นเหมาะกับแอปพลิเคชันการประชุมชั้นนำ


HP 920/925 Ergonomic Vertical Mouse ผู้ใช้เมาส์เกือบ (70%) ประสบปัญหาปวดบริเวณข้อมือ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะช่วยให้มือของคุณอยู่ในตำแหน่งตั้งตรงตามธรรมชาติซึ่งจะทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น HP 920/925 เป็นเมาส์ไร้สายที่อเนกประสงค์มากที่สุดในโลก มีที่พักข้อมือแบบถอดได้เพื่อให้ใช้งานได้ทุกที่ อีกทั้งผู้ใช้จะไม่รู้สึกผิดกับสิ่งแวดล้อมด้วยวัสดุรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากพลาสติ เมื่อคุณต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บนท้องถนนอย่างสะดวกและราบรื่นเสมือนใช้งานอยู่ที่บ้าน ลองเปิดใจให้กับ HP 4K USB-C Multiport Hub ด้วยการออกแบบที่กะทัดรัดเป็นพิเศษ ฮับหลายพอร์ตที่มีพอร์ต USB-C® อเนกประสงค์ถึง พอร์ต พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการหลายระบบ – พอร์ต 65W สำหรับจ่ายไฟให้กับแล็ปท็อป สองพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อและชาร์จอุปกรณ์เสริม และอีกพอร์ตหนึ่งสำหรับชาร์จหรือเชื่อมต่อกับจอแสดงผล 4K พร้อมฟังก์ชั่นครบครัน

 

และ DECT™ ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการสื่อสารเคลื่อนที่ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการธุรกิจค้าปลีกและช่องทางตลาดแนวใหม่ โทรศัพท์ IP DECT™ แบบไร้สาย Poly Rove 20 จะมอบอิสระในการเคลื่อนย้ายและความยืดหยุ่นในการปรับขนาดตามการเติบโตของบริษัท Poly Rove 20 สร้างขึ้นสำหรับพนักงานในสถานที่ปฏิบัติงาน เป็นเครื่องโทรศัพท์ DECT เซลล์เดียวแบบเริ่มต้น พร้อมการสื่อสารที่เสถียร ปลอดภัย และสัญญาณที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง มาพร้อมกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 35 ชั่วโมง และสามารถจับคู่กับฐาน Poly B1 ได้อย่างง่ายดายเพื่อรองรับการโทรพร้อมกันและการขยายช่วงเสียง โทรศัพท์มือถือ Rove 20 เข้ากันได้กับโทรศัพท์ IP ของ Rove ทุกรุ่น โดยใช้มาตรฐานล่าสุดในการรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย DECT™ เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างอิสระ


การขยายขอบเขตสำหรับการจัดการควบคุมพีซีในระยะไกล

การทำงานแบบไฮบริดนั้นทำให้การจัดการพีซีในระยะไกลมีความซับซ้อนมากขึ้นและยังมีความจำเป็นเพิ่มยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายนี้เอชพีจึงได้ทำการเปิดตัว HP Wolf Connect ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อการจัดการด้านไอทีที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีความปลอดภัยในการเชื่อมต่กับพีซีในระยะไกล ทำให้ฝ่ายไอทีขององค์กรสามารถจัดการอุปกรณ์ได้แม้ในขณะที่ปิดเครื่องหรืออยู่ในโหมดออฟไลน์  โดยการใช้เครือข่ายเซลลูล่าร์ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพของ HP Wolf Connect ช่วยให้ทีมไอทีสามารถจัดการพนักงานแบบไฮบริดที่กระจัดกระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถลดเวลาและความพยายามเกินจำเป็นในการแก้ไขคำร้อง (support tickets) พร้อมทั้งสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจากการสูญหายหรือการโจรกรรมเพื่อลดการถูกละเมิดของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึงเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินทรัพย์

HP Wolf Connect พร้อมด้วย HP Wolf’s Protect and Trace นั้นเป็นบริการซอฟต์แวร์ตัวแรกของโลกที่สามารถระบุตำแหน่ง ล็อก และลบข้อมูลพีซีได้จากระยะไกล แม้ว่าจะปิดหรือไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็ตาม ความสามารถนี้ช่วยปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญในการเคลื่อนย้าย ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีโดยลดความจำเป็นในการแก้ไขหรือเปลี่ยนพีซี


Home Delivery เพิ่มความคล่องตัวในการตั้งค่า Hybrid Worker

ขณะนี้ทีมไอทีดูแลจัดการพนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดทั้งที่บ้านและในออฟฟิศ การมอบอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้แก่พนักงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยและความซับซ้อน รวมถึงกระบวนการทำงานที่ไม่สะดวก

 

ในฐานะที่เอชพีเป็นส่วนหนึ่งของ HP Logistics Services HP Home Delivery เป็นโซลูชันการขนส่งของอย่างปลอดภัย ที่สามารถจัดส่งพีซีเพื่องานธุรกิจ จอแสดงผล และอุปกรณ์ต่อพ่วงของเอชพี ไปยังที่พักอาศัยของพนักงานที่อยู่ทั่วโลกได้โดยตรง เพื่อให้พนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดสามารถรับอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและใช้งานได้ทันทีที่แกะกล่อง การอัปเดต HP Home Delivery ช่วยให้การสั่งซื้อ การติดตาม และหลักฐานการจัดส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ราคาและการวางจำหน่าย

The HP Elite x360 830 G10 วางจำหน่ายแล้วที่ hp.com ในราคา 39,990 บาท

The HP EliteBook 830 G10, HP EliteBook 840 G10, และ HP EliteBook 860 G10 วางจำหน่ายแล้วที่ hp.com ในราคาเริ่มต้นที่ 36,990 บาท

The HP EliteBook 835 G10, HP EliteBook 845 G10, และ HP EliteBook 865 G10 คาดว่าวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤษภาคม ในราคาเริ่มต้น 36,990 บาท

The HP EliteBook 630 G10, HP EliteBook 640 G10, และ HP EliteBook 650 G10 วางจำหน่ายแล้วที่  hp.com ในราคาเริ่มต้นที่  34,990 บาท

The HP Pro x360 435 G10 วางจำหน่ายแล้วที่ hp.com ในราคา 32,990 บาท

The HP ProBook 440 G10 และ HP ProBook 450 G10 วางจำหน่ายแล้วที่ hp.com ในราคาเริ่มต้นที่ 32,990 บาท

The HP ProBook 445 G10 และ HP ProBook 455 G10 วางจำหน่ายแล้วที่ hp.com ในราคาเริ่มต้นที่ 32,990 บาท

The HP 920/925 Ergonomic Vertical Mouse คาดว่าจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายน ในราคา 3,990 บาท

The HP 4K USB-C Multiport Hub คาดว่าจะวางจำหน่ายช่วงเดือนพฤษภาคม ในราคา 2,990 บาท


ชุดเอกสารข้อมูลและข้อมูล ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันที่ประกาศในงาน HP 2023 Amplify Partner Conference สามารถติดตามได้ที่ HP Newsroom

ใหม่กว่า เก่ากว่า