ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบไฮบริด แบบทำงานจากระยะไกล แบบที่สามารถยืดหยุ่นได้ หรือการทำงานในออฟฟิศรูปแบบและสถานที่ในการทำงานของเราคือสิ่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล |
ในปัจจุบัน รูปแบบที่เราทำงาน หรือสถานที่ที่เราทำงานในเวลานี้มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแบบผสมผสานหรือที่เรียกว่าไฮบริดเวิร์ก การทำงานจากระยะไกล (Remote Work) การทำงานที่มีความยืดหยุ่น หรือการนั่งทำงานในออฟฟิศ มีอยู่หนึ่งสิ่งที่สอดคล้องกันโดยพื้นฐาน นั่นคือเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นตัวสร้างความสมดุลที่เยี่ยมยอดในการขับเคลื่อนในการทำงานร่วมกัน (Collaboration) และเพิ่มประสิทธิผล อีกทั้งให้ประสบการณ์ความยืดหยุ่นและความมีอิสระในรูปแบบใหม่อีกด้วย
ปัจจุบัน ในขณะที่ใครหลายคนสามารถเลือกในการที่จะทำงานจากที่ใดก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อประสบการณ์ในการทำงานของเราอยู่ดี ซึ่งการแก้ไขและขจัดปัญหาความท้าทายนี้คือหัวใจของปรัชญาในการออกแบบของเรา และเป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมต่างๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียลของเรา โดยครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์หลักไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมไปจนถึงซอฟต์แวร์และโซลูชันที่ยกระดับของสัมผัสในการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน
ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล พีซีที่ให้ทั้งความชาญฉลาดและความปลอดภัยของเดลล์ได้รับการพัฒนาดีไซน์ใหม่ พร้อมทั้งคุณสมบัติสำหรับการทำงานร่วมกันใหม่ ตลอดจนประสิทธิภาพในระดับใหม่ พร้อมทั้งแล็ปท็อปและเวิร์กสเตชัน เราได้ลดความซับซ้อนกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อป เสริมมอนิเตอร์ที่น่าทึ่ง ตามด้วยการขยายความเป็นอัจฉริยะให้ระบบนิเวศของพีซีทั้งหมด ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราคิดถึงความยั่งยืน ความปลอดภัย ความสามารถในการจัดการ (Manageability) ตลอดจนการให้บริการที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจในการที่จะสามารถบรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งยังสามารถลดภาระการทำงานวันต่อวันของแผนกไอทีลงได้
เพิ่มเติมเสริมประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์
ไล่จากโทรศัพท์ที่เราใช้ไปจนถึงรถยนต์ที่เราขับ เทคโนโลยีคือสิ่งที่เข้ามาช่วยเติมเต็มตัวตนของเรา ซึ่งอาจกล่าวได้ในแบบเดียวกันนี้เมื่อพูดถึงพีซีที่เราใช้ในการทำงาน ผู้คนไม่เพียงต้องการอุปกรณ์การทำงานเชิงคอมเมอร์เชียลที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้เพื่อผลิตผลการทำงานในระหว่างการเดินทาง ตลอดจนการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ที่ราบรื่นไม่ติดขัด หากแต่ยังต้องการอุปกรณ์ที่สามารถส่งเสริมสไตล์ที่มากับความสวยงามด้านการดีไซน์อีกด้วย มาดูรายละเอียดกันว่าสิ่งเหล่านี้มาปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดของเราอย่างไร
Latitude: เดลล์ได้ทุ่มเทให้กับนวัตกรรมจำนวนมหาศาล และการดีไซน์ที่มีรายละเอียดตามจุดมุ่งหมายลงในอุปกรณ์เหล่านี้ คุณลักษณะการทำงานร่วมกันด้วยเสียงและวิดีโอในระดับแอดวานซ์ วัสดุแบบยั่งยืนที่สามารถนำไปรีไซเคิล และเทคโนโลยีแป้นพิมพ์แบบ mini-LED ที่ประหยัดแบตเตอรี่ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่น่าทึ่งเหล่านี้และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Latitude ใหม่ทั้งหมดของเราได้ ที่นี่
- Latitude 9440 ระดับอัลตร้า-พรีเมียมของเดลล์ คือพีซีคอมเมอร์เชียลที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน (most collaborative) มากที่สุดในโลก ซึ่งสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ XPS ทำให้ Latitude 9440 เป็นแล็ปท็อปที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งผู้บริหาร ผู้ที่เป็นที่ปรึกษา หรือพนักงานขาย โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับทัชแพดสำหรับการทำงานร่วมกันแบบสัมผัสเครื่องแรกของโลกเพื่อประสบการณ์การประชุมในแบบอิมเมอร์ซีฟ (Immersive) อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งตามความต้องการเพื่อประสบการณ์การใช้งานการประชุมคอนเฟอเรนซ์ด้วยรูปแบบ 2-in-1 ที่รวมไปถึงการใช้วัสดุที่เป็นแมชชีน อลูมินัมเพื่อรูปลักษณ์และสัมผัสที่เป็นพรีเมียม พร้อมกับคีย์บอร์ดใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับแป้นพิมพ์ที่กว้างขึ้นและไร้ช่องว่าง ที่เป็นที่รู้จักในชื่อเรียก Zero-lattice เพื่อช่วยให้การทำงานตลอดวันเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
- ผู้ใช้สามารถจัดเก็บหนึ่งใน Latitude 7340/7440 Ultralights ลงในกระเป๋าได้อย่างง่ายดายในระหว่างการเดินทางระหว่างการประชุม แล็ปท็อปทั้งสองมีน้ำหนักเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณหนึ่งกิโลกรัมบวกลบ ทั้งคู่มีน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อแต่แข็งแกร่งทนทานนั่นเพราะเราไม่ได้ละทิ้งคุณสมบัติใดๆ ที่ต้องมีไปเช่นกัน แต่ละรุ่นมีจอแสดงผลขนาด 16:10 และกล้อง 5MP เพื่อพื้นที่ทำงานที่มีประสิทธิผลพร้อมความสะดวกสบายเพื่อการทำงานที่มีการเคลื่อนที่
Precision: สำหรับผู้ใช้ทั้งที่เป็นนักสร้างสรรค์ (Creators) นักออกแบบ วิศวกร ตลอดจนผู้ใช้ที่มีพลังในการสรรค์สร้างพิเศษต่างก็มีความต้องการใช้งานในแบบของตัวเอง กลุ่มผู้ใช้เหล่านี้ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความสามารถด้านกราฟิกเพื่อการใช้แอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ที่ต้องการความสามารถในการทำงานด้านกราฟิกในระดับสูง ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศ ในสตูดิโอ หรือกระทั่งอยู่ในระหว่างการเดินทางก็ตาม เดลล์ได้ปรับเพิ่มประสิทธิภาพในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Precision ทั้งแบบโมบาย และเวิร์กสเตชันแบบตั้งโต๊ะ (Fixed Workstations) ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 13 ตัวล่าสุดและ NVIDIA RTX Ada Generation Laptop GPUs ให้ตอบสนองความต้องการนี้เช่นกัน
ปีที่แล้ว เดลล์ได้เปิดตัวเวิร์กสเตชันขนาด 14 นิ้วที่ให้พลังที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ในปีนี้ Precision 5480 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพตั้งแต่โปรเซสเซอร์ไปจนถึงกราฟิกการ์ดและอื่นๆ และไม่เพียงเท่านั้น เดลล์ได้เสริมโมบายเวิร์กสเตชั่นขนาด 16 นิ้วเข้าสู่สายผลิตภัณฑ์ 5000 Series โดย Precision 5680 อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง ด้วย Intel® Core™ i9 (45W) และหน่วยความจำ DDR5 สูงสุด 64GB พร้อม NVIDIA RTX 5000 Ada graphics Generation Laptop GPU ให้พลังที่มากกว่าและประสบการณ์ที่ดื่มด่ำด้วยจอแสดงผลขนาด 16:10 และสูงถึง UHD+ พร้อม PremierColor ในรูปทรงที่มีสไตล์และน้ำหนักเบา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวิร์กสเตชัน Precision ใหม่ของเราได้ ที่นี่
OptiPlex: สามทศวรรษแห่งการสร้างนวัตกรรมเดสก์ท็อปอย่างต่อเนื่องได้นำเราไปสู่พอร์ตโฟลิโอใหม่ของ OptiPlex ตลอดเวลาที่ผ่านมา เดลล์รับฟังความคิดเห็นของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้เป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย ในปัจจุบันในการที่จะกำหนดค่า จัดซื้อ และจัดการ เดลล์ลดความซับซ้อนของกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าสามารถระบุระบบที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วตามพื้นที่ทำงาน (Workspace)และประสิทธิภาพที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างการออกแบบที่คำนึงถึงพื้นที่และการจัดโต๊ะทำงานที่เรียบง่ายแบบมินิมัลลิสต์พร้อมตัวเลือกประสิทธิภาพที่หลากหลาย หรือให้ความสำคัญที่ความสามารถในการปรับขยายและประสิทธิภาพของเดสก์ท็อปทาวเวอร์ตามต้องการ
นอกจากนี้ เรายังทำให้พอร์ตโฟลิโอมีความชาญฉลาดมากขึ้นและง่ายขึ้นสำหรับผู้ดูแลระบบไอทีในการจัดการอุปกรณ์หลายเครื่องหรือแม้แต่หลายพันเครื่องด้วยการตั้งค่าไบออสใหม่เพียงชุดเดียว ช่วยเพิ่มเวลาอันมีค่าให้กับฝ่ายไอที อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพอร์ตโฟลิโอ OptiPlex ใหม่ได้ ที่นี่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของเรา OptiPlex All-in-One ที่ให้ความสะดวกสบายและมีสไตล์ในการออกแบบที่ทันสมัย และมาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานร่วมกัน ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวในตัว
กลุ่มผลิตภัณฑ์ OptiPlex
การแตกสาขาของระบบนิเวศ
การตั้งค่าการทำงานในแบบโมเดิร์นต้องการทั้งซอฟต์แวร์และโซลูชันต่างๆโดยรอบที่ทำงานร่วมกับพีซีเพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มผลิตผลการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ลองนึกภาพหน้าที่มีความกว้างพิเศษแบบซุปเปอร์อัลตร้าไวด์ ที่เป็นจอภาพโค้งแบบ dual QHD ขนาด 49 นิ้ว ที่ให้ผู้ใช้สามารถแบ่งจอแสดงผลของคุณออกเป็นสองส่วน (Partitions) ที่เป็น QHD ขนาด 27 นิ้ว โดยไม่จำเป็นต้อง มีขอบกั้นระหว่างกลางเพื่อการทำงานหลายอย่างพร้อมกันในแบบเวอร์ชวลที่ราบรื่นยิ่งขึ้น นั่นคือสิ่งที่ Dell UltraSharp 49 Curved USB-C Hub Monitor รุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการณ์นั้น ด้วยการคำนึงถึงเทรดเดอร์ทางการเงิน วิศวกร และนักวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องการการทำงานหลายหน้าจอ (Multiscreen) ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและแสดงเนื้อหาจากพีซีสองเครื่องพร้อมกันไปยังจอภาพเดียว เทคโนโลยีจอ IPS Black อัตราส่วนคอนทราสต์ 2000:1 ให้คอนทราสต์ของสีมากกว่า IPS ทั่วไปถึงสองเท่าในมุมมองที่กว้าง มอนิเตอร์ฮับ USB-C มีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่ให้พลังงานแล็ปท็อปของคุณสูงถึง 90W และให้การเชื่อมต่อ 2.5GbE ผ่านพอร์ตอีเทอร์เน็ตในตัว และสุดท้าย จอภาพยังมาพร้อม ComfortView Plus เพื่อความสบายตาที่เพิ่มขึ้น และคุณสมบัติแบบดึงออกในตัวช่วยให้เข้าถึงพอร์ตได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้จึงสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้อย่างง่ายดาย
- เราไม่อาจมองข้ามซอฟต์แวร์ได้ และเราได้เสริมสิ่งใหม่ให้กับคุณสมบัติเดิมที่มีอยู่ของ Dell Optimizer ทั้งในส่วนของ ระบบเสียงอัจฉริยะ (Intelligent Audio) ความเป็นส่วนตัว การเชื่อมต่อ และการทำงานร่วมกันที่เรียนรู้และตอบสนองต่อวิธีในการทำงานของคุณ ลูกค้าบอกเราว่ายิ่งมีแอปพลิเคชันที่ต้องฉุดกระชากลากถูน้อยลงเท่าใดก็ยิ่งดีเท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Dell Optimizer เวอร์ชันล่าสุดขยายความเป็นอัจฉริยะจากพีซีไปยังส่วนที่เหลือในระบบนิเวศของคุณ ช่วยให้คุณสามารถจัดการจอแสดงผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงได้ง่ายขึ้นในอินเทอร์เฟซเดียว นอกจากนี้ เรายังปรับปรุงความสามารถของระบบเสียงอัจฉริยะบนพีซีของเราอีกด้วย คุณลักษณะการยกเลิกเสียงสะท้อนจะตัดเสียงสะท้อนที่ทำให้เสียสมาธิสำหรับทุกคนที่อยู่ในสาย และการตรวจสอบคุณภาพเสียงจะแจ้งเตือนคุณด้วยป๊อปอัปเมื่อคุณภาพเสียงลดลง
รองรับไอทีและอื่นๆ นอกเหนือจากนี้
หันมาเปลี่ยนคุณลักษณะบางอย่างที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอที การพูดคุยกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอโดยมุ่งเน้นไปที่วิธีที่เดลล์สามารถช่วยให้ผู้ใช้บรรลุถึงเป้าหมายด้านความยั่งยืน อีกทั้งช่วยให้สามารถทำงานในแบบไฮบริดที่ปลอดภัยท่ามกลางภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น และลดความซับซ้อนและลดภาระของแผนกไอทีที่ล้นหลาม ที่จริงแล้ว 45 เปอร์เซ็นต์ ของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ (ITDMs) รู้สึกไม่มั่นใจว่าพนักงานจะสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่ ดังนั้น เดลล์จึงมองหาวิธีการปรับปรุงให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง
- ความยั่งยืน: เดลล์ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมและลงทุนในการออกแบบที่ยั่งยืนสำหรับผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของเรา เรากำลังขยายการใช้อะลูมิเนียมที่ปลดปล่อยคาร์บอนในระดับต่ำเพื่อรวมชิ้นส่วนรีไซเคิลเพิ่มมากขึ้น และขยายวัสดุนี้ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งรวมถึง Latitude 9440 และ Precision 5680 และ Latitude 7000 series ภายในปีนี้ เราได้เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในแล็ปท็อปซีรีส์ Latitude ที่ยั่งยืนที่สุดของเรา รวมไปถึงเวิร์กสเตชัน Precision 3000 ซีรีส์ และจอมอนิเตอร์คอมเมอร์เชียลรุ่นล่าสุดของเรา ทั้งนี้ ยังรวมถึงการเพิ่ม “โหมดเงียบ” หรือ Quiet Mode ภายในการตั้งค่าการจัดการระบายความร้อนของ Dell Optimizer ที่ให้การช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 18 เปอร์เซ็นต์
- การรักษาความปลอดภัยและความสามารถในด้านการจัดการ: มุ่งเน้นที่การส่งมอบพีซีเชิงพาณิชย์ที่ให้ความปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรม อีกทั้งสร้างพื้นที่ทำงานที่เชื่อถือได้ที่มาพร้อมกับการป้องกันของทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ข่าวสารด้านความปลอดภัย ล่าสุดที่เน้นย้ำถึงบริการและโซลูชันใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับ CrowdStrike ที่ให้การรักษาความปลอดภัยของระบบซัพพลายเชนฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานฮาร์ดแวร์ และบริการตรวจจับและตอบสนองที่มีการจัดการ เพื่อช่วยลูกค้าจัดการกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังทำให้อุปกรณ์ของเราจัดการ ปรับใช้ และใช้งานได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- การจัดการข้อมูลและอุปกรณ์: อุปกรณ์เพื่อการทำงานในเชิงธุรกิจที่เปิดตัวนี้สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Cloud Client Workstation ของเดลล์ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นแอดมินด้านไอทีสามารถเชื่อมต่อพีซีเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานของ VDI ได้อย่างราบรื่นไม่มีข้อติดขัดและอย่างปลอดภัย ช่วยให้สามารถจัดการการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย