แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำซูเปอร์แอป เผยภาพรวมความสำเร็จปี 2565 ตั้งเป้าเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Building Sustainable Growth through Innovation” ชู 2 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 “Power of Superapp” และ “Operational Efficiency” มุ่งเชื่อมโยงและผสานการทำงานของทุกธุรกิจภายในอีโคซิสเต็มเพื่อสร้างซินเนอร์จีและเสริมแกร่งบริการ พร้อมใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุม 4 ธุรกิจหลัก อันได้แก่ บริการการเดินทาง (Mobility) บริการเดลิเวอรี (Deliveries) บริการทางการเงิน (Financial Services) และบริการสำหรับองค์กร (Enterprise)
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงในที่ผ่านมา เราได้เห็นสัญญาณบวกและแนวโน้มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในทุกธุรกิจของแกร็บในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในบริการขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ ที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น บริการการเดินทาง ซึ่งในปีที่ผ่านมาแกร็บได้รับการรับรองแอปพลิเคชันจากกรมการขนส่งทางบก โดยปัจจุบันบริการการเดินทางของแกร็บกลับมามียอดใช้บริการมากกว่าช่วงก่อนโควิด และหลังจากที่มีการเปิดประเทศ ยอดใช้บริการในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งขึ้นถึง 152%”
“ขณะที่ บริการเดลิเวอรี ยังคงได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้สถานการณ์โควิดจะดีขึ้นตามลำดับ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยผู้ใช้บริการมีความคุ้นชินกับการสั่งอาหารรวมถึงสินค้าหรือของใช้แบบออนดีมานด์ ทั้งบริการแกร็บฟู้ดที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งในปีที่ผ่านมาเติบโตสูงกว่าในกรุงเทพฯ ถึง 3 เท่า และบริการแกร็บมาร์ท ซึ่งเทรนด์การสั่งสินค้าประเภทของสดยังคงเติบโต โดยมีสัดส่วนเป็น 1 ใน 3 ของสินค้าทั้งหมด ในส่วนของ บริการทางเงิน เราได้มีการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในอีโคซิสเต็ม อาทิ บริการสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ เพื่อเป็นช่องทางในการหารายได้ในแบบที่ช่วยรักษ์โลก และบริการ PayLater เพื่อเพิ่มทางเลือกในการบริหารจัดการด้านการเงินให้กับผู้ใช้บริการซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี”
“ภายหลังดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลา 10 ปี แกร็บยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจ GrabForGood เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์สำคัญ นั่นคือ “Power of Superapp” ที่มุ่งผสานความร่วมมือและการทำงานของทุกธุรกิจในอีโคซิสเต็มของแกร็บให้เกิด Synergy และเอื้อประโยชน์ต่อกัน และ “Operational Efficiency” ที่จะดึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกกระบวนการทำงานของแกร็บ เพื่อขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก อันได้แก่ บริการการเดินทาง บริการเดลิเวอรี (รับส่งอาหาร สินค้าและพัสดุ) บริการทางการเงิน และบริการสำหรับองค์กร”
สำหรับในปี 2566 แกร็บ ประเทศไทย มีแผนที่จะขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
- บริการการเดินทาง (Mobility) : โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ
- ยกระดับมาตรฐานเสริมความเชื่อมั่
น โดยยังคงให้ความสำคัญกั บมาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแกร็ บและเป็นปัจจัยหลักที่ผู้ใช้บริ การให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาหรืออัพเกรดเทคโนโลยี ใหม่ๆ รวมไปถึงการกำหนดและควบคุ มมาตรฐานการให้บริการของพาร์ ทเนอร์คนขับอย่างเข้มงวด เป็นต้น - รุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเน้นยกระดับบริการเพื่อรองรั
บการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่ างชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้ ามาประเทศไทยถึง 28 ล้านคน**** ด้วยการจับมือกับหน่วยงานภาครั ฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างประสบการณ์การเดิ นทางที่ดีอย่างไร้รอยต่อตั้งแต่ สนามบิน รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันให้ ตอบรับการใช้งานของชาวต่างชาติ - เจาะตลาดพรีเมียม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่
มีพฤติกรรมการใช้จ่ายสูง โดยเราเตรียมส่งแคมเปญพิ เศษเจาะตลาดกลุ่มนี้ พร้อมเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขั บที่ให้บริการเรียกรถด้วยรถยนต์ ไฟฟ้าเพื่อให้สามารถตอบรั บความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น
- บริการเดลิเวอรี (Deliveries): โดยมี 3 ไฮไลท์สำคัญ คือ
- ตอกย้ำในด้านคุณภาพ (Quality) ของทั้งร้านอาหารบนแพลตฟอร์
มและการให้บริการ โดยยังคงชูโรงซับแบรนด์ #GrabThumbsUp ที่คัดสรรและรวบรวมร้านอร่อยชื่ อดังจากทั่วประเทศมาสร้ างประสบการณ์ความอร่อยให้กับผู้ ใช้บริการ พร้อมเตรียมเปิดตัวแคมเปญและกิ จกรรมพิเศษเพื่อมัดใจผู้ใช้บริ การในเร็วๆ นี้ - เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่
งอาหารและสินค้า (Efficiency) ด้วยเทคโนโลยีและระบบบริหารจั ดการต่างๆ เช่น การพัฒนาระบบแผนที่ และระบบคำนวณเวลารออาหาร เพื่อเพิ่มความแม่นยำ และลดเวลาในการจัดส่งสินค้า - เน้นสร้างฐานสมาชิกและความภักดี
ของผู้ใช้บริการ (Loyalty) ผ่านแพ็คเกจสมาชิก GrabUnlimited ด้วยสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับส่วนลดที่ครอบคลุมทุ กบริการของแกร็บ
- บริการทางการเงิน (Financial Services): โดยยังคงมุ่งส่งเสริมการเข้าถึ
งโอกาสทางเงินให้กับพาร์ทเนอร์ คนขับ-ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น การขยายวงเงินสินเชื่อสำหรั บพาร์ทเนอร์ร้านค้าสูงสุดถึง 500,000 บาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ ประกอบการร้านอาหารในการขยายธุ รกิจและเสริมสภาพคล่องหรื อการขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินรู ปแบบใหม่สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ อาทิ บริการสินเชื่อสำหรับผ่อนชำระสิ นค้าอื่นๆ เช่น ทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ รวมไปถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ประกันภัยสำหรับบริการเรียกรถผ่ านแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทั้ งพาร์ทเนอร์คนขับและผู้ใช้บริ การ
- บริการสำหรับองค์กร (Enterprise): โดยผลักดันบริการซูเปอร์แอปสู่
ภาคธุรกิจ ผ่าน Grab for Business โซลูชันที่จะช่วยบริหารจัดการทุ กบริการของแกร็บสำหรับลูกค้ าองค์กร ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถบริหารจั ดการเวลา และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิ ทธิภาพมากขึ้น พร้อมบุกตลาดโฆษณาเต็มรูปแบบ โดยชู GrabAds สื่อโฆษณามาแรงบนซูเปอร์แอปอย่ าง Grab ที่จะช่วยให้นั กการตลาดสามารถเจาะลึกพฤติ กรรมผู้บริโภค และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่ างตรงกลุ่มเป้าหมายและแม่นยำ
“สำหรับแผนกลยุทธ์ธุรกิจในระยะยาวนั้น แกร็บ ประเทศไทย มุ่งขับเคลื่อนองค์กรและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ภายใต้แนวคิด ‘Building Sustainable Growth through Innovation’ ซึ่งจะครอบคลุมการพัฒนาใน 3 ประเด็นหลัก อันได้แก่
1) สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกคนในอีโคซิสเต็ม ซึ่งไม่ใช่เพียงการสร้างผลกำไรของบริษัทฯ แต่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับทั้งพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านค้า ผู้ใช้บริการ รวมถึงสังคมโดยรวม
2) ร่วมผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยมุ่งส่งเสริมรูปแบบการทำงานของโลกยุคใหม่ การเข้าถึงและใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม
3) สร้างความเชื่อมั่นสู่การเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจทุกคน โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีให้กับพนักงาน การปลูกฝังเรื่องธรรมาภิบาล พร้อมปั้นทรัพยากรบุคคลให้กลายเป็นผู้นำที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”
นายวรฉัตร ปิดท้าย