Salesforce (NYSE: CRM) ผู้นำด้าน CRM ระดับโลก เปิดตัวรายงานผลการศึกษา State of the Sales ฉบับที่ห้า นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านการขายกว่า 7,700 รายจาก 38 ประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมการศึกษา 300 รายจากประเทศไทย โดยผลการศึกษาได้แสดงถึงแนวทางที่องค์กรการขายจะปรับใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมเพื่อสร้างประสิทธิภาพที่สูงสุด สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพและผลงานของตัวแทนฝ่ายขายให้สูงสุดเพื่อเร่งขับเคลื่อนความสำเร็จให้แก่ธุรกิจอย่างเร่งด่วน (Success Now)
ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากรายงาน State of the Sales ในปีนี้ได้แก่:
- หลักการใหม่ของการขาย: มุ่งเน้นในสิ่งที่สร้างให้เกิดผลสูงสุด บริษัทต่าง ๆ กำลังขยับหนีจากกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงในช่วงเวลาที่ต้องรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในระบบซัพพลายเชน ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแล และผลกระทบด้านการเมือง แม้จะพบกับความท้าทายมากมาย ตัวแทนฝ่ายขายยังคงอยู่ใต้แรงกดดันในการผลักดันยอดขายให้ถึงเป้าหมาย ทั้งนี้ 62% ของผู้ประกอบวิชาชีพด้านการขายในประเทศไทยกล่าวว่าการขายมีความยากขึ้นในสภาวการณ์ปัจจุบัน
- ทีมขายต้องพยายามหาแนวทางที่จะตอบสนองความคาดหวังที่สูงขึ้นของผู้ซื้อ ผู้ซื้อคาดหวังที่จะติดต่อกับตัวแทนฝ่ายขายได้ไม่ว่าจะทำการติดต่อผู้ขายผ่านช่องทางใดก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้น ตัวแทนฝ่ายขายยังต้องสามารถทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาที่น่าเชื่อถือได้ไปพร้อมกันด้วย หน่วยงานและองค์กรธุรกิจในประเทศไทยมีช่องทางในการติดต่อกับผู้ซื้อโดยเฉลี่ย 9 ช่องทาง
- ทีมปฏิบัติการสนับสนุนงานขาย (Sales Operation) จะช่วยเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพกับองค์กร ประสิทธิภาพการดำเนินงานมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องกับธุรกิจ ทีมปฏิบัติการสนับสนุนฝ่ายขายกำลังถูกขยายบทบาทและควาทสำคัญเชิงกลยุทธ์มากขึ้น โดยได้รับมอบหมายในการช่วยจัดการงานด้านปฏิบัติการเพื่อให้ฝ่ายขายมีเวลาเพิ่มขึ้นในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งตัวแทนฝ่ายขายในประเทศไทยประเมินว่าปัจจุบันตนสามารถใช้เวลาเพียง 27% ของสัปดาห์เท่านั้นในงานที่เป็นการขายจริงๆ
- ประสบการณ์ของผู้ขายถูกนำกลับมาประเมินใหม่อีกครั้ง บริษัทต่าง ๆ กำลังทบทวนและตรวจสอบโปรแกรมการฝึกอบรมและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยทำคู่ไปกับการจัดพื้นที่และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสมให้กับทีมขาย และจัดทำเครื่องมือเสริมสร้างทักษะให้พนักงานฝ่ายขายมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น พร้อมทั้งเป็นการรักษาพนักงานที่มีฝีมือให้อยู่กับบริษัท ทีมฝ่ายขายในประเทศไทยมีอัตราการลาออกของพนักงานฝ่ายขายโดยเฉลี่ย 25% ในช่วงปีที่ผ่านมา
คำกล่าวจากผู้บริหาร:
- “อุปสรรคนานัปการที่ถาโถมใส่ธุรกิจ ประกอบกับการจำกัดงบประมาณค่าใช้จ่ายของบริษัท ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้บริหารฝ่ายขาย ซึ่งบริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จในสภาวการณ์นี้ (success now)” คุณกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ กรรมการผู้จัดการ เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย กล่าว “การใช้ประโยชน์จากระบบ CRM ให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยการใข้ความสามารถของระบบออโตเมขั่นซึ่งสร้างกระบวนการปฏิบัติการแบบอัตโนมัติและการใช้ประโยขน์จากข้อมูลเชิงลึก มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในเศรษฐกิจขณะนี้ สำหรับประเทศไทย รายงาน State of Sales ฉบับล่าสุดเผยว่า พนักงานขายในประเทศของเราประเมินว่าพวกเขาใช้เวลาเพียง 27% ในการทำงานขายจริง ๆ การที่บริษัทจะหามาตรการในการลดงานที่ไม่จำเป็นและงานที่ไม่ได้ช่วยให้การเกิดการขาย ออกจากสิ่งที่พนักงานขายต้องทำ พวกเขาจะสามารถใช้เวลามากขึ้นในการติดต่อกับลูกค้าและทำกิจกรรมที่จะข่วยสร้างรายได้ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ”
- “ช่วงเวลาของการมุ่งเน้นแต่การเติบโตของธุรกิจเกิดการหยุดชะงักลง และถูกแทนที่ด้วยการควบคุมและเข้มงวดกับงบประมาณค่าใช้จ่ายและการมุ่งที่จะทำกำไรจากการดำเนินงานให้สูงขึ้น” คุณอดัม กิลเบิร์ด รองประธานบริหารฝ่ายขาย เซลส์ฟอร์ซ กล่าว “ในฐานะผู้ขาย เราคุ้นเคยกับสภาพการณ์และข้อจำกัดเหล่านี้และสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว ลูกค้าของเรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถรับมือกับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่นี้ ด้วยการนำเสนอแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพ การประหยัดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิผลและผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทางธุรกิจ เพื่อที่ทีมงานขายจะสามารถสร้างความไว้วางใจที่จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่จะนำธุรกิจของลูกค้าก้าวสู่เป้าหมายและพบความสำเร็จในสภาวการณ์นี้”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
อ่าน newsroom post สำหรับรายละเอียดและการวิเคราะห์เพิ่มเติม
ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มที่ report