บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) ผู้นำด้านการพัฒนาและให้
ดร. ธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) กล่าวว่า “ARV ไ
คุณพงศกร จุลละโพธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารบำรุงทาง กรมทางหลวง ระบุว่า “ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้
นายภาคภูมิ เกรียงโกมล หัวหน้าทีมโรโบติกส์ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) เผยถึงกระบวนการทำงานของโครงการนี้ว่า “HORRUS ได้ทำหน้าที่สำรวจตรวจสอบ สภาพการจราจรตามพื้นที่ที่ทาง ARV และกรมทางหลวง ร่วมกันกำหนดและพิจารณาแล้วว่าเป็นจุดที่มีภาวะการจราจรค่อนข้างหนาแน่นมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ 3 จุด ได้แก่ ถนนพหลโยธินขาเข้า กม.55+700, ถนนพหลโยธินขาออก กม.55+700, ถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันออก) ตัดถนนพหลโยธิน โดยมีการตั้งโปรแกรมการปฏิบัติการล่วงหน้าเพื่อให้ HORRUS ปฏิบัติการบินสำรวจ 5 รอบต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม2566 โดยใช้เวลาต่อปฏิบัติการเฉลี่ยครั้งละ 30 นาที ในช่วงเวลา 09.00 น., 11.00 น., 13.00 น., 15.00 น., 17.00 น. โดย HORRUS สามารถเก็บข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ และข้อมูลอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต่อการวิเคราะห์สภาพการจราจรระหว่างการบินปฏิบัติการ พร้อมจัดเก็บข้อมูลไปยังระบบคลาวด์แบบอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถเรียกดูภาพแบบ Live Streaming ให้กับเจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมนำไปวิเคราะห์ต่อได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ในกรณีที่ต้องการบินออกนอกเส้นทางยังสามารถควบคุมการบินระยะไกลผ่านสัญญาณ 5G และตรวจสอบการทำงานได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ไม่ว่าอยู่ที่ใดอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีระบบแยกแยะวัตถุที่กล้องมองเห็น ที่ใช้การประมวลผลด้วยเทคโนโลยี machine learning ที่สามารถตรวจจับพร้อมประมวลผลภาพการจราจรได้ตั้งแต่ความแตกต่างของชนิดรถ การเคลื่อนไหวของคน รวมถึงสิ่งผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนได้ ทั้งยังตรวจจับความเร็วการเคลื่อนตัวจราจร เพื่อช่วยประเมินได้ว่าเส้นทางสายใดที่มีรถติดเป็นพิเศษ หรือทางสะดวกสำหรับเดินทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อมูลให้กับประชาชนเพื่อหลีกเลี่ยง หรือใช้งานเส้นทางดังกล่าวได้ ซึ่งในปัจจุบันเราได้ให้ HORRUS ทำหน้าที่ประสานงานภาคสนามผ่านทางเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน HORRUS จะสามารถตรวจพบได้อย่างรวดเร็ว และรู้จุดเกิดเหตุได้ชัดเจนพร้อมทั้งส่งวิดีโอเรียลไทม์จากหน้างานให้เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถประเมินสถานการณ์ได้แม่นยำ และสื่อสารข้อมูลขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อเตรียมอุปกรณ์และความพร้อมในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุ และเข้าช่วยเหลือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่าในอนาคต เทคโนโลยีนี้จะสามารถต่อยอดในเรื่องของการเก็บ Data โดยการสำรวจข้อมูลเส้นทางได้ด้วยตนเอง เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับประชาชนทั่วไปได้อย่างง่ายดายและทั่วถึง ผ่านแพลตฟอร์มของกรมทางหลวง รวมถึงพัฒนาให้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับอัตโนมัติ สามารถลงพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษบนเส้นทางจราจรในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ได้อีกด้วย”
“นอกจากนั้น โครงการนี้ยังนับเป็นการดำเนินการเชิง PoC (Proof of Concept) ครั้งแรกในการช่วยบริหารจัดการการจราจรของHORRUS ซึ่งก็แสดงผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งทาง ARV และ Bedrock จะนำข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่จริง ไปพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อความพร้อมสำหรับเข้าร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ที่สนใจนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับอัตโนมัติไปใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตพลังงาน, อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน, อุตสาหกรรมการก่อสร้าง, นิคมอุตสาหกรรมการผลิต, อุตสาหกรรมด้านโทรคมนาคม, ธุรกิจภาคการเกษตร, ธุรกิจขนส่ง, การสำรวจสาธารณูปโภคและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ยกระดับศักยภาพทางธุรกิจ โดยสามารถติดต่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ARV Sales@arv.co.th หรือ โทร 02-078-4000” นายภาคภูมิ กล่าวสรุป