การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal) ให้สำเร็จภายในปี 2573 จำเป็นต้องมีการเพิ่มสมรรถนะการพัฒนานวัตกรรมเป็นอย่างสูง แม้สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของนักลงทุนที่มุ่งเน้นการสร้างผลกระทบจะเพิ่มขึ้นจาก 500,000 ล้านเป็น 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับโซลูชันที่สามารถลงทุนได้กลับยังไม่มีการพัฒนาอย่างสอดรับกัน ในแง่นี้ โครงการพัฒนานวัตกรรมที่มีการฝึกอบรมและแผนการที่เป็นระบบ ถือเป็นวิธีการที่มีค่าในการจุดประกายและส่งเสริมองค์กรที่สร้างผลกระทบซึ่งสามารถเติบโตขยายตัวได้ อย่างไรก็ตาม องค์กรเหล่านี้หลายแห่งยังขาดการสนับสนุนด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจในเชิงลึกที่จะสามารถช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความซับซ้อนของความท้าทายทางสังคมได้ เพื่อช่วยผสานความต้องการเหล่านี้ ดาลเบิร์ก (Dalberg) เครือที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางสังคมระดับแนวหน้า ได้เข้าซื้อกิจการราเวล อินโนเวชัน (Ravel Innovation) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบ สร้าง และดำเนินการระบบนิเวศชุมชนนวัตกรรมและโครงการนวัตกรรมองค์กรบริษัท เพื่อช่วยลูกค้าในการขยายความกว้างและความลึกของผลกระทบที่พวกเขาสร้างในระดับโลก การดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นการผนวกรวมความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กร และยกระดับสมรรถนะของดาลเบิร์กในการให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาล เอ็นจีโอ องค์กรบริษัทที่มีความก้าวหน้า และผู้ให้ทุนในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
การเข้าซื้อกิจการบริษัทราเวลจะทำให้ทีมงานของบริษัทช่วยสนับสนุนลูกค้าอย่างครอบคลุมทั้งกระบวนการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งรวมถึงการสร้างและดำเนินการแหล่งบ่มเพาะและตัวเร่งการพัฒนานวัตกรรมภายในบริษัท การดำเนินกระบวนการพัฒนานวัตกรรมสำหรับปัญหาที่มีการระบุโดยเฉพาะ การสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมใหม่ ๆ ในการขยายตัวอย่างมีประสิทธิผล การสร้างแพลตฟอร์มนวัตกรรม และในภาพกว้างมากขึ้น การช่วยให้การลงทุนในนวัตกรรมสร้างผลกระทบทางสังคมได้มากขึ้น
"เราเล็งเห็นมูลค่ามหาศาลในการนำความเชี่ยวชาญของราเวลมาใช้ในการให้บริการแก่ลูกค้าของเรา ที่มุ่งค้นพบและขยายไอเดียเชิงนวัตกรรมในการจัดการกับความท้าทายด้านการพัฒนาที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สุด การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้เราสามารถร่วมมืออย่างมีความหมายกับผู้รับความเสี่ยงที่มุ่งบรรเทาความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต ที่สำคัญคือทั้งสององค์กรต่างยึดถือหลักการร่วมกันในการมุ่งเน้นผลกระทบทางสังคมเป็นหัวใจสำคัญของปัญหาที่เรามุ่งแก้ไข" เการาฟ กุปตา (Gaurav Gupt) หุ้นส่วนและผู้อำนวยการระดับภูมิภาคประจำเอเชีย ดาลเบิร์ก แอดไวเซอร์ส (Dalberg Advisors) กล่าว
"ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่ฉันได้เริ่มก่อตั้งอิมแพ็คท์ ฮับ สิงคโปร์ ( Impact Hub Singapore) เมื่อปี 2555 ฉันได้เห็นว่าความเป็นพลเมืองทางสังคมและสิ่งแวดล้อมได้มีพัฒนาการอย่างไรในกลุ่มลูกค้าของเราทั้งที่เป็นองค์กรบริษัทและในภาครัฐ จากความคิดตามหลังเป็นค่านิยมความเชื่อที่เป็นแกนหลัก จากการเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้นให้สูงที่สุดไม่ว่าต้องทำอย่างไร เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับความรับผิดชอบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยรวม ในฐานะคู่ค้ารายแรกของกูเกิล ฟอร์ สตาร์ทอัพ (Google for Startups) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชุมชนของเราได้เติบโตขึ้นจนมีนักพัฒนานวัตกรรมกว่า 28,000 ราย ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ราเวลได้เข้าร่วมกับครอบครัวระดับโลกของดาลเบิร์ก และสามารถที่จะขยายการบริการและผลกระทบของเราไปยังผู้คนอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นไปอีก" เกรซ ไซ (Grace Sai) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ ราเวล อินโนเวชัน กล่าว
ด้วยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ดาลเบิร์กมุ่งที่จะบูรณาการสมรรถนะด้านการพัฒนานวัตกรรมและเครือข่ายของราเวลเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา ความเชี่ยวชาญเจาะจงอุตสาหกรรม และความเชี่ยวชาญระดับภูมิภาคของบริษัท ในการนี้ ราเวลได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดาลเบิร์กในเดือนพฤษภาคม 2565 โดยลูกค้าของดาลเบิร์กจะได้รับบริการของราเวลผ่านสำนักงานของดาลเบิร์กในทั่วโลก