1. โนเกีย โชว์ปรากฏการณ์ไร้พรมแดนระดับโลก #NoBoundaries ที่งาน Mobile World Congress (MWC) 2022
โนเกีย เข้าร่วมการจัดแสดงในงาน Mobile World Congress (MWC22) ประจำปี 2022 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - วันที่ 3 มีนาคม 2565 โดยโนเกียได้จัดแสดงนวัตกรรมใหม่ ๆ และความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ต่าง ๆ ไว้มากมายโดยรอบบริเวณอาคารจัดแสดงภายใต้แนวคิด “อนาคตที่ไร้พรมแดน” (#NoBoundaries future) ที่ยึดหลักแห่งความยั่งยืน ผลิตภาพ และความหลากหลายที่มีต่อสังคม ธุรกิจ และรัฐบาลทั่วโลก
โนเกียได้เปิดตัว Software-as-a-Service (SaaS) ใหม่สองรายการ ซึ่งเป็นบริการ 5G ขั้นสูง ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของโนเกียที่จะทำให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและผู้ประกอบการมีทางเลือกที่มีความคล่องตัวและคุ้มทุนมากขึ้นในการให้บริการแก่ลูกค้า ตลอดจนการดำเนินงานและสร้างรายได้จากเครือข่าย ถัดมาบริษัทได้ประกาศเปิดตัวบริการจัดการ (managed services) ใหม่สองตัวช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน 5G ได้เร็วขึ้นโดยการใช้ข้อมูลที่ดีกว่าจากเครือข่ายข้อมูลของพวกเขา นอกจากนี้ โนเกีย ยังได้ออกคลื่นสัญญาณ UBT-T XP Dual Band radio ที่เพิ่มมาล่าสุดในตระกูลผลิตภัณฑ์ระดับรางวัลอย่าง Wavence ที่ช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายและองค์กรสามารถให้ความจุคลื่นสัญญาณระดับสูงและการทำงานแบบ dual-carrier พร้อมด้วยอัตราการขยายระบบที่ดีที่สุดสำหรับการติดตั้งกลางแจ้ง
สำหรับความก้าวหน้าด้าน 5G ของโนเกียนั้น บริษัทได้ประกาศถึง การใช้งาน 5G Edge Slicing ครั้งแรกของโลกบนเครือข่ายเชิงพาณิชย์แบบสดด้วย Cellcom และ Telia ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอ Virtual Private Network (VPN) สำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กร ผ่านเครือข่าย 4G และ 5G เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพสูง พร้อมยังได้มีการประกาศด้วยว่าหน่วยงานด้านวิจัยของบริษัทอย่าง Nokia Bell Labs กำลังเริ่มทดลองใช้งานสัญญาณ distributed massive MIMO (DmMIMO) ร่วมกับ AT&T เพื่อเพิ่มความจุและความเร็วของอัปลิงค์ในเครือข่าย 5G ได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ โนเกีย ยังได้ออกโซลูชัน Adaptive Cloud Networking ที่รองรับระบบคลาวด์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับกับอุปสงค์ที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลาในยุค 5G ด้วยการเพิ่มความสามารถให้กับบริการเชื่อมศูนย์ข้อมูลแบบ data fabric และขยายการทำงานไปสู่ระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (edge cloud) อย่างไร้รอยต่อให้กับผู้ให้บริการ
ทางด้านงานที่สอดคล้องกับพันธกิจด้านความยั่งยืนและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้น โนเกีย ได้เปิดตัว โซลูชันระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Intelligent RAN Operations ที่จะช่วยจัดการเรื่องความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของเครือข่าย 5G ผ่านระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง (ML) โดยกรอบการทำงานและสินค้าอ้างอิงต่าง ๆ ของโซลูชันดังกล่าวช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายสามารถเสริมคุณภาพและประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย 5G รวมทั้งยกระดับประสบการณ์ให้แก่สมาชิกในระบบเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนอีกด้วย และโนเกียยังได้ออกผลิตภัณฑ์สำหรับการจำหน่ายโดยทั่วไปที่เป็นนวัตกรรมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวอย่าง Liquid Cooling AirScale portfolio ที่นับเป็นสินค้าตัวแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มุ่งในการสร้างเครือข่ายวิทยุที่ยั่งยืนและคุ้มทุนด้วยการลดการใช้พลังงานเพื่อให้สถานีฐานเย็นลง ซึ่งโซลูชันนี้ยังชนะเลิศรางวัล Innovative Breakthrough in Mobile Technology Award ของ GTI Awards 2022 อีกด้วย
เป็กก้า ลุนด์มาร์ก ประธานและซีอีโอของโนเกีย ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่งาน MWC22 ว่าการเชื่อมต่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพเพื่อต่อกรกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างไร และได้ยกตัวอย่างเรื่องราวบางส่วนจากพันธมิตรที่น่าสนใจและเป็นองค์กรด้านนวัตกรรมชั้นนำให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้รับฟัง
โนเกีย ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “ผู้นำ” ในด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานจัดการ (Managed Infrastructure Services) โดยหน่วยงานนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอิสระ GlobalData ต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่สาม รายงานกล่าวสรุปไว้ว่าโนเกียเป็นผู้นำในการประยุกต์ใช้ AI/ ML และโมเดลการประมวลผลแบบ webscale ในการปฏิบัติการเครือข่ายโทรคมนาคม เช่นเดียวกับบริการด้านความปลอดภัยและขีดความสามารถในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปฏิบัติการที่สนับสนุนโดยแพลตฟอร์มบริการ WING IoT ของโนเกีย
เจาะลึกเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นฐานในอุตสาหกรรมไร้สายที่จะก่อให้เกิดแนวโน้มสำคัญหลายประการร่วมไปกับการนำ 5G มาใช้ ได้อย่างไร เหล่านี้รวมถึงโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ การให้ความสำคัญในเรื่องดิจิทัลไลเซชั่นและออโตเมชั่นสู่การติดตั้งโปรแกรมให้กับระบบและปฏิบัติการเครือข่ายอย่างง่าย อีกทั้งพันธกิจที่ขยายวงออกไปถึงเรื่องความยั่งยืนและประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
ด้วยประสบการณ์กับผู้บริหารในบริษัทผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและพันธมิตรในอุตสาหกรรมของ Amit Kumar Dash ในตำแหน่ง Chief Architect จากแผนกบริการระบบคลาวด์และเครือข่ายของโนเกีย เขาได้เน้นให้เห็นถึงห้าเทรนด์สำคัญที่น่าจะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในปี 2565