ในมหกรรมโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2565 (Mobile World Congress 2022) คุณสตีเวน จ้าว รองประธานสายผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของบริษัทหัวเว่ย (Huawei) ได้เปิดตัวเราเตอร์อัจฉริยะที่ให้บริการครอบจักรวาล "เน็ตเอนจิน 8000 เอฟ 8" (NetEngine 8000 F8) ในระหว่างการจัดกิจกรรมไอพี คลับ คาร์นิวัล (IP Club Carnival) โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่เชื่อถือได้ ความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และการแยกสัญญาณแบบ 10GE FlexE ซึ่งช่วยให้ลูกค้าจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การเงิน พลังงาน การขนส่ง และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต สามารถสร้างเครือข่ายแวน (WAN) ที่คล่องตัว น่าเชื่อถือ และชาญฉลาด เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
สถาปัตยกรรมที่เชื่อถือได้
เน็ตเอนจิน 8000 เอฟ 8 ใช้การแยกแบบควบคุมการส่งต่อ การสลับอิสระ และการออกแบบที่คล้ายคลึงกันของแผงควบคุม สวิตช์บอร์ด แหล่งจ่ายไฟ และพัดลม มอบความน่าเชื่อถือระดับผู้ให้บริการมืออาชีพ นอกจากนี้ เทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่จดสิทธิบัตรแล้วสองรายการ ได้แก่ ระบบกู้คืน SRU (หน่วยสวิตช์และเราติ้ง) และวงจรเรียงกระแส (Rectifier Circuit) ยังทำให้เราเตอร์ใช้พลังงานน้อยลง 30% นับเป็นผลิตภัณฑ์บุกเบิกสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ
เน็ตเอนจิน 8000 เอฟ 8 มอบความสามารถในการส่งต่อที่ 2 Tbps ซึ่งสามารถพัฒนาเป็น 6.4 Tbps ได้ในอนาคต ทั้งยังรองรับได้มากถึง 32 PICs รวมถึงพอร์ต 24*100GE/240*10GE/320*GE และด้วยความหนาแน่นของพอร์ตที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่งถึงสองเท่า ทำให้มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
การแบ่งสัญญาณ 10GE FlexE
เน็ตเอนจิน 8000 เอฟ 8 ประกอบด้วยการ์ดย่อย 10GE FlexE รุ่นล่าสุด ซึ่งรองรับความละเอียดระดับเมกะบิตต่อวินาที (Mbps) และการแบ่งส่วนเครือข่ายระดับ 10K โดยผลิตภัณฑ์เราเตอร์ในซีรีส์เน็ตเอนจิน 8000 ของหัวเว่ยรองรับ 10GE/50GE/100GE FlexE พร้อมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างและดีกว่าสำหรับเครือข่ายที่ต้องการความน่าเชื่อถือของบริการสูง เช่น เครือข่ายพลังงานและการขนส่ง
โซลูชันคลาวด์แวน 3.0 (CloudWAN 3.0) ของหัวเว่ย พัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องโดยอิงเราเตอร์อัจฉริยะในซีรีส์เน็ตเอนจิน 8000 จนมีความสามารถหลักสามประการ ได้แก่ การจัดเตรียมภายในคลิกเดียว เครือข่ายเดียวสำหรับทุกคน รวมถึงการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาแบบบูรณาการ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ช่วยลูกค้าในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การเงิน พลังงาน การขนส่ง และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต สามารถสร้างเครือข่ายแวนที่มุ่งเน้นประสบการณ์การใช้งานเป็นหลักได้
การจัดเตรียมภายในคลิกเดียว
การคำนวณเส้นทางอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี SRv6 ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม สามารถสร้างเส้นทางโดยอัตโนมัติโดยอิงจากเวลาแฝงของบริการ แบนด์วิดท์ และข้อกำหนดอื่น ๆ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้ภายในไม่กี่นาทีและควบคุมเวลาแฝงสำหรับบริการด้านการผลิต หากเครือข่ายแบบดั้งเดิมเปรียบเสมือนระบบไปรษณีย์แบบเก่าที่เราไม่สามารถทราบได้ว่าจดหมายจะส่งถึงผู้รับเมื่อใด เทคโนโลยี SRv6 ก็เปรียบเสมือนระบบขนส่งทางอากาศที่ทันสมัย ซึ่งสัมภาระของผู้โดยสารสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ภายในเวลาอันสั้นโดยระบุสถานที่เปลี่ยนเครื่องไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ หัวเว่ยเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้าน SRv6 เชิงพาณิชย์ และปัจจุบันหัวเว่ยได้ปรับใช้ SRv6 บนเครือข่ายของลูกค้ามากกว่า 100 เครือข่ายทั่วโลก
เครือข่ายเดียวสำหรับทุกคน
เทคโนโลยีการแบ่งเครือข่าย FlexE ถูกนำมาใช้เพื่อให้ได้แบนด์วิดท์ตามที่กำหนด หากเครือข่ายแบบดั้งเดิมเปรียบเสมือนถนนที่ติดขัด ซึ่งยานพาหนะอาจเผชิญกับปัญหาการจราจรได้ตลอดเวลา เทคโนโลยีการแบ่งเครือข่ายก็เปรียบเสมือนการสร้างช่องจราจรพิเศษบนท้องถนน เพื่อให้แน่ใจว่ายานพาหนะที่กำหนดไว้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการจราจรที่ติดขัด ด้วยวิธีนี้ บริการการผลิต เช่น ระบบสกาดา (SCADA) และการป้องกันการรีเลย์ในอุตสาหกรรมพลังงานจึงสามารถแยกออกได้อย่างปลอดภัย ขณะที่บริการด้านการผลิตและสำนักงานก็สามารถดำเนินการผ่านเครือข่ายเดียว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านทุน (CAPEX) ลดลง
การปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาแบบบูรณาการ
IFIT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีวัดความคล่องตัวแบบอินแบนด์ต่อฮอปของหัวเว่ย มีความแตกต่างจากเทคโนโลยีวัดความคล่องตัวอินแบนด์อื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ตรงที่สามารถเปิดใช้ดิจิทัลทวินสำหรับเครือข่ายได้ หากเครือข่ายแบบดั้งเดิมเปรียบเสมือนสถานที่เกิดอุบัติเหตุซึ่งต้องการความช่วยเหลือ เทคโนโลยี IFIT และ SDN ก็เปรียบเสมือนระบบนำทางยานพาหนะที่สามารถระบุการจราจรติดขัดอย่างชัดเจนและปรับเปลี่ยนเส้นทางแบบเรียลไทม์เพื่อเลี่ยงถนนที่สภาพการจราจรย่ำแย่ โดยที่ IFIT สามารถแสดงภาพคุณภาพการให้บริการแบบเรียลไทม์ ตรวจจับข้อผิดพลาดภายในไม่กี่นาที ทำการแบ่งเขตและกู้คืนโดยปราศจากการหยุดชะงักของบริการ ทำให้เครือข่ายชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยใช้ IPv6 Enhanced เพื่อสร้างเครือข่ายแวนที่คล่องตัว น่าเชื่อถือ และชาญฉลาด หัวเว่ยจึงวางรากฐานการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งสำหรับอุตสาหกรรมจำนวนมาก เพื่อช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้นและบรรลุความสำเร็จทางธุรกิจ
