SAMSUNG เปิดตัว SOC รุ่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงในปี 2022 ในรุ่น Exynos 2200 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร พร้อมการใช้งานสถาปัตยกรรม AMD RDNA 2 อันทรงพลังสำหรับการประมวลผลกราฟิกใหม่ใน Samsung Xclipse (GPU) พร้อมกับด้วย CPU ที่เลือกใช้ Arm-Cortex X2 ที่ทรงพลังที่สุดในตลาดและ NPU ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ ให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือขั้นสูงสุด รวมทั้งปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมในการใช้งานโซเชียลมีเดีย และการถ่ายภาพ
ครั้งแรกของอุตสาหกรรมมือถือเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมขั้นสูงสุดด้วย Ray Tracing
Xclipse GPU เป็นการเริ่มต้นการเล่นเกมบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นบนสมาร์ทโฟน ด้วยสถาปัตยกรรม AMD RDNA 2 ที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นแกนหลักใน Xclipse ทำให้รองรับการประมวลผลด้าน Ray Tracing และ Variable Rate Shading (VRS) ที่มีเฉพาะใน PC, Laptop, และคอนโซลเท่านั้น แต่ในตอนนี้มาอยู่บนสมาร์ทโฟนแล้ว
Ray Tracing เป็นเทคโนโลยีปฏิวัติวงการที่จำลองลักษณะการทำงานของแสงในโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการคำนวณการเคลื่อนไหวและลักษณะสีของแสงที่สะท้อนจากพื้นผิว Ray Tracing จะสร้างเอฟเฟกต์แสงที่สมจริงสำหรับฉากที่แสดงผลแบบกราฟิก เพื่อนำเสนอกราฟิกที่สมจริงที่สุดและประสบการณ์ผู้ใช้บนสมาร์ทโฟนจาก SAMSUNG
Variable Rate Shading เป็นเทคนิคที่ปรับปริมาณงาน GPU ให้เหมาะสมโดยอนุญาตให้นักพัฒนาใช้ lower shading rate ที่ต่ำกว่าในพื้นที่ที่คุณภาพโดยรวมจะไม่ได้รับผลกระทบ สิ่งนี้ทำให้ GPU มีพื้นที่มากขึ้นในการทำงานในพื้นที่ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเล่นเกมและปรับปรุงอัตราเฟรมเพื่อการเล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Xclipse GPU ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น advanced multi-IP governor (AMIGO) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การเชื่อมต่อ 5G ที่ได้รับการปรับปรุงและคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่แน่นหนา
Exynos 2200 เป็นหนึ่งในเครื่องแรกในตลาดที่ผสานรวมแกนซีพียู Armv9 เวอร์ชันล่าสุดของ Arm ซึ่งมีการปรับปรุงอย่างมาก ในแง่ของความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสองส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ในปัจจุบัน
CPU 8 แกน ของ Exynos 2200 ได้รับการออกแบบในโครงสร้างแบบ tri-cluster ที่ประกอบด้วยแกนหลัก Arm Cortex®-X2 อันทรงพลัง 1 แกน, Arm Cortex-A710 คอร์ขนาดใหญ่ สำหรับการใช้งานด้านประสิทธิภาพพร้อมความสมดุลในการใช้งาน 2 แกน และ Arm Cortex-A510 ที่ประหยัดพลังงาน อีก 4 แกน พร้อมการใช้งานแรมแบบ LPDDR5 และเนื้อที่ภายในแบบ UFS 3.1
Exynos 2200 นำเสนอ AI บนอุปกรณ์ที่ทรงพลังกว่าด้วย NPU ใหม่ มีประสิทธิภาพของเพิ่มขึ้น 2เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้สามารถคำนวณแบบคู่ขนานได้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ AI ที่มีความแม่นยำสูงขึ้นมากด้วยการสนับสนุน FP16 (16bit floating point) นอกเหนือจาก INT8 (8bit integer) และ INT16 ที่ประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ Exynos 2200 ยังรวมโมเด็ม 3GPP Release 16 5G ซึ่งรองรับแถบคลื่นความถี่ sub-6GHz และ mmWave ด้วย E-UTRAN New Radio – Dual Connectivity (EN-DC) ซึ่งใช้ทั้งสัญญาณ 4G LTE และ 5G NR ความเร็วสูงสุด 10Gbps และการค้นหาตำแหน่งผ่าน GPS, GLONASS, BeiDou และ Galileo
ในด้านของความปลอดภัย Exynos 2200 มาพร้อมกับ Integrated Secure Element (iSE) เพื่อจัดเก็บคีย์การเข้ารหัสส่วนตัวและมี RoT (Root of Trust) นอกจากนี้ การเข้ารหัสแบบอินไลน์ HW สำหรับ UFS และ DRAM ยังได้รับการปรับปรุงให้มีการเข้ารหัสข้อมูลผู้ใช้อย่างปลอดภัยเฉพาะภายในโดเมนที่ปลอดภัยเท่านั้น
มอบประสบการณ์การมองเห็นที่ดีขึ้นและภาพคุณภาพระดับมืออาชีพ
ISP ใหม่ ของ Exynos 2200 ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับเซ็นเซอร์ภาพล่าสุดสำหรับความละเอียดสูงพิเศษสุดถึง 200MP และ 108MP 30fps ในโหมดกล้องเดี่ยว พร้อมรองรับการทำงานกล้องความละเอียด 64MP + 36MP ในโหมดกล้องคู่ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อเซ็นเซอร์กล้องได้มากถึง 7 กล้อง และสามารถทำงานพร้อมกันได้ถึง 4 กล้อง สำหรับการบันทึกวิดีโอ ISP ใหม่ รองรับความละเอียดสูงสุด 4K HDR และ 8K 60fps
ในด้านการทำงานร่วมกับ NPU และ ISP ทำให้ AI รับรู้ข้อมูลขั้นสูงเพื่อผลลัพธ์ที่ละเอียดและสมจริงยิ่งขึ้น เมื่อทำการถ่ายภาพตัว AI ที่ใช้ ML จะจดจำวัตถุหลายๆอย่างในพื้นที่, สภาพแวดล้อม และใบหน้าภายในฉาก จากนั้นจึงปรับการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสี, สมดุลแสงขาว, การเปิดรับแสง, ช่วงไดนามิก และอื่นๆ เพื่อสร้างภาพคุณภาพระดับมืออาชีพ
ด้วย multi-format codec (MFC) ขั้นสูงของ Exynos 2200 ทำให้วิดีโอมีชีวิตขึ้นมาอย่างแท้จริงด้วยการถอดรหัสวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 240fps และความละเอีบดสูงสุด 8K ที่ 60fps และการเข้ารหัส 4K ที่ 120fps หรือ 8K ที่ 30fps
นอกจากนี้ MFC ยังรวมตัวถอดรหัส AV1 ที่ประหยัดพลังงานทำให้มีเวลาใช้งานที่นานขึ้น พร้อมรองรับโซลูชันการแสดงผลหน้าจอขั้นสูงทั้ง HDR10+ ที่เพิ่มช่วงไดนามิกและความลึกให้กับภาพ และอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz เพื่อประสบการณ์การตอบสนองและราบรื่นยิ่งขึ้นเมื่อเลื่อนหน้าจอหรือเล่นเกมบนความละเอียดระดับ 2K และยังรอบรับหน้าจอการแสดงผลสูงสุดที่ 4K 120Hz