ข้อมูลช่วยเร่งให้เกิดนวัตกรรมบนเส้นทางสู่ Net Zero ผู้นำในอุตสาหกรรมกล่าวที่ AVEVA Sustainability Panel

ผู้นำด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมจาก Microsoft, Neste, Ørsted, Schneider Electric และ AVEVA เสนอแนวทางที่นำไปปฏิบัติได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ 
 

AVEVA ผู้นำด้านซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมระดับโลก ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและความยั่งยืน ได้เข้าร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ด้านเทคโนโลยีและพลังงานเพื่อเน้นย้ำบทบาทที่หลากหลายของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยให้เกิดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วทั้งระบบนิเวศ AVEVA PI World ซึ่งเป็นผู้ร่วมประชุมในการประชุมครั้งสำคัญเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับทราบว่านวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลสามารถช่วยปลดล็อกผลประโยชน์ด้านความยั่งยืนได้ในทุกภาคส่วน ข้อความที่เป็นเอกฉันท์นี้จัดทำโดยผู้นำด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมจาก Schneider Electric, Ørsted, Neste, Microsoft และ AVEVA ในการประชุมคณะกรรมการด้านความยั่งยืน 


“จากการสำรวจของ AVEVA จากผู้บริหารกว่า 850 คนและผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้นั้น แสดงให้เห็นว่ามีบริษัท 9 ใน 10 แห่งที่มองว่าจะเร่งดำเนินการกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนในปีหน้า เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงบทบาทของตนในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น โดยสี่ในห้าของอุตสาหกรรมชั้นนำต้องการเพิ่มการลงทุนด้านดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพมหาศาลของเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ข้อมูลอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลแบบคลาวด์ เพื่อทำให้การดำเนินงานในอุตสาหกรรมมีปริมาณคาร์บอนต่ำและสุทธิเป็นศูนย์” ลิซา จอนสตัน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายการตลาดและผู้บริหารฝ่ายความยั่งยืนที่ AVEVA ได้อธิบายไว้ 


“บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะลดรอยเท้าทางสิ่งแวดล้อม AVEVA เชื่อว่าชุมชนของเหล่ากลุ่มธุรกิจต้องก้าวไปให้ไกลขึ้นอีก โดยสนับสนุนด้านความยั่งยืนผ่านกิจกรรมและความร่วมมือกันของเรา หรือเรียกได้ว่า เป็น handprint (รอยฝ่ามือ) แห่งความยั่งยืนของเรานั่นเอง ด้วยลักษณะความสามารถที่ AVEVA มอบให้แก่ลูกค้า โซลูชันของเราสร้างผลกระทบอย่างสร้างสรรค์ต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โซลูชันการจัดการโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูล เช่น ระบบ AVEVA PI ซึ่งให้บริการโดยร่วมมือกับ Azure Cloud ของ Microsoft สามารถช่วยธุรกิจต่าง ๆ หลายพันแห่งในการค้นหาเส้นทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและกลายมาเป็นผู้ที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศ” จอห์นสตันกล่าวเสริม 


กลยุทธ์การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ 


ผู้ร่วมอภิปรายกล่าวว่า นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลนั้นมีส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยผู้เข้าร่วมการอภิปรายได้เรียนรู้กลยุทธ์ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ในการสร้างองค์กรที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ 

  1. รวมความยั่งยืนเข้าไปใน KPI ของคุณ: โอลิเวียร์ บลูม ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์และความยั่งยืนของ Schneider Electric ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลกกล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ ควรพัฒนากลยุทธ์ด้านความยั่งยืนในลักษณะเดียวกับที่พวกเขาทำกับด้านอื่น ๆ ของธุรกิจ เช่น การเงินหรือทรัพยากรบุคคล ความเป็นไปได้ที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ควรถูกนำมาคำนึงถึงในการออกแบบสินทรัพย์ใหม่ เช่น เพื่อปรับปรุงความยั่งยืนและเร่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การนำ KPI ด้านความยั่งยืนเข้าไปรวมกับส่วนที่เหลือของธุรกิจจะสามารถส่งมอบผลลัพธ์ที่สำคัญที่จำเป็นได้ “ความยั่งยืนก็เหมือนกับธุรกิจทุกแขนง” บลูมกล่าว “คุณควรมีกลยุทธ์ความยั่งยืน ซึ่งควรนำไปบูรณาการอย่างสมบูรณ์กับกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณ”
  2. ใช้ข้อมูลเพื่อคาดการณ์นวัตกรรม: การประยุกต์ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์กับข้อมูลอุตสาหกรรมที่รวบรวมทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าสามารถเปิดเผยเส้นทางใหม่แห่งนวัตกรรมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บริษัทพลังงานรายใหญ่อย่าง Ørsted มีกังหันลมนอกชายฝั่งดำเนินงานอยู่จำนวน 1,000 ตัว โดยเจสเปอร์ สคอฟ เกรทลุนด์ ผู้จัดการอาวุโสของศูนย์ความสามารถเชิงตัวเลขของ Ørsted กล่าวว่า การเฝ้าดูข้อมูลอย่างต่อเนื่องนั้น จะหมายถึงเกิดการทดลองที่ต่างกันอยู่ถึง 1,000 รายการ เพื่อนำข้อมูลกลับเข้ามาวิเคราะห์เพื่อผลิตสินทรัพย์ในอนาคต นวัตกรรมนั้นถือเป็นกระบวนการที่ต้องการการปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง และต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และบิ๊กดาต้า มาช่วยอำนวยความสะดวกกระบวนการนั้น ๆ โดย Ørsted กำลังจะกลายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2568
  3. ขยายขอบเขต handprint ของคุณด้วยความร่วมมือกับพันธมิตร: Neste ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ที่มีคำมั่นสัญญาด้านความยั่งยืนเหมือนกันในเรื่องเส้นทางสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนของสายการผลิตภายในปี 2578 บริษัทใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและเพื่อช่วยให้บริษัทอื่น ๆ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แซลลา โอเน็น รองประธานฝ่ายความยั่งยืนของ Neste กล่าว “เรากำลังพิจารณาว่าเราจะเปลี่ยนห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของเราได้อย่างไร และเราจะช่วยผู้อื่นเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร” เธอกล่าว ข้อมูลสามารถเสนอเส้นทางเชิงบวกในการปรับปรุง handprint ของบริษัทได้ เธอกล่าวเสริม ด้วยกระบวนการนี้ ระบบนิเวศทั้งหมดสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะปล่อยก๊านสุทธิเป็นศูนย์ได้
  4. วัดผลทุกอย่างเพื่อความยั่งยืนในวงกว้าง: บริษัทหลายพันแห่งกำลังกำหนดเป้าหมายในการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ แต่การบรรลุเป้าหมายนั้นต้องใช้เครื่องมือวัดที่ดีกว่า ลูคัส จอปปา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมของ Microsoft กล่าว โดยบริษัทที่เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft นั้น ได้มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่ปราศจากคาร์บอนภายในปี 2573 “คุณไม่สามารถจัดการสิ่งที่คุณไม่สามารถวัดได้” เขากล่าว เนื่องจากคาร์บอนเป็นส่วนประกอบสำคัญของชีวิต การวัดค่าคาร์บอนจึงต้องมีการเฝ้าติดตามในทุกแง่มุมของธุรกิจ "เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในกล่องเครื่องมือ [ขององค์กร] ที่ช่วยให้เราสามารถไปถึงระดับที่ความยั่งยืนต้องการ และในขอบเขตที่ความยั่งยืนต้องการ" จอปปากล่าว
คณะกรรมการสรุปว่าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ได้ถูกบังคับให้ประนีประนอมความสามารถในการแข่งขันในระยะสั้นอีกต่อไปเพื่อไล่ตามอนาคตแห่งความยั่งยืนที่มากขึ้น ฟอรัมความเป็นผู้นำทางความคิดสำหรับผู้บริหารที่เป็นพันธมิตรของ AVEVA เปิดให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดที่ลงทะเบียนที่ AVEVA PI World

งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดความคิดริเริ่มของ AVEVA เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจแบบครอบคลุมและมีการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ซึ่งสอดคล้องกับเส้นทางการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 °C ที่โลกกำลังดำเนินการเพื่อ

ใหม่กว่า เก่ากว่า