WeTV ประกาศโร้ดแมป 3 ปี รุกตลาดวิดีโอสตรีมมิง ด้วยกลยุทธ์ “3X” ตั้งเป้าเติบโต 3 เท่า เล็งขึ้นแท่นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2023

 

WeTV แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงชั้นนำ ที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชีย ประกาศแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2021-2023 เตรียมรุกตลาดสตรีมมิงในประเทศไทยเต็มกำลัง หลังจากเติบโตกว่า 63% ในปี 2021 และก้าวเป็นอันดับ 1  แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (AVOD) ภายใต้กลยุทธ์การตลาด “3X”: 1. Expansion – ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV ในทุกมิติ ทั้งซีรีส์จีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น พร้อมเติมพอร์ตโฟลิโอกลุ่มอนิเมะ ซีรีส์วาย รายการ วาไรตี้ และอีสปอร์ต ควบคู่กับจับมือพันธมิตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง 2. Extra Experience - เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความบันเทิงครบรสด้วยฟีเจอร์ และกิจกรรมสนุกๆ ตามแบบฉบับเฉพาะของ WeTV และ 3. Exclusivity – มอบความเอ็กซ์คลูซีฟที่เหนือกว่า ทั้งรับชมคอนเทนต์ที่แรก ดูย้อนหลัง และออริจินัลคอนเทนต์ที่ดูได้ที่WeTV ที่เดียว ยึดออริจินัลคอนเทนต์จีน และไทยเป็นหัวหอกในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเติบโตในไทย 3 เท่าพร้อมครองตำแหน่งผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2023 รวมถึงก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มีคอนเทนต์เอเชียที่ผู้ใช้งานชื่นชอบมากที่สุด



มร.ไคเชิน ลี Head of WeTV and IFlix, SEA กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดวิดีโอสตรีมมิง หรือ Over-the-top (OTT) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 180 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนการเข้าถึง 31% โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  57% ของผู้ใช้งาน OTT ใช้เวลาไปกับการรับชมคอนเทนต์วิดีโอสตรีมมิงมากขึ้น สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของ WeTV ทั่วโลก โดยมียอดผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users หรือ MAU) มากกว่า 45 ล้านราย (มกราคม-สิงหาคม 2564) ยอดชมวิดีโอมากกว่า 25 ล้านวิวต่อวัน นอกจากนี้ จำนวนผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิกของ WeTV ยังเติบโตขึ้นมากกว่า 150% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยตลาดสำคัญจะอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นำโดยไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม”



นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และการขาย และผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันแนวโน้มการเสพคอนเทนต์บน OTT เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมของ WeTV ในประเทศไทยพบว่า คนไทยให้การยอมรับ WeTV เป็นอย่างดี โดยในช่วงมกราคมถึงสิงหาคมของปี 2021 WeTV มียอดผู้ใช้งาน DAU เพิ่มขึ้นถึง 63% จากปี 2020 และยังเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand – AVOD) และเป็นอันดับ 2 ในส่วนของผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิก (Subscription Video On Demand – SVOD) โดยใน 6 เดือนแรก WeTV มียอดผู้ใช้งานรายเดือน (MAU) เฉลี่ยสูงถึง 13 ล้านคน”



“ขณะที่กลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ของ WeTV จะเป็นผู้หญิง 70% และผู้ชมกลุ่มหลักมีอายุเฉลี่ย 18-24 ปี มีสัดส่วน 29% และ 25-34 ปี มีสัดส่วน 26% สำหรับประเภทของคอนเทนต์ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นใน WeTV ได้แก่ คอนเทนต์จีน ที่ตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ของคอนเทนต์จีนได้อย่างสง่างามด้วยอัตราการเติบโตถึง 137% คอนเทนต์ไทย 40% และคอนเทนต์อนิเมะ 93% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ WeTV มาจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย ด้วยพันธมิตรทางคอนเทนต์มากกว่า 40 ราย เพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์ให้กับผู้ชมในประเทศไทย รวมถึงมีการนำเสนอคอนเทนต์เอเชียที่ครอบคลุมทุกความต้องการทั้งจีน ไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ละคร ภาพยนตร์ อนิเมะ และรายการวาไรตี้ต่างๆ รวมกว่า 800 คอนเทนต์ในแพลตฟอร์ม หรือมีจำนวนคอนเทนต์รวมกว่า 1 ล้านนาที”



เพื่อสานต่อความสำเร็จดังกล่าว WeTV ประเทศไทยได้วางแนวทางการดำเนินงานในปี 2021-2023 ภายใต้กลยุทธ์ “3X” เป็นอาวุธสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตต่อจากนี้ ได้แก่



Expansion – ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV ในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มคลังคอนเทนต์ทั้งซีรีส์จีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น ขยายพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มอนิเมะที่เป็นคอนเทนต์ที่กำลังมาแรง ซีรีส์วาย รายการวาไรตี้ และอีสปอร์ต ควบคู่กับจับมือพันธมิตรทั้งพันธมิตรกลุ่มสถานีโทรทัศน์ เช่น สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงผู้ชมโทรทัศน์ และเพิ่มโอกาสการเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม WeTV ได้มากขึ้น อีกทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำธุรกิจในหลายแวดวง ทั้งกลุ่ม Telco กลุ่มบริการชำระเงิน  กลุ่ม OTT Device เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับชมออนไลน์ และอำนวยความสะดวกในการชำระค่าบริการให้แก่ผู้ชมมากขึ้น อีกทั้ง WeTV ยังจับมือกับไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มอย่างธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจเดลิเวอรี่ หรือการแลกคะแนน ฯลฯ และพันธมิตรในเครือเทนเซ็นต์ ประเทศไทย อย่าง Sanook, JOOX, PUBG MOBILE และ WeComics เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับรู้กับผู้ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV ได้มากขึ้น



Extra Experience - เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความบันเทิงครบรส ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์เด่นเฉพาะตัว เช่น ฟีเจอร์ Flying comment ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงด้วยยอดโตกว่า 3 เท่า และมีจำนวนคอมเมนต์ถึงกว่า 1.5 ล้านคอนเมนต์ต่อเดือน ฟีเจอร์ Ins-screen ฟีเจอร์ Vote ฟีเจอร์พิเศษกับการสะสม “VIP Digital Gift Card” เพื่อมอบเป็นของขวัญและแบ่งปันความบันเทิงให้เพื่อนๆ ฟีเจอร์ Fast Track ที่มียอดใช้เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 4 เท่าจากปี 2020 และฟีเจอร์ Rent การเช่าชมคอนเทนต์พิเศษบนแพลตฟอร์ม การถ่ายทอดสดรายการในรูปแบบต่างๆ อาทิ วาไรตี้ และอีสปอร์ต อีกทั้งการสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง โดยสร้างประสบการณ์ร่วมแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ผู้ชมผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เชื่อมโลกออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เช่น กิจกรรมแฟน มีตติ้งกับ WeTV Global Brand Ambassador ทั้งหมดนี้เพื่อมอบประสบการณ์ร่วมให้ผู้ใช้งานอยู่กับ WeTV ได้นานยิ่งขึ้น



Exclusivity – มอบความเอ็กซ์คลูซีฟที่เหนือกว่า ทั้งรับชมคอนเทนต์ที่แรก (First Run) ดูย้อนหลัง (Rerun) และการคัดสรรคอนเทนต์คุณภาพทั้งออริจินัลคอนเทนต์ของจีน และไทยมานำเสนอให้แฟนๆ ชาวไทยชมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์จากเทนเซ็นต์วิดีโอ ทั้งซีรีส์ฟอร์มใหญ่หรือรายการวาไรตี้จากจีน และคอนเทนต์ที่มาจากพันธมิตรผู้ผลิตรายใหญ่ของไทย ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่ผลิตออริจินัลคอนเทนต์ไทยที่มากที่สุด โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ WeTV จับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดตัว WeTV ORIGINAL ออริจินัลคอนเทนต์ไทยทั้งหมด 13 เรื่อง นำทัพความบันเทิงด้วย “เมียหลวง” “เด็กฝึกหน้าใส เติมหัวใจนายหญิง” “กลรักรุ่นพี่” “Bangkok Fable” และ “ออฟฟิศติดฮา” เตรียมเปิดจอรอชมได้ที่แอปพลิเคชัน WeTV เท่านั้น


 


“จากกลยุทธ์การตลาด ‘3X: Expansion - Extra Experience - Exclusivity’ ที่เราวางไว้ โดยมีออริจินัลคอนเทนต์ทั้งจีน และไทยเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการจับมือกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม และการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ WeTV มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเติบโตในไทย 3 เท่า พร้อมขึ้นเป็นผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2023 ก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มีออริจินัลคอนเทนต์เอเชียที่ผู้ใช้งานชื่นชอบมากที่สุด ผลักดันคอนเทนต์ไทยสู่เวทีตลาดโลก สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย รวมถึงเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับลูกค้า นักการตลาด มีเดียเอเยนซี่ชั้นนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางสาวกนกพรกล่าวทิ้งท้าย



สามารถติดตามคอนเทนต์คุณภาพจากทั่วทั้งเอเชียได้ที่แอปพลิเคชัน WeTV และ www.WeTV.vip พร้อมติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทางโซเชียลมีเดีย WeTV Thailand ทุกช่องทาง

ใหม่กว่า เก่ากว่า