Apple เปิดตัว iPad mini ใหม่ที่ทรงพลัง มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้นใน 4 สีสันอันสวยงาม iPad mini ใหม่มาพร้อมชิป A15 Bionic แบบใหม่ล่าสุดที่มอบประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 80% นี่จึงเป็น iPad mini ที่เปี่ยมความสามารถที่สุดที่เคยมีมา พอร์ต USB-C ใหม่ ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และรุ่น Cellular ที่มาพร้อม 5G ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเวิร์กโฟลว์การทำงานแบบเคลื่อนที่ กล้องสุดล้ำใหม่ คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" และการรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ช่วยเปิดประตูสู่วิธีการใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้ในการบันทึกภาพและวิดีโอ สื่อสารกับคนสำคัญ และจดไอเดียต่างๆ ที่แล่นเข้ามาในหัว
"ด้วยดีไซน์ที่พกพาสะดวกกว่าครั้งไหนๆ และการใช้งานที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่งานประจำวันต่างๆ ไปจนถึงแอปพลิเคชันสำหรับการสร้างสรรค์ และงานระดับองค์กร นี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ไม่มีอะไรเหมือน iPad mini" Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว "ด้วยจอภาพ Liquid Retina ใหม่แบบหน้าจอทั้งหมด, การยกระดับประสิทธิภาพให้ทรงพลังเหลือล้น, กล้องสุดล้ำใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง", USB-C, 5G และการรองรับ Apple Pencil ทำให้ iPad mini ใหม่เป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดที่ถือได้เหมาะพอดีมือ"
ดีไซน์ใหม่แบบหน้าจอทั้งหมด มาใน 4 สีสันอันสวยงาม
iPad mini ใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหลือเชื่อในชุดสีสันใหม่อันสวยงาม ทั้งสีชมพู สีสตาร์ไลท์ สีม่วง และสีเทาสเปซเกรย์ iPad mini มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นและขอบจอที่แคบลง ทั้งหมดนี้ในไซส์กะทัดรัดพกพาสะดวกเหมือนเดิม ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างความสว่างที่สูงถึง 500 นิต, ขอบเขตสีกว้างแบบ P3, การเคลือบสารกันแสงสะท้อน, การแสดงผลแบบ True Tone และเทคโนโลยี Full Lamination รูปภาพและวิดีโอจะมีสีสันสดใส และมาอยู่ชิดติดกับผิวกระจก และเมื่อรวมลำโพงสเตอริโอแนวนอนใหม่เข้ากับจอภาพใหม่ ก็จะกลายเป็นประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม
ดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมดเกิดขึ้นได้จากการย้าย Touch ID ไปรวมเป็นส่วนหนึ่งในปุ่มด้านบนของ iPad mini Touch ID ยังมาพร้อมความสะดวกในการใช้งานและการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยอย่างที่ผู้ใช้คุ้นเคยและหลงรัก สำหรับใช้ในการปลดล็อค iPad mini และการล็อกอินเข้าสู่แอป ตอนนี้ iPad mini ยังรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ซึ่งจะยึดติดกับ iPad mini ด้วยแม่เหล็กเพื่อชาร์จแบบไร้สายและจับคู่
ชิป A15 Bionic นำประสิทธิภาพอันทรงพลังมาสู่ iPad mini
iPad mini มาพร้อมการเสริมประสิทธิภาพครั้งใหญ่จากชิป A15 Bionic ในดีไซน์ที่ประหยัดพลังงานอย่างเหลือเชื่อซึ่งมอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวัน1 CPU แบบ 6-core มาพร้อมประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และ GPU แบบ 5-core ที่ให้ประสิทธิภาพกราฟิกที่ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ iPad mini รุ่นก่อนหน้า ชิป A15 Bionic บน iPad mini สามารถจัดการกับงานที่ต้องใช้พลังในการประมวลผลสูงสุดได้ เริ่มตั้งแต่เกมที่เน้นกราฟิกอันงดงาม ไปจนถึงแอประดับโปรสำหรับนักออกแบบ นักบิน แพทย์ และอีกมากมาย iPad mini คือที่สุดแห่งอุปกรณ์คู่กายที่ผู้ใช้สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ ด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังและดีไซน์แบบกะทัดรัด
ฟังก์ชันการเรียนรู้ของระบบ (ML) ขั้นสูง ได้รับการขับเคลื่อนโดย Neural Engine แบบ 16-core และตัวเร่งความเร็วสำหรับ ML ใหม่ใน CPU ที่สามารถประมวลผลการทำงานด้านการเรียนรู้ของระบบที่เร็วขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยการทำงานร่วมกับ CPU และ GPU ทำให้ Neural Engine ช่วยให้แอปต่างๆ สามารถมอบประสบการณ์ที่สูงขึ้นอีกระดับ เช่น การเรียนรู้ภาพ และการเรียนรู้ภาษาตามธรรมชาติ ด้วย iPadOS 15, คุณสมบัติการเรียนรู้ของระบบใหม่อันทรงพลังที่รวมอยู่ใน "ข้อความในภาพ" ที่ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพและให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ และแม้แต่แปลข้อความจากรูปภาพเป็นภาษาต่างๆ 7 ภาษา2
คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" มาอยู่ใน iPad mini พร้อมกล้องสุดล้ำใหม่
ตอนนี้ประสบการณ์ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" บน iPad Pro มีให้ใช้งานแล้วบน iPad mini ผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินกับวิดีโอคอลที่น่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย กล้องหน้าอัลตราไวด์ที่อัปเดตมาใหม่พร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียด 12MP และขอบเขตของมุมมองที่กว้างขึ้นอย่างมากช่วยให้สามารถใช้งานคุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ซึ่งจะแพนกล้องโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในสายตาเสมอในระหว่างที่เคลื่อนที่ไปรอบๆ และถ้ามีคนอื่นมาร่วมด้วย กล้องก็สามารถตรวจจับได้ และจะซูมออกอย่างลื่นไหลเพื่อจัดให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาได้ง่ายๆ
ตอนนี้กล้องหลังมาพร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียด 12MP พร้อม Focus Pixels และรูรับแสงที่ใหญ่ขึ้นเพื่อบันทึกภาพที่คมชัดและสีสันสดใส ส่วนกล้องด้านหลังก็มาพร้อมแฟลช True Tone ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ผู้ใช้ยังจะได้รับชมรูปภาพที่มีความสมจริงเป็นธรรมชาติด้วย HDR อัจฉริยะ ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพของรูปภาพโดยการกู้คืนรายละเอียดในเงามืดและไฮไลท์โดยใช้ประโยชน์จาก ISP ใหม่ในชิป A15 Bionic
5G และ USB-C เพื่อการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น
ด้วย 5G ที่ตอนนี้มีมาให้ใช้งานแล้วบน iPad mini ลูกค้าสามารถทำอะไรๆ ได้มากกว่าด้วยการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่างเดินทาง 5G ช่วยให้ iPad mini สามารถใช้ระดับความเร็วสูงสุดถึง 3.5Gbps ในสภาวะที่เหมาะสม3 ตอนนี้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออยู่เสมอและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมประจำวันอย่างการเล่นเกมกับเพื่อนๆ ไปจนถึงการทำงานภาคสนามของช่างเทคนิค เมื่อรวมกับการรองรับ Gigabit LTE และ eSIM อย่างต่อเนื่อง iPad mini ก็สามารถเชื่อมต่อได้โดยมีความยืดหยุ่นอย่างเหลือเชื่อ Wi-Fi 6 ยังทำให้มั่นใจได้อีกว่าจะมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เร็วยิ่งขึ้นอีก
ตอนนี้ iPad mini มาพร้อมพอร์ต USB-C ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 5Gbps ซึ่งเร็วกว่าในรุ่นก่อนหน้าถึง 10 เท่า และเชื่อมต่อกับระบบนิเวศอุปกรณ์เสริม USB-C ที่กว้างขวาง ซึ่งประกอบด้วยกล้องและอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก และจอภาพความละเอียดสูงสุดถึง 4K USB-C ช่วยให้สามารถใช้งานเวิร์กโฟลว์ที่มีอินพุตและเอาท์พุตแบนด์วิดท์สูงสำหรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและผู้ที่ทำงานสร้างสรรค์แบบมืออาชีพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่างภาพที่ต้องการเชื่อมต่อกับกล้องขณะถ่ายภาพหน้างาน หรือแพทย์ที่ต้องตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นความถี่สูงจากระยะไกล
ประสบการณ์ iPad ที่ง่ายยิ่งกว่าเดิมด้วย iPadOS 15
iPadOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของ iPad ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ความอเนกประสงค์ของ iPad mini ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่าเดิม
- ส่วนเลย์เอาท์วิดเจ็ตใหม่สำหรับหน้าจอโฮมและคลังแอปช่วยให้สามารถปรับแต่ง iPad mini ให้เหมาะกับบุคคลรวมถึงจัดระเบียบแอปได้
- และตอนนี้การจดโน้ตก็สามารถทำได้แล้วทั้งระบบด้วย Quick Note ที่มอบวิธีใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกันและจัดระเบียบสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือพิมพ์ด้วย Apple Pencil
- แอปแปลภาษามาอยู่บน iPad พร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้การสนทนาง่ายและเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ซึ่งรวมไปถึงการแปลภาษาอัตโนมัติ และมุมมองแบบเห็นหน้าด้วย
- การทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ง่ายดายขึ้นกว่าเดิมด้วยการทำให้คุณสมบัติอย่าง Split View และ Slide Over สามารถค้นพบได้ง่ายขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งทรงพลังกว่าเดิม
- คุณสมบัติ "ข้อความในภาพ" ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพแล้วให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายหน้าร้านอาจแสดงหมายเลขโทรศัพท์และตัวเลือกให้โทรไป
- โหมดโฟกัสช่วยผู้ใช้คัดกรองการแจ้งเตือนตามสิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน เช่น ทำงาน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เล่นเกม หรือนอนหลับ
- การโทร FaceTime ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงตามตำแหน่งและโหมดภาพถ่ายบุคคลใหม่ และตอนนี้การโทร FaceTime แบบกลุ่มยังมีตัวเลือกให้แสดงผู้เข้าร่วมเป็นช่องภาพขนาดเท่าๆ กันในมุมมองตารางแบบใหม่อีกด้วย
อุปกรณ์เสริม
Apple Pencil (รุ่นที่ 2) เปลี่ยน iPad mini ให้กลายเป็นสมุดบันทึกและสมุดวาดภาพแบบดิจิทัลที่ผู้ใช้สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ด้วยการชาร์จและการจับคู่แบบไร้สาย และการรองรับการแตะสองครั้ง Apple Pencil มาพร้อมความแม่นยำที่ลึกไปถึงระดับพิกเซล และความหน่วงต่ำระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เขียนได้ง่ายและเป็นธรรมชาติเหมือนการเขียนด้วยปากกาและกระดาษ
Smart Folio ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad mini เป็นเคสที่ทั้งบางและน้ำหนักเบา และยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการเปิดเพื่อใช้งานและปิดเพื่อเข้าโหมดพัก วันนี้ Smart Folio มาในสีสันสวยงามที่เข้ากันอย่างลงตัวกับสีของ iPad mini ใหม่ ซึ่งมีทั้งสีดำ สีขาว สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีส้มอิเล็คทริค
iPad กับสิ่งแวดล้อม
iPad mini ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในการผลิตตัวเครื่อง ซึ่งเป็นการบรรลุหลักชัยสำคัญในการทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ทุกรุ่นมีตัวเครื่องที่ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% iPad mini ยังใช้ดีบุกรีไซเคิล 100% ในการบัดกรีแผงวงจรหลัก และใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กของตัวเครื่องและลำโพง
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศให้เป็นศูนย์ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ จนถึงการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ
ราคาและการวางจำหน่าย
- สตาร์ไลท์ iPad mini รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 17,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular เริ่มต้นที่ 23,400 บาท iPad mini ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มาในสีชมพู สีสตาร์ไลท์ สีม่วง และสีเทาสเปซเกรย์
- iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ จะเปิดให้ใช้งานโดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 21 กันยายน และจัดส่งฟรีพร้อม iPad mini ใหม่ iPadOS 15 จะเปิดให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad mini 4 และใหม่กว่า, iPad Air 2 และใหม่กว่า, iPad รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า และ iPad Pro ทุกรุ่น
- Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad mini มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 4,490 บาท
- Smart Folio ใหม่ สำหรับ iPad mini มีวางจำหน่ายในราคา 2,590 บาท มาในสีดำ สีขาว สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีส้มอิเล็คทริค
- ลูกค้าสามารถซื้อ iPad รุ่นที่มี Wi-Fi + Cellular ทุกรุ่น ได้โดยตรงจาก apple.com/th/store เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด โปรดดูข้อกำหนดที่เข้าเกณฑ์และรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากapple.com/th/shop/buy-ipad ลูกค้าสามารถนำ iPad เครื่องปัจจุบันมาแลก เพื่อรับเครดิตสำหรับใช้ซื้อเครื่องใหม่
- สลักอิโมจิผสมกับข้อความและตัวเลขที่มีความหมายลงบน iPad ทั้งหมดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ apple.com/th/store หรือในแอป Apple Store
- Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจึงมีความเป็น Apple ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialist จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย และมูลค่าการแลกที่คุ้มค่า ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store และ apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและการกำหนดค่า
- การแปลภาษาคุณสมบัติ "ข้อความในภาพ" ประกอบด้วยภาษาอังกฤษ จีนตัวย่อ ฝรั่งเศส เยอรมัน โปรตุเกส และสเปน
- จำเป็นต้องมีแผนบริการระบบไร้สาย 5G และอยู่ในพื้นที่ให้บริการ โดยความเร็วจะแตกต่างออกไป โปรดตรวจสอบรายละเอียดกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์