ปัจจุบันอุตสาหกรรมบันเทิงได้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว ผู้บริโภคต่างมองหาแพลตฟอร์มที่มอบทั้งคอนเทนต์ความบันเทิง และประสบการณ์ใหม่ๆได้ในเวลาเดียวกัน WeTV ในฐานะผู้นำการให้บริการวิดีโอสตรีมมิงแอปพลิเคชัน นอกจากจะมีซีรีส์ ละคร ภาพยนตร์ และอนิเมะที่หลากหลายครบรสมานำเสนอให้กับผู้ชมชาวไทยอย่างต่อเนื่องแล้ว หนึ่งในคอนเทนต์เรือธงที่สร้างความแตกต่าง และโดดเด่นให้กับ WeTV ได้อย่างชัดเจน คือ ออริจินัล คอนเทนต์ ประเภทวาไรตี้ อย่าง “CHUANG” (ช่วง) รายการวาไรตี้ประเภท Survival จากเทนเซ็นต์ วิดีโอ ประเทศจีน ที่มีเด็กไทยเข้าร่วมแข่งขัน และคว้าชัยชนะได้เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ป และบอยกรุ๊ปหน้าใหม่ที่โด่งดังในระดับสากล ส่งผลให้ WeTV กลายเป็นผู้ปลุกกระแสรายการ Survival และวงการ C-POP ฟีเวอร์ในเมืองไทยให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง ผ่านการสร้างปรากฎการณ์ทางด้าน Social Engagement ให้เกิดขึ้นตลอดซีซัน พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ด้วยการเปิดประตูไปสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยในตลาดโลก
คุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในออริจินัล คอนเทนต์ของ WeTV ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ คอนเทนต์ในกลุ่มรายการวาไรตี้ ได้แก่ รายการ ‘CHUANG’ ผลิตโดยเทนเซ็นต์ วิดีโอ ประเทศจีน ที่ WeTV นำเสนอต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 4 ซีซันด้วยกัน ด้วยรูปแบบของรายการที่เป็นแนว Survival เฟ้นหาเกิร์ลกรุ๊ป และบอยกรุ๊ปหน้าใหม่ รวมถึงความเข้มข้นของเนื้อหาที่น่าติดตามในแต่ละซีซันที่มีหมัดเด็ดแตกต่างกันออกไป อีกทั้งการนำเสนอฟีเจอร์ Vote เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์เป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรม ทำให้รายการฯ เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในเวลาอันรวดเร็ว”
ยืนหนึ่งการสร้าง “ประสบการณ์ร่วม” สไตล์ WeTV
ล่าสุด รายการ CHUANG 2021 (ช่วงสองศูนย์สองหนึ่ง) ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอีกครั้ง ด้วยการเป็นหนึ่งในออริจินัลคอนเทนต์ที่ทรงพลังมากที่สุดในไตรมาสแรกของ WeTV ด้วยเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมชาวไทยส่งผลให้ CHUANG 2021 เป็นคอนเทนต์ที่ติดอันดับ TOP 5 คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดประจำสัปดาห์ของ WeTV ติดต่อกันนานถึง 11 สัปดาห์ นอกจากนี้ ด้วยความพร้อมด้านเทคโนโลยีของบริษัทแม่อย่างเทนเซ็นต์ ในการพัฒนาฟีเจอร์ที่สร้างประสบการณ์ร่วม
บนแพลตฟอร์ม ยังถือเป็นอาวุธสำคัญที่ส่งให้ CHUANG 2021 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีในวงกว้าง โดยประเทศไทยมีผู้ใช้งานที่ร่วมส่งคะแนนโหวตให้กับเหล่าเด็กฝึกผ่าน “ฟีเจอร์โหวต” ตลอดทั้งซีซันสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
และในการออกอากาศการแข่งขันรอบไฟนอลแบบยิงสัญญาณสดจากประเทศจีน WeTV ก็ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ไลฟ์โหวต (LIVE Vote) เข้ามาเป็นครั้งแรกเพื่อให้ผู้ชมสามารถร่วมโหวตแบบเรียลไทม์ทุกๆ 10 นาทีของการรับชมการถ่ายทอดสดรอบไฟนอล ในขณะที่ฟีเจอร์ที่เป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของ WeTV อย่างฟีเจอร์ Flying Comment ที่เปิดให้ผู้ชมสามารถคอมเมนต์ขณะชมรายการฯ ได้แบบเรียลไทม์ก็มีการใช้งานมากถึง 570,000 ข้อความ ตลอดทั้งซีซัน
หมัดเด็ด ดัน “เด็กไทย” และ “อุตสาหกรรมบันเทิงไทย” สู่ตลาดโลก
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ ‘CHUANG 2021’ ในปีนี้ คือ รูปแบบการแข่งขันที่เน้นความเป็นสากลมากขึ้น เด็กฝึกที่ผ่านเข้ารอบมาจากนานาชาติ ด้วยรูปแบบของรายการ รวมถึงศักยภาพและเสน่ห์ของผู้เข้าร่วมรายการ จึงทำให้เกิดการขยาย Community และกลุ่มผู้ชมให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฐานแฟนคลับของศิลปินแต่ละคน หรือแฟนคลับของวงที่ได้เดบิวต์ในแต่ละปี และยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเด็กไทยสร้างชื่อในวงการบันเทิงระดับโดยในซีซันที่ผ่านๆ มามีเด็กไทยทั้งหมด 5 คน ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ CHUANG ถึง 3 ซีซัน ประกอบด้วย “ซันนี่ - เกวลิน บุญศรัทธา” และ “มีมี่ ลี - พร้อมวิไล หลี่ศิริโรจน์” ผู้ซึ่งปรากฏการณ์ต่างๆชนะจากซีซันแรกซึ่งขณะนั้นใช้ชื่อรายการว่า Produce 101 China ตามมาด้วย “เนเน่ - พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์” ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยที่เข้าร่วมแข่งขัน และคว้าชัยชนะในซีซันที่ 3 (CHUANG 2020)
และในซีซันล่าสุด CHUANG 2021 ก็มีตัวแทนเด็กไทยเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 2 คน ได้แก่ “นาย - กรชิต บุญสถิต์ภักดี” และ “แพทริค - ณัฐวรรธ์ ฟิงค์เลอร์” ซึ่งเด็กไทยทั้งสองคนก็สามารถคว้าชัยชนะมาได้สำเร็จ โดยทุกคนได้ฝ่าฝันบททดสอบจนเดบิวต์เป็นศิลปินที่จีนได้อย่างเต็มตัว สิ่งเหล่านี้ คือ โอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นที่นำไปสู่การสร้างการเติบโตให้กับ WeTV ทั้งในแง่ผู้ใช้งาน และการร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะวงการบันเทิงที่ WeTV ได้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในประตูสำคัญที่สังกัดศิลปินค่ายต่างๆ มองเห็นโอกาสในการเจาะเข้าสู่ตลาดจีนซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ทรงอิทธิพล รวมถึงตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น
“ในครึ่งปีหลังนี้ WeTV จะยังเดินหน้าคัดสรรทั้งออริจินัล คอนเทนต์ และเอ็กซ์คลูซีฟ คอนเทนต์ระดับคุณภาพมานำเสนอให้กับแฟนๆ ชาวไทย ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ Content & Partnership Community และ Synergy พร้อมเตรียมเพิ่มคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องในทุกๆ กลุ่มคอนเทนต์ เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และยังได้วางแผนเตรียมนำคอนเทนต์ วาไรตี้ใหม่ๆ มาปลุกกระแสแฟนด้อมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์และกิจกรรมพิเศษต่างๆ จากศิลปินวง INTO1 ที่จะมีมาให้รับชมอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีของการเดบิวต์ เพื่อที่จะทำให้เหล่าแฟนคลับได้ใกล้ชิดกับศิลปินมากขึ้น รวมถึงการมุ่งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างแพลตฟอร์มกับผู้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบเพื่อให้สอดคล้อง กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” คุณกนกพร กล่าวสรุป