สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันส่งผลกระทบในวงกว้าง รวมถึงธุรกิจต่างๆ มากมายในไทยที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องมองหาวิธีรับมือการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด เราได้เห็นธุรกิจต่างๆ ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยหนึ่งในบทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีคือ การลดต้นทุน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ แต่ยังคงศักยภาพด้านการบริการและการแข่งขันเอาไว้ได้
เช่นเดียวกับไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างครบวงจร นอกจากผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว ก่อนหน้านี้ยังประสบปัญหาสินค้าในร้านเสียหายบ่อยครั้ง เช่น เหล็กและน็อตมีสนิมขึ้น และสินค้าประเภทไม้เกิดการบวมและมีเชื้อรา ซึ่งมีสาเหตุจากการติดตั้งพัดลมไอน้ำ ประกอบกับไอจากเหงื่อของคนจึงทำให้เกิดความชื้นภายในร้าน อย่างไรก็ตาม ไทวัสดุเล็งเห็นโอกาสในภาวะวิกฤต และเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อเน้นการลดต้นทุนในระยะยาวด้วยการเปลี่ยนมาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจี มัลติ วี (Multi V) ที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดด้วยเทคโนโลยี Dual Sensing Control ที่ควบคุมทั้งความชื้นและอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพอากาศข้างนอก ป้องกันการเกิดความชื้นภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไทวัสดุได้ทดลองติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ มัลติ วี ที่ร้านไทวัสดุ สาขาบางนา ซึ่งเป็นสาขาสำนักงานใหญ่เป็นแห่งแรก ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้สำเร็จโดยไม่เกิดความเสียหายต่อสินค้าแต่อย่างใด อีกทั้งยังสามารถมอบบรรยากาศการช้อปปิ้งที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ยอดขายที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทางไทวัสดุจึงลงทุนปรับปรุงระบบปรับอากาศภายในร้านไทวัสดุทั้งหมด 56 สาขาทั่วประเทศ โดยเลือกติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจี มัลติ วี ทั้งหมดใน 16 สาขา ด้วยงบประมาณมูลค่า 192 ล้านบาท เนื่องด้วยความเชื่อมั่นถึงประโยชน์และข้อได้เปรียบที่จะได้รับในระยะยาว
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่สำคัญจากการเปลี่ยนมาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์รุ่น มัลติ วี ของแอลจีคือความสามารถในการทำความเย็นได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใบพัด Biomimetic ทำให้กระจายลมเพิ่มสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ พร้อมประสิทธิภาพในการมอบอากาศเย็นสบายด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม จากคอมเพรสเซอร์ที่ทรงประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี อัลทิเมท อินเวอร์เตอร์ (Ultimate Inverter) ซึ่งช่วยให้บรรยากาศการช้อปปิ้งที่เย็นสบายและเพลิดเพลินให้แก่ลูกค้า ต่อยอดประสบการณ์การซื้อสินค้าที่น่าพึงพอใจ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับไทวัสดุ นอกเหนือจากการนำเสนอสินค้าวัสดุก่อสร้างคุณภาพดีในราคาจับต้องได้
นอกจากนี้ ไทวัสดุยังสามารถลดต้นทุนในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นด้านการประหยัดพลังงานของคอมเพรสเซอร์ในเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ มัลติ วี ที่มอบค่าประหยัดพลังงานดีขึ้น ทำให้ไทวัสดุลดค่าใช้จ่ายลงได้และเพิ่มโอกาสในการได้เงินทุนกลับคืนเร็วขึ้น แม้เปลี่ยนจากพัดลมไอน้ำเป็นเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ การพัฒนาคอมเพรสเซอร์ให้มีความทนทานเป็นพิเศษ ผสานกับแผงระบายความร้อนที่เคลือบสารสีดำ (Ocean Black Fin) ที่ถูกออกแบบให้มีการป้องกันถึง 3 ชั้น เพื่อปกป้องน้ำที่เกาะบริเวณแผงซึ่งอาจก่อให้เกิดสนิมและการกัดกร่อนจากไอทะเล ยังช่วยให้ไทวัสดุสามารถลดต้นทุนด้านการซ่อมบำรุงในระยะยาวได้อีกด้วย
ในปัจจุบัน ไทวัสดุได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์รุ่น มัลติ วี ของแอลจี ใน 16 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ร้อยเอ็ด สุพรรณบุรี ขอนแก่น อุบลราชธานี สกลนคร จันทบุรี สุราษฎร์ธานี มุกดาหาร ศรีราชา บุรีรัมย์ ตรัง เพชรบูรณ์ หนองบัวลำภู กาญจนบุรี เชียงใหม่ และตาก