เดลล์ เทคโนโลยีส์ มุ่งหน้าสู่เน็กซ์เจนของการประมวลผลข้อมูลด้วยการเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ Dell EMC PowerEdge ที่ทรงพลังและมีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่ออกมาใหม่นี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ได้เปิดเส้นทางเพื่อมุ่งตรงสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบอัตโนมัติ (autonomous infrastructure) เพื่อมอบประสิทธิภาพทางด้านไอทีที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับการทำงานของ AI และเพื่อจัดการกับความต้องการใช้งานด้านไอทีเพื่อการประมวลผลที่ปลายทาง (edge)
สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกมอบพลังที่จำเป็นในการที่จะได้มา รวมถึงการดำเนินการกับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์จากดาต้าที่ถูกจัดเก็บอยู่ตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์กลาง ไปจนถึงพับลิคคลาวด์ต่างๆ และพื้นที่จัดเก็บที่ปลายทาง (edge locations) ลองนึกภาพใหม่ว่าด้วย PowerEdge เซิฟเวอร์ใหม่ทั้ง 17รุ่นที่มาพร้อมกับสิทธิบัตรที่มากถึง 1,100 สิทธิบัตรที่เดลล์เป็นเจ้าของหรือจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา เซิร์ฟเวอร์ใหม่ทั้งหมดนี้จะมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานให้ในปัจจุบัน
“ดาต้าได้ถูกสร้างขึ้นและนำมาใช้ในทุกๆ ที่ตลอดเวลามากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น และองค์กรต่างๆ ถูกท้าทายให้สามารถจัดการกับดาต้าเหล่านั้นให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นายนพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “ในขณะที่เราคิดค้นนวัตกรรมเพื่ออนาคตทางด้านไอที ระบบอัตโนมัติในระดับแอดวานซ์คือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีไม่ว่าโครงสร้างพื้นฐานจะวางอยู่ที่ใดก็ตาม โดย PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่ของเรานำเสนอประสิทธิภาพที่สูงกว่าระดับเดิมเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเร่งความเร็วในการสร้างข้อมูลเชิงลึกและก้าวไปสู่การประมวลผลอัตโนมัติ (autonomous compute)”
“เนื่องจากทั้งปริมาณและความเร็วของข้อมูลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและธุรกิจต่างก็พยายามในการที่จะได้มาซึ่งข้อมูลในเชิงลึกเพื่อการดำเนินงานจากแหล่งข้อมูลต่างๆกัน นั่นหมายความว่าองค์กรธุรกิจกำลังเผชิญความท้าทายใหม่ๆทางไอทีและที่มากยิ่งไปกว่าเดิม นั่นคือองค์กรต่างต้องการความสามารถในการประมวลผลที่ตรงตามความต้องการเฉพาะด้านมากขึ้น สายผลิตภัณฑ์ เน็กซ์เจน PowerEdge ของเราได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้” นายอภิชาติ อัศวาดิศยางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายData Center & Computer เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย กล่าว “นี่คือสายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ที่กว้างที่สุดเท่าที่เราเคยประกาศมา แพลตฟอร์มใหม่ของเราได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้มอบความสามารถในการประมวลผลแบบ adaptive compute ได้อย่างแท้จริงและช่วยให้เกิดระบบการทำงานแบบอัจฉริยะ (intelligent systems) ที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานการประมวลแบบผลอัตโนมัติที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับแอปพลิเคชันสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ต้องการพลังในการประมวลผลสูงหรือมีความซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ความก้าวหน้าเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุด อีกทั้งยังมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเร่งระยะเวลาการสร้างสรรค์นวัตกรรมภายในองค์กรของพวกเขา”
นายฐิติพลบุญประสิทธิ์ผู้อำนวยการช่องทางการจัดจำหน่ายเดลล์เทคโนโลยีส์ประเทศไทยกล่าวว่า “ ช่องทางธุรกิจของเราคือส่วนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จโดยรวมของเราในนำเข้าสู่การเดินทางสู่เส้นทางการเดินเรือทางสาย ผลิตภัณฑ์ Dell EMC PowerEdge ตรวจสอบใหม่ช่วยให้ บริษัท ของเราปฏิบัติการอย่างมีกำไรในการดำเนินการธุรกิจด้วยการนำเสนอแบบครบวงจร (end-to-end) ที่มีความหนาสำหรับลูกค้าที่มองหาการทำความสะอาดและภายใน ยุคของการดำเนินการเพื่อการเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีหรือดิสรัปชัน”
การประมวลผลอัตโนมัติ (Autonomous compute) ช่วยให้ลูกค้าได้ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับการใช้งานได้ด้วยตัวเอง (self-deployed) ทำโพรวิชั่นด้วยตัวเอง (self-provisioned) และจัดการด้วยตัวเอง (self-managed) อย่างเต็มที่ในอนาคต ปัจจุบัน ด้วยการทำงานผ่าน Dell EMC OpenManage Enterprise เครื่อง PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ และการจัดการระบบสามารถช่วยประหยัดเวลาได้ถึง 85 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยและลดขั้นตอนอีกนับหลายสิบขั้นตอนด้วยระบบอัตโนมัติ
ประสิทธิภาพสูงสุดช่วยให้ธุรกิจบรรลุถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
การเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD และ Intel ทำให้ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่มอบพลังในการประมวลผลที่จำเป็นให้กับเวิร์กโหลดและแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสุดของลูกค้า ตัวอย่างของความก้าวหน้า ได้แก่:
· PowerEdge R6515 ซึ่งมากับ 3rd Generation AMD EPYC™ โพรเซสเซอร์ ที่เร่งความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้สูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ในฐานบิ๊กดาต้าของ Hadoop ซึ่งช่วยเร่งเวลาสำหรับข้อมูลในเชิงลึก
· PowerEdge R750 ด้วยโพรเซสเซอร์ 3rd Generation Intel® Xeon® Scalable ที่กำลังจะมาถึง มอบประสิทธิภาพที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้นถึง 43 เปอร์เซ็นต์ในการแก้สมการเชิงเส้นคู่ขนานจำนวนมาก รองรับเวิร์กโหลดที่ต้องใช้การประมวลผลมากที่สุด
“ด้วยสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลไลซ์ในการที่เราใช้งาน PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ เราจึงมีความคล่องตัวในโยกย้ายเวิร์กโหลดได้ตามต้องการ” โจเอล เวตท์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี Overstock.com กล่าว “ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล การเพิ่มขึ้นของทราฟฟิกของลูกค้า หรือเวิร์กโหลดในส่วนที่มากจากแมชชีนเลิร์นนิ่งที่จำเป็นต้องจัดการให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เราสามารถปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการด้านต่างๆ ของธุรกิจได้ด้วยความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์”
ปรับประสิทธิภาพสูงสุดด้วย AI เพื่อจัดการกับเวิร์กโหลดที่ใต้องการปริมาณข้อมูลมากที่สุด
ปัจจุบัน PowerEdge เซิร์ฟเวอร์มาพร้อมกับ PCIe Gen 4.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพของปริมาณงาน (throughput) ขึ้นเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า และเพิ่มตัวเร่งความเร็วสูงสุดหกตัวต่อเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับเวิร์กโหลดที่ท้าทายและที่ต้องการการใช้งานปริมาณดาต้าเป็นจำนวนมากที่สุด เทคโนโลยีเหล่านี้เมื่อทำงานควบคู่ไปกับระบบอัตโนมัติอัจฉริยะของ PowerEdge ทำให้นี่คือสายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ที่รองรับการทำงาน AI ได้สูงที่สุดในปัจจุบันทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์และตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
สายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ล่าสุด ประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์แบบ accelerator-optimized 2 รุ่นที่เปลี่ยนโฉมใหม่หมด (all-new) ได้แก่
· PowerEdge XE8545 แหล่งกำเนิดพลัง (powerhouse) สำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI เสริมพลังให้กับ HPC Ready Solution ล่าสุดสำหรับ AI และ Data Analytics ทำให้ง่ายต่อการรัน AI วิเคราะห์ และประมวลผลเวิร์กโหลดในระดับแอดวานซ์ภายในระบบเดียว ทั้งนี้ PowerEdge XE8545 ประกอบด้วย 3rd Generation AMD EPYC โพรเซสเซอร์ที่มากถึง 128 คอร์ มาพร้อมกับ NVIDIA A100 GPU สี่ตัว และซอฟต์แวร์เสริมประสิทธิภาพ NVIDIA’s vGPU ในซ็อกเก็ตแบบดูอัล 4U rack เซิร์ฟเวอร์
· PowerEdge R750xa สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็ว มอบประสิทธิภาพที่แน่นหนาของ GPU (GPU-dense) ในการเทรนแมชชีนเลิร์นนิ่ง การวินิจฉัย ตลอดจน AI ด้วยการสนับสนุนจากชุดซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ที่เป็นสิทธิ์เฉพาะสำหรับ VMware vSphere 7 Update 2 โดยเซิร์ฟเวอร์ 2U แบบ dual socket ถูกขับเคลื่อนโดย 3rd Generation Intel® Xeon® Scalable โพรเซสเซอร์ และรองรับ GPU แบบ double-wide สูงสุดสี่ตัวและ GPU แบบ single-wide 6 ตัว
เซิร์ฟเวอร์ที่มีความทนทานสูงในรูปทรงแบบ short-depth ที่นำพาระบบไอทีไปสู่พื้นที่ปลายทาง (edge)
สร้างขึ้นเพื่อให้สามารถขยายขอบเขตการทำงานไปสู่สภาพแวดล้อมที่อยู่ห่างไกลและสมบุกสมบัน ปัจจุบัน สายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ใหม่ได้เสริม PowerEdge XR11 และ XR12 ใหม่ที่นำประสิทธิภาพและความปลอดภัยระดับองค์กรมาสู่รูปแบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีความทนทาน ด้วยแชสซีที่แข็งแกร่งที่ใช้พื้นที่การจัดวางที่มีขนาดเล็กและรองรับตัวเร่งความเร็วที่หลากหลาย เซิร์ฟเวอร์ที่มีรูปทรงกระทัดรัดอย่าง XR11 และXR12 ซึ่งทำงานบน ได้รับการถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเวิร์กโหลดที่ปลายทางที่เพิ่มมากขึ้น
“โครงสร้างพื้นฐานมีการพัฒนาไปไกลกว่าดาต้าเซ็นเตอร์ และตัวเวิร์กโหลดที่ปลายทาง หรือที่ edge เองก็ทวีความซับซ้อนมากขึ้น” แพทริค มัวร์เฮด ผู้ก่อตั้งและประธาน Moor Insights & Strategy กล่าว “เซิร์ฟเวอร์และโซลูชันการจัดการอัจฉริยะของเดลล์ทำให้องค์กรมีตัวเลือกในการประมวลผลและมีทูลส์ที่ช่วยรันเวิร์กโหลดที่มีความซับซ้อนอย่างที่สุดจากดาต้าเซ็นเตอร์ไปสู่ปลายทาง หรือในทุกที่ที่ต้องการ”
การรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งในตัวเพื่อการป้องกันแบบ end-to-end
องค์กรทั่วโลกรายงานความกังวลอันดับต้น ๆ ของพวกเขาเกี่ยวกับเส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลคือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ 6 สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นทางไซเบอร์ cyber-resilient architectureและ Root of Trust รากแห่งความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับอย่างดีแนวทางที่ครอบคลุมของสายผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วยให้ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์มีความปลอดภัยตลอดเวลาตลอดวงจรการทำงานตั้งแต่ในสายการผลิต การนำมาใช้งาน และอื่นๆ
ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยได้เริ่มต้นก่อนมีการปรับใช้ด้วย Dell Technologies Secured Component Verification ซึ่งเป็นข้อเสนอแรกสำหรับเซิร์ฟเวอร์ และเป็นส่วนเสริมไปยังกระบวนการรับรอง Secure Supply Chain ของเดลล์ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ PowerEdge UEFI Secure Boot Customization ทำให้การรักษาความปลอดภัยในการบูตสามารถจัดการได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีที่ดีขึ้น
การระบายความร้อนแบบประหยัดพลังงานออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและต่อลูกค้าของเราตลอดจนคำมั่นในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเรานั้นผนึกแน่นอยู่ในทุกสิ่งที่เราทำ ด้วยการออกแบบแชสซีอย่างมีเอกลักษณ์ เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่มาพร้อมพัดลมแบบท่อและระบบระบายความร้อนแบบปรับได้เพื่อการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์จากรุ่นก่อนหน้า ควบคู่ไปกับการระบายความร้อนแบบหลายเวกเตอร์ PowerEdge จะนำกระแสลมไปยังส่วนที่ร้อนที่สุดของเซิร์ฟเวอร์เพื่อระบายความร้อนที่ดีที่สุด โดย Direct Liquid Cooling สามารถพร้อมใช้งานในเซิร์ฟเวอร์บางรุ่นที่มากับเทคโนโลยีตรวจจับการรั่วไหลเพื่อค้นหาและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ความพร้อมในการวางตลาด
- Dell EMC PowerEdge C6525, R7525, R6525, R7515 และ R6515 เซิร์ฟเวอร์มาพร้อม 3rd Generation AMD EPYCTM โพรเซสเซอร์ วางตลาดทั่วโลกแล้ว
- Dell EMC PowerEdge XE8545 เซิร์ฟเวอร์ พร้อม 3rd Generation AMD EPYC โปรเซสเซอร์ และ NVIDIA A100 GPUs วางตลาดทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว
- Dell EMC PowerEdge C6520, MX750c, R750, R750xa, R650 เซิร์ฟเวอร์และ 3rd Generation Intel® Xeon® Scalable โพรเซสเซอร์ จะวางตลาดทั่วโลกในเดือนพฤษภาคม 2564
- Dell EMC PowerEdge R750xs, R650xs, R550, R450, และPowerEdge XR11 และ XR12 ที่แข็งแกร่ง จะออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
· บล็อก: Where will your innovation engine take you?
· บล็อก: The uncompromised power of Dell’s AI infrastructure
ปีเตอร์ แชมเบอร์ กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค AMD
“ความสัมพันธ์กับ AMD และเดลล์ เทคโนโลยีส์ ในดาต้าเซ็นเตอร์ทวีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการเปิดตัว 3rd Gen AMD EPYC server CPUs ที่วางตลาดแล้วพร้อมกับสายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Dell EMC PowerEdge ด้วยการผนึกกำลังคู่กัน เราไม่เพียงส่งมอบเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลกให้กับลูกค้าที่เป็นองค์กรระดับเอนเทอร์ไพรส์เท่านั้น หากแต่ยังเพิ่มขีดความสามารถของ AI ให้สูงกว่าขอบเขตเดิมๆ ด้วย PowerEdge XE8545”
ลิซ่า สเปลแมน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ผลิตภัณฑ์ PowerEdge XE8545
"เดลล์ เทคโนโลยีส์ และอินเทล มีความมุ่งมั่นในการที่จะแก้ไขสิ่งที่เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่างๆ ของลูกค้า และเราเชื่อว่า PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่ของเดลล์ซึ่งขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากแพลตฟอร์ม 3rd Generation Xeon scalable ที่กำลังมาของอินเทล จะมอบฐานรากให้กับลูกค้าเพื่อความสำเร็จแบบก้าวกระโดดทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขยายตามความต้องการในการทำงาน (scalability) การรักษาความปลอดภัย ตลอดจนด้าน AI ในดาต้าเซ็นเตอร์”
ฟิล ดิคแมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ Intuit Technologies
“เราประสบความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้นได้สำหรับลูกค้าของเราด้วยร่วมมือกับเดลล์ เทคโนโลยีส์ ตลอดเวลา เราสามารถมองเห็นคุณค่าที่ยิ่งใหญ่จากโซลูชันการประมวลผลที่มีแข็งแกร่งและยืดหยุ่นของเดลล์มาโดยตลอด และสายผลิตภัณฑ์เน็กซ์เจน Dell EMC PowerEdge นี้ได้นำพาความสามารถนี้ขึ้นไปอีกระดับขั้น ด้วยความสามารถของ PCIe Gen 4.0 และ AI-enabled โซลูชันใหม่เหล่านี้จะช่วยให้เราทุกคนก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีการประมวลผลที่ปลายทาง หรือ edge computing”
แมทท์ ฮัฟฟ์ ประธาน Redapt
“เวิร์กโหลดกำลังทวีความซับซ้อนและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อธุรกิจเพิ่มมากขึ้นและลูกค้าเองก็ต้องการโซลูชันระดับแอดวานซ์ที่มีความปลอดภัยในการจัดการกับเวิร์กโหลดเหล่านั้น ด้วยเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ เราสามารถเสริมพลังให้กับลูกค้าในการใช้ประโยชน์จากสายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และเทคโนโลยีการจัดการระบบที่ได้รับการเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมไม่ว่าพวกเขาจะต้องการสิ่งใดก็ตาม”