เสียวหมี่ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัว สมาร์ทโฟน Mi 11 สมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของ Mi Series สำหรับผู้ใช้ทั่วโลก Mi 11 เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดจากเสียวหมี่ พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้า1 ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 ชุดกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ระบบบันทึกเสียงแบบภาพยนตร์ และการรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 50W
ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ถึงขีดสุดด้วยกล้อง 108 ล้านพิกเซลและโหมดภาพยนตร์อัจฉริยะ
เนรมิตสมาร์ทโฟนให้เป็นสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ด้วย Mi 11 ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ให้มือสมัครเล่นถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้ราวกับผู้กำกับภาพยนตร์มือฉมัง กล้องหลักเป็นเลนส์ไวด์ความละเอียดสูงที่สุดในโลกถึง 108 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดและบันทึกรายละเอียดได้ครบถ้วน เทียบเท่ากับกับการบันทึกภาพโดยใช้กล้อง DSLR หรือมิเลอร์เลสระดับมืออาชีพ นอกจากนี้เลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและเลนส์เทเลมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ยังช่วยให้การบันทึกภาพทิวทัศน์มีความคมชัดขึ้น ทั้งยังช่วยให้ภาพที่ต้องการเน้นรายละเอียดมีเอฟเฟคโบเก้ที่สวยงาม กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล แบบ Punch Hole ช่วยลดขนาดขอบหน้าจอ ให้ผู้ใช้ดูดีทุกเวลาไม่ว่าจะเซลฟี่หรือระหว่างวิดีโอคอลกับเพื่อน
Mi 11 ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีอันก้าวล้ำของเสียวหมี่ ผสานฟีเจอร์อันยอดเยี่ยมทั้งด้านการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอมากมาย อาทิ โหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night Mode) ได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพแบบกลางคืนได้จากทั้งสามเลนส์ทั้งเลนส์ไวด์, เลนส์อัลตร้าไวด์และกล้องหน้า อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอแบบ Night Mode สร้างมาตรฐานใหม่ในวงการสมาร์ทโฟนด้วยระบบการลด Noise ในระดับไฟล์ RAW เพื่อให้ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกในเวลากลางคืน
มีความคมชัดยิ่งขึ้น ผู้ใช้ที่เป็นสายอาร์ตสามารถเลือกใช้งานโหมดบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบอัจฉริยะ AI 6 ที่เปิดการทำงานได้ด้วยการกดเพียงคลิกเดียว อาทิ โหมด Parallel World จำลองและกลับฉากหลังให้ราวกับว่าบันทึกภาพเคลื่อนไหวอยู่ในโลกที่มีแต่กระจก หรือโหมด Freeze Frame Video ซึ่งจะหยุดและจำลองเฟรมหนึ่งของภาพเคลื่อนไหวเพื่อจำลองภาพเสมือนว่าส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอนั้นถูกหยุดเวลาไว้ แฟนภาพยนตร์น่าจะชื่นชอบโหมด Magic Zoom ที่จำลองการเคลื่อนไหวของกล้องราวกับว่ากล้องเคลื่อนที่เข้าและออกพร้อมกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายทำที่พบมากในภาพยนตร์เขย่าขวัญ เพื่อสร้างนิยามใหม่อีกขั้นของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน Mi 11 ยังมีระบบควบคุมการบันทึกภาพระดับเดียวกับสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ ด้วยเทคโนโลยีการบันทึกภาพแบบ HDR10+ และโหมด Pro Time-lapse ผู้ใช้ยังสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ ค่า ISO รูรับแสง หรือระบบชดเชยแสงให้เหมาะสมกับสภาพแสงต่างๆ ได้เอง แม้ในสภาพแสงที่ไม่เป็นใจ นอกเหนือจากการบันทึกภาพระดับสตูดิโอแล้ว Mi 11 ยังมีคุณสมบัติการตัดต่อหรือปรับแต่งภาพที่มีเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายรวมถึงเทคโนโลยี AI Erase 2.0 ที่ช่วยให้ผู้ใช้ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้ในคลิกเดียว
เห็นและได้ยินทุกรายละเอียดด้วยหน้าจอ AMOLED DotDisplay 120Hz ขนาด 6.81 นิ้ว และระบบเสียงจาก Harman Kardon
Mi 11 มีหน้าจอที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในท้องตลาด โดยได้รับคะแนน A+ และรางวัลหน้าจอยอดเยี่ยมจาก DisplayMate สถาบันทดสอบหน้าจอชั้นนำระดับโลก Mi 11 ใช้หน้าจอ AMOLED DotDisplay 6.81 นิ้วที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม เสียวหมี่ส่งมอบนวัตกรรมหน้าจอที่ก้าวล้ำที่สุดด้วยความละเอียดสูงระดับ WQHD+และเทคโนโลยีการแสดงผลสีแบบ 10 บิต ให้รายละเอียดคมชัดและการเปลี่ยนการแสดงผลสีที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Super Resolution ช่วยยกระดับวิดีโอความละเอียดต่ำขึ้นมาถึงความละเอียด WQHD+ ได้โดยไม่เพิ่มปริมาณการใช้ข้อมูล
Mi 11 มีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ 480Hz และเซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้ปลดล็อกหรือใช้งานได้โดยไม่ต้องมีขอบหรือติ่งหน้าจอ ที่จะลดทอนขนาดของหน้าจอลง Mi 11 มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับด้วยรูปลักษณ์ที่เหนือกาลเวลา ขอบโค้งมนทั้ง 4 ด้านและพื้นผิวด้านหลังแบบกระจก ให้ผู้ใช้รู้สึกดีขณะจับถือและเลื่อนหน้าจอ
Mi 11 มาพร้อมกับลำโพงคู่ที่ร่วมมือกับ ฮาร์แมน คาร์ดอน (Harman Kardon) ให้คุณภาพเสียงชั้นเลิศ อีกทั้งยังใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass Victus™ ช่วยลดความความเสียหายจากการตกหรือร่วงหล่น ทั้งยังมีการเคลือบสารป้องกันคราบเหงื่อหรือไขมัน จึงสะท้อนแสงได้ดีแต่ไม่เกิดคราบลายนิ้วมือ สมาร์ทโฟน Mi 11 มี 2 สีให้เลือกคือสี Midnight Grey และ Horizon Blue
ประสิทธิภาพขั้นสุดของโลกเพื่อก้าวนำหน้าทุกคน
Mi 11 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่จะยกระดับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล Adreno™ 660 GPU, 6th generation Qualcomm® AI engine และโมเด็ม X60 สมาร์ทโฟน Mi 11 จึงเพียบพร้อมทั้ง AI และ 5G
Mi 11 ทำงานได้เร็วกว่า ทรงพลังกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าสมาร์ทโฟนตระกูลเดียวกันรุ่นก่อนหน้าด้วยเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลขนาด 5 นาโนเมตร (5nm) นอกเหนือไปจากการรองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 2K HDR ที่ 120 เฟรมต่อวินาที สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังใช้สถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผลกลาง Octacore และ Arm Cortex-X1ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพที่สูงยิ่งกว่าเดิม แรมแบบ LPDDR5 ความเร็ว 3,200MHz ช่วยให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นจาก 5,500 เมกะบิตต่อวินาทีเป็น 6,400 เมกะบิตต่อวินาที
Mi 11 มีระบบระบายความร้อน LiquidCool รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบให้รองรับการเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ใช้พลังสูงเพื่อช่วยให้สมาร์ทโฟนมีอุณหภูมิที่เย็นอย่างเหมาะสมตลอดเวลา แบตเตอรี่ความจุ 4,600 mAh (typ) นั้นรองรับการชาร์จแบบใช้สาย 55W การชาร์จแบบไร้สายที่กำลังไฟ 50W และการชาร์จให้อุปกรณ์อื่น (Reverse Charging3) ที่กำลังไฟ 10W และในกล่องยังมาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จ 55W GaN อันทรงพลัง ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด
เสียวหมี่ยังมีเซอร์ไพรส์พิเศษสำหรับเหล่าเกมเมอร์ การเปิดตัว Mi 11 จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างเสียวหมี่กับทีมผู้พัฒนาเกม Genshin Impact เกมยอดนิยมของโลกเกมหนึ่งประจำปี 2020 Mi 11 จะให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับเกม Genshin Impact ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเคย และนับจากการเปิดตัว Mi 11 เสียวหมี่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับผู้พัฒนาเกม MiHoYo ผ่านความร่วมมือทางกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและเยี่ยมยอดมากกว่าเคย อดใจรอรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้!
ทำความรู้จักกับ MIUI 12.5 ขึ้นแท่น MIUI ที่ลื่นไหลที่สุด
MIUI 12.5 เป็นการอัปเดตขั้นกลางจาก MIUI 12 ที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ4 หลังจากการปรับปรุงระบบ UI อัตราการใช้ CPU ลดลงถึง 22% และลดอัตราการใช้พลังงานลงได้ถึง 15 % ให้ประสิทธิภาพและการประมวลผลกราฟิกลื่นไหลกว่าเดิม
MIUI 12.5 จะทำให้หน้าจอลื่นไหลกว่าที่เคยเป็นมา ใน MIUI เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวและการตอบสนองของหน้าจอจะประมวลผลโดยใช้แกนประมวลผลเดียว คำสั่งต่างๆ จึงจะต้องรอการประมวลผลจาก CPU กลาง หากมีคำสั่งรอในระบบมากไปก็จะทำให้การเคลื่อนไหวและการตอบสนองหน้าจอช้าลงหรือค้าง MIUI 12.5 ออกมาแบบให้รองรับการเคลื่อนไหวและการตอบสนองของหน้าจอที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากมีการใช้แกนประมวลผลเฉพาะ จึงตอบสนองได้ทันทีและไม่มีคำสั่งอื่นในระบบมาแทรกได้
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ MIUI 12.5 คือการถอนการติดตั้งแอปที่มากับระบบ กล่าวคือผู้ใช้สามารถเลือกถอดการติดตั้งแอปส่วนใหญ่ที่มากับระบบได้ อีกทั้งยังสามารถเลือกซ่อนแอปที่ฝังมากับแกนของระบบได้
สมาร์ทโฟนกลุ่มแรกที่จะได้อัปเดต MIUI 12.5 ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้แก่ Mi 10T, Mi 10T Pro, Mi 10, Mi 10 Pro และ Mi 11 ส่วนสมาร์ทโฟนอีก 11 รุ่นจะได้รับการอัปเดตในรอบถัดไป และเสียวหมี่จะแจ้งรายละเอียดการอัปเดตของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
สมาร์ทโฟน Mi 11 มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ RAM 8 GB + ROM 128 GB และ RAM 8 GB + ROM 256 GBที่ใช้ RAM แบบ LPDDR5 ความเร็ว 3200MHz และเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบ UFS 3.1 Mi 11 ราคาเริ่มต้นที่ €749 จะวางจำหน่ายในช่องทางของเสียวหมี่และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์นี้
เสียวหมี่พร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยสมาร์ทโฟน Mi 11 มาพร้อมการประกันตัวเครื่อง 2 ปี มากกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ และผู้ใช้ยังสามารถรับบริการซ่อมหน้าจอโดยไม่มีค่าใช้จ่าย5 ณ ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ ของเสียวหมี่ได้ 1 ครั้งในช่วงระยะประกัน 12 เดือนแรก
นอกจากนี้ เสียวหมี่เฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกของ Mi 11 ด้วยป้ายโฆษณา LED ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณหน้าศูนย์การค้า CentralWorld เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 19.30 – 20.30 น. ถือเป็นการประกาศการเปิดตัวของสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของเสียวหมี่อย่างเป็นทางการ เป็นเสมือนการจุดพลุการประกาศศักดาฉลองความยิ่งใหญ่ของเสียวหมี่ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีชั้นนำของโลก