วีโร่ เอเจนซี่ด้านประชาสัมพันธ์และดิ
นางสาวภัทร์นีธิ์ จีริผาบ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่
บทสรุปสถานการณ์จากวีโร่ มอบข้อเสนอแนะที่แบรนด์และผู้
บทสรุปสถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา ฉบับที่ 1
ตัวอย่างบางส่วนจากบทสรุ
- ให้ความเอาใจใส่และความเห็
นอกเห็นใจกลุ่มเป้าหมายของตนให้ มากขึ้นกว่าเดิมผ่านการสื่ อสารทุกรูปแบบ - หากแบรนด์มีพนักงานในเมียนมา ขอให้ทุ่มเทเวลาและทรัพยากรต่
างๆ ในการช่วยเหลือพนักงานให้ สามารถรับมือและผ่านพ้นวิกฤติ ครั้งนี้ไปให้ได้ เช่น การสร้างช่องทางต่างๆ สำหรับการติดต่อสื่อสารในกรณีที่ เกิดเหตุขัดข้องอื่นๆ ตามมา และวางจุดยืนขององค์ กรในสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - แบรนด์ควรงดเว้นกิจกรรมหรื
อแคมเปญต่างๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ เราควรให้ความสำคัญกับกิ จกรรมเชิงพาณิชย์ ที่ทำให้เสี่ยงต่อการถูกเข้ าใจผิดว่าเป็นองค์กรที่ปิดหูปิ ดตาไม่ให้ความสนใจกับสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น - แบรนด์ควรมีความระมัดระวั
งในการติดตามตรวจสอบภาพลักษณ์ ของแบรนด์ รวมถึงควรมีการเตรียมแผนงานด้ านการปกป้องภาพลักษณ์ของแบรนด์ เอาไว้ อนึ่งขณะนี้มีข้อมูลข่าวสารที่ ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับแบรนด์ ต่างๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับกองทั พเผยแพร่ต่อๆ กันไปเป็นวงกว้าง ดังนั้นการชี้แจงถึงความเป็นอิ สระและปลอดจากการเมืองจึงจำเป็ นอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ - แบรนด์ควรตรวจสอบย้อนหลังไปถึ
งประวัติการติดต่อหรือความสัมพั นธ์กับรัฐวิสาหกิจของเมียนมาตั้ งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อประเมินว่าการติดต่อครั้ งนั้นจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสี ยงขององค์กรหรือไม่ - แบรนด์ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเป็
นกรณีๆ ไปเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถหรื อไม่สามารถสื่อสารกับประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้า ทั้งนี้เนื่องจากหลายคนมองว่ าแบรนด์ต่างๆ ควรมีจุดยืนของตนเอง ซึ่งในบางกรณีก็อาจเป็นสิ่งที่ ถูกต้อง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นสถานการณ์ ที่แต่ละแบรนด์เผชิญอยู่มี ความเฉพาะเจาะจงที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในกรณีที่มีประเด็นปั ญหาสำคัญ จุดยืนที่แบรนด์เลือกจึงจำเป็ นต้องเป็นจุดยืนที่แบรนด์มี แผนสำรองเตรียมรับมือเอาไว้แล้ วอย่างดี - แบรนด์และองค์กรต่างๆ ที่สามารถช่วยเหลื
อประชาชนในประเทศนี้ได้ ควรมองหาลู่ทางในการให้ความช่ วยเหลือในสิ่งที่ขาดแคลน
วีโร่ยังคงติดตามสถานการณ์ปัจจุ