เทนเซ็นต์ คลาวด์ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ภายใต้เทนเซ็นต์ ชูเทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับหน่วยงาน และองค์กรต่างๆ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการฝูงชน (Crowd Management) ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมนำเสนอตัวอย่างโซลูชันเพื่อเป็นแนวทางการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ในอนาคต ทั้งโซลูชันอัจฉริยะสำหรับบริหารจัดการภายในอาคาร โซลูชันการให้บริการทางการแพทย์แบบ Telemedicine และเทคโนโลยี temperature sensor สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
มร. โพชู หยาง รองประธานอาวุโสกลุ่มเทนเซ็นต์ คลาวด์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “การบริหารจัดการ ฝูงชน (Crowd Management) เป็นมาตรการที่ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นในการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการที่จะบริหารจัดการคนจำนวนมากให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ดี อย่างเช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เร่งให้หน่วยงานต่างๆ มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินงานกันมากขึ้นเพื่อคัดกรอง ป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง”
ด้วยเหตุนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ จึงพร้อมผลักดัน และให้การสนับสนุนแก่ทุกองค์กรในการยกระดับการดำเนินงาน การบริหารจัดการด้านสุขภาพ ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI อัจฉริยะที่องค์กรต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมสามารถนำไปปรับใช้กับแผนการบริหารจัดการได้หลากหลายรูปแบบ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น
โรงพยาบาล หรือหน่วยงานทางการแพทย์ ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และ AI สนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ได้หลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น การใช้แอปพลิเคชัน VooV Meeting จากเทนเซ็นต์ซึ่งเป็นโซลูชัน Video Conference ผ่านระบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และมีเสถียรภาพช่วยเสริมการให้บริการ Telemedicine เช่น การให้คำปรึกษาทางไกล เพื่อให้แพทย์สามารถให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่คนไข้ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น หรือใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารกันระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี Tencent AIMIS Medical Image Cloud ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถช่วยให้ขั้นตอนการคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้นรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการใช้ AI ในการอ่าน และวิเคราะห์ผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อคัดแยกผลตาม กลุ่มอาการป่วยจากรูปแบบการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในการจัดเก็บไฟล์เอกสารสำคัญต่างๆ ของคนไข้ เช่น บันทึกการรักษา ฟิล์มเอ็กซ์เรย์ เอกสารใบสั่งยา ฯลฯ เพื่อให้แพทย์หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา
ห้างสรรพสินค้า การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และ AI ร่วมกับ Internet of Things หรือ IoT ในการบริหารจัดการความหนาแน่นในพื้นที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพื้นที่ รวมถึงเป็นการช่วยลดกำลังคน หรือขั้นตอน ในการดูแลเรื่องการบริหารพื้นที่ได้ เช่น การใช้เทคโนโลยีตรวจวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (temperature sensor) ตรวจจับความร้อนในพื้นที่ จากนั้นข้อมูลจะถูก AI นำประมวล และวิเคราะห์ผลบนระบบปฏิบัติการคลาวด์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาจัดทำ Heat Map เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการบริหารจัดการความหนาแน่นของผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ ยังมีเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI อัจฉริยะที่สามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินงาน Healthcare Community Management อื่นๆ เช่น เทคโนโลยีการจดจำตัวอักษรหรือ Optical Character Recognition (OCR) ที่สามารถแปลงภาพตัวอักษรทั้งตัวพิมพ์ และลายมือในเอกสารต่างๆ เป็นข้อมูลดิจิทัลเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ และเทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) มาผสานใช้กับระบบปฏิบัติการคลาวด์ และ AI เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัว ด้วยการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานให้เป็นในรูปแบบของอัตโนมัติ เพื่อให้สามารถทำงานที่เป็นประจำซ้ำๆ ได้เหมือนกับมนุษย์
“จากวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ ทำให้หน่วยงานต่างๆทั่วโลกให้ความสนใจกับมาตรการด้านสุขภาพกันมากขึ้น เทนเซ็นต์ คลาวด์ พร้อมมอบบริการระบบปฏิบัติการคลาวด์อัจฉริยะ ที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้าด้วยความเข้าใจเชิงลึกในด้านการให้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีของเราจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ และเสริมประสิทธิภาพในการยกระดับการบริหารจัดการด้านสุขภาพของทุกองค์กร” มร. โพชู กล่าวสรุป