คาดการณ์ที่ 1
คิดถึงการท่องเที่ยวใช่ไหม? กรุณาเตรียมพร้อมการแชร์ข้อมู
การท่องเที่ยวแบบจับคู่และกรี
- แม้จะมีการพูดคุยถึงเรื่
องความเป็นส่วนตัวของข้อมู ลมาหลายปี เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลอย่างระมั ดระวังจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดให ญ่บางแห่ง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่ อคุ้มครองประชาชนในกลุ่มประเทศ EU หรือรู้จักกันในชื่อย่อว่า GDPR ยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับบริ ษัทหลายแห่ง แต่การติดตามผู้สัมผัสทำให้ เราหันมาให้ความสนใจถึงความเป็ นส่วนตัวของข้อมูลอย่างจริงจัง - การติดตามผู้สัมผัสที่เข้
มงวดและการเข้าถึงข้อมูลที่ถู กต้องและครบถ้วนได้อย่างทันท่ วงทีได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปัจจั ยสำคัญที่ช่วยควบคุมจำนวนผู้ติ ดเชื้อให้คงที่ได้ ในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกหั นมาใช้เครื่องมือดิจิทัลดังกล่ าวอย่างรวดเร็ว เมื่ออัตราการติดเชื้อที่เพิ่ มสูงขึ้นอีกครั้ง การวิจัยจาก Future Market Insights ชี้ให้เห็นว่าจะมีแอพติดตามผู้ สัมผัสเกิดขึ้นใหม่ในอัตราปีละ 15% เนื่องจากมีการติดเชื้ อระลอกใหม่ในหลายประเทศ - นอกจากการของภาคประชาชนนำโดยหน่
วยงานสาธารณสุขแล้ว ภาคเอกชนยังให้การสนับสนุ นความพยายามดังกล่าว อาทิ ระบบการแจ้งเตือนแบบเปิดเผย Apple–Google Exposure Notification system ที่เริ่มใช้ในบางประเทศแล้ว
เมื่อไรเราจะได้เจอกันอีกครั้ง?
- ทุกคนต่างมีคำถามว่าเมื่
อไรเราจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ เหมือนเดิม และผู้คนทั้งภูมิภาคและทั่ วโลกมีความต้องการท่องเที่ยวเหมื อนกัน - หลายประเทศมีการจับคู่ท่องเที่
ยวระหว่างประเทศและเปิดช่ องทางสีเขียวเพื่อฟื้นฟูอุ ตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภั ยของนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องมีการส่งข้อมูลส่วนบุ คคลระหว่างประเทศโดยมี มาตรการควบคุมความปลอดภัยที่ เหมาะสมและสื่อสารอย่างโปร่ งใสเรื่องการจัดการและจัดเก็บข้ อมูล
- มีความจำเป็นในการเคลื่อนย้ายข้
อมูลระหว่างหน่วยงานภาครั ฐและองค์กรต่างๆ เช่นสายการบิน สนามบินและโรงแรม จะยังมีการถกเถียงเรื่องวิธี การจัดเก็บ การเข้าถึงข้อมูล และการใช้ข้อมูลในปี 2564 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนเริ่มใส่ใจถึงข้อมูลส่ วนตัวที่กำลังถูกแชร์อยู่ ในขณะนี้ - อย่างไรก็ตาม การแบ่งปันข้อมูลทางการแพทย์ที่
ได้จากการทดสอบ COVID-19 ร่วมกับการติดตามผู้สัมผั สและการเช็คอินของพลเมืองที่ปฏิ บัติตามกฎหมายทั้งหมด ไม่รวมบุคคลที่ถูกปฏิ เสธจากภาครัฐ หากสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้อี กครั้ง นักท่องเที่ยวต้องคิดให้ รอบคอบอีกครั้งเมื่อพวกเขาต้ องให้ข้อมูล
คาดการณ์ที่ 2
สิ้นสุดการรอคอย .......5G มาถึงแล้ว
ภาคเอกชนรับช่วงต่
- ในขณะที่เครือข่าย 5G ได้มีการเปิดตัวในตลาดมาก่อนแล้
ว แต่ความพร้อมใช้งานของ iPhone 12 จะทำให้เห็นการใช้อุปกรณ์ที่ รองรับ 5G อย่างแพร่หลายเป็นครั้งแรก - สิ่งนี้จะเป็นการกระตุ้นการให้
มีบริการเครือข่าย 5G ในหลายประเทศ เนื่องจากบริษั ทโทรคมนาคมพยายามปรับหาบริ การใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภคและรัฐบาลได้ใช้ โอกาสทางดิจิตอลฟื้นฟูเศรษฐกิ จในปี 2564 อย่างไรก็ตามยังคงต้องใช้เวลาอี กสักพักก่อนที่จะความหน่ วงในการส่งข้อมูลจะลดลงหรื อความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคู ณตามที่ไดสัญญาไว้ - มีการใช้เครือข่าย 5G ส่วนตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่
มองค์กร Deloitte คาดการณ์จากยอดการใช้ว่า ว่า 1 ใน 3 ของตลาด 5G ปี 2020-2025 มาจากท่าเรือ สนามบินและสถานที่โลจิสติกส์อื่ นๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆที่เริ่ มใช้เครือข่าย 5G - การสำรวจล่าสุดของระบบเครือข่าย การบริการ และบริษัทซอฟแวร์ Ciena พบว่า 31% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากองค์
กรในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ และญี่ปุ่น เห็นพ้องกันว่าผลกระทบที่ใหญ่ที่ สุดของ 5G คือการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และความสามารถขับเคลื่อนดิจิทั ลแอปพลิเคชั่นได้มากขึ้น
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่
- ในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ส่วนใหญ่รัฐบาลเป็นผู้ขับเคลื่
อนการใช้เครือข่าย 5G เช่น รัฐบาลออสเตรเลีย ลงทุนเกือบ 30 ล้านดอลลาร์เพื่อทดลองใช้ 5G ในภาคส่วนต่างๆ เช่น เกษตรกรรม เหมืองแร่ และโลจิสติกส์ ในขณะที่โรงพยาบาลในกรุงเทพได้ ใช้ 5G เพื่อปรับปรุงการดูแลคนไข้และปร ะสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน - อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลกำลังยุ่งอยู่กั
บการรับมือกับโควิด 19 และการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจอย่ างเต็มที่ ภาคเอกชนจึงรับหน้าที่ต่อเพื่ อแข่งขันในเครือข่าย 5G - ในปี 2021 หลายๆ องค์กรควรให้ความสำคัญ จำนวนโหนดที่ต้องติดตั้งเพื่
อใช้ในเครือข่ายดังกล่าวนั้น มีความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสที่ อาจถูกโจมตีได้อย่างมากเช่นเดี ยวกัน - ภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของโครงสร้
างพื้นฐานไม่สามารถใช้แนวทางเดี ยวกันเพื่อออกแบบและใช้เครือข่ าย 5G อย่างที่เคยทำกับ 3G และ 4G เนื่องจากจะทำให้ตกเป็นเหยื่ อจากการถูกโจมตีอย่างง่ายได้
คาดการณ์ที่ 3
ทำงานที่บ้านได้อย่
ความปลอดภัยผลักดันให้เกิ
● บริษัทต่างๆ พยายามจะใช้มาตรการที่
- การเชื่อมต่อ VPN ที่ไม่เสถียรไปจนถึง fob (ฮาร์ดแวร์ที่สร้างตัวเลขแบบสุ่
มให้ผู้ใช้ งานภายในระยะเวลากำหนด) และดิจิทัลคีย์ โซลูชั่นส์เหล่านี้พึ่ งพาเทคโนโลยีเดิมและไม่ได้ถู กออกแบบมาสำหรับการเชื่อมต่ อจำนวนมากพร้อมกัน โซลูชั่นส์ดังกล่าวเคยมีขึ้นเพื่ อใช้เป็นแก้ปัญหาระยะสั้น หรือมันซับซ้อนเกินไปสำหรับพนั กงานที่มีความเข้าใจจำกัดเกี่ ยวกับผลกระทบด้านความปลอดภั ยทางไซเบอร์
● หากปี 2020 สอนอะไรเราบางอย่าง นั่นคงเป็นการทำงานระยะไกลทั่
คลาวด์ คอมพิวติ้งจะมีมูลค่าน้อยลง
● การใช้เครื่องมือคลาวด์ที่เพิ่
● ธุรกิจสามารถจัดหาอุปกรณ์ที่เชื่
● การออกแบบวิธีที่เชื่อมต่
● ความปลอดภัยจะถูกส่งผ่าน Edge ซึ่งจะเห็นโซลูชันส์ต่างๆเช่น Secure Access Service edge (SASE) เป็นบรรทัดฐานการรั
คาดการณ์ที่ 4
ปีของการแก้ไขและปรับปรุง
การคิดแบบไร้ขีดจำกัดกำลั
- การย้ายไปยังระบบคลาวด์ที่
มากกว่าฟังก์ชั่น Light-Touch เช่น อีเมล เราจะเห็นการทำงานเสมือนจริ งมากขึ้นและบังคับให้หลายบริษั ทตรวจสอบความปลอดภั ยของระบบคลาวด์ที่มีอยู่ - ในขณะที่การควบคุมความปลอดภั
ยเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญในการรั กษาความปลอดภัยบนคลาวด์ องค์กรจำเป็นต้องมีการกำกับดู แลข้อมูลระบุตัวตนและการจั ดการการเข้าถึง (IAM) - นักวิจัย Palo Alto Networks Unit 42 ได้สังเกตว่าการกำหนดค่า IAM ผิดเพียงครั้งเดียว อาจทำให้ผู้โจมตีสร้างความเสี
ยหายทั้งหมด สามารถขยายไปสู่คลาวด์ได้ ในวงกว้าง และผ่านทุกการควบคุมความปลอดภัย - โดยภาพรวม การค้นพบของเราชี้ให้เห็นว่
าการกำหนดค่าข้อมูลประจำตัวผิ ดพลาดเหล่านี้เกิดขึ้นในบัญชี คลาวด์จำนวนมาก เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภั ยที่สำคัญต่อองค์กรซึ่งอาจส่ งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทั้งหมด กระทบกับปริมาณงานนับพั นภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
การแก้ไขการกำหนดค่าที่ไม่ถูกต้
- ด้วยการระบาดของโรคทำให้ทีมไอที
ห่างไกลจากความคิดที่ไร้ ขอบเขตและมุ่งไปสู่ความคิดพื้ นฐานมากขึ้น ในปี 2021 องค์กรต่างๆ จะหันมาให้ความสำคัญกับไอที มากขึ้นเพื่อทำสร้างโครงสร้างพื้ นฐานที่ถูกต้องและเปลี่ ยนไปสนใจสิ่งที่สำคัญอย่างแท้ จริง แม้กระทั่งกลับไปทำวิธีเดิม
● การกระทำเช่นนี้ ทีมรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
● ในปี 2019 Bain & Company และ Facebook คาดว่า ในปี 2568 ประชากรในเอเชียตะวันออกเฉี
● ตอนนี้ความปลอดภัยต้องทำงานด้
มองย้อนกลับไปในปี 2020
ปี 2020 เป็นปีที่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดความท้าทายต่
ในช่วงนี้ ธุรกิจต่างๆเร่งนำมาตรการรั
สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2020: อะไรเกิดขึ้นแล้วบ้าง
ปัญหา 4G ในวันนี้ส่งผลต่อความปลอดภัยของ
4G จะยังคงสำคัญอยู่ในลำดับต้
สิ่งที่เกิดขึ้น
- COVID-19 และความท้าทายด้านการเงิน โครงสร้างพื้นฐาน และภูมิรัฐศาสตร์ทำให้เกิ
ดการเลื่อนการใช้ 5G ในหลายประเทศ - มีเพียงไม่กี่ประเทศ เช่น ไทย เกาหลีใต้ จีน และ ญี่ปุ่น ได้นำบริการ 5G มาใช้สำหรับบางกลุ่มผู้บริโภค แต่ 4G ก็ยังคงเป็นเครือข่ายหลักในส่
วนใหญ่ของภูมิภาคเอเชียและญี่ปุ่ น (JAPAC) - แม้จะมีมานานหลายปีแล้ว แต่เครือข่าย 4G ก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงต่อการคุ
กคามทางไซเบอร์โดยเฉพาะในรู ปแบบของการโจมตีแบบปฏิเสธการให้ บริการ (DoS) - ในขณะนี้ ไม่ค่อยพบการโจมตี 5G เนื่องจากการบริการยังอยู่
ในวงจำกัด อย่างไรก็ตามจากหลักฐานในปัจจุ บัน การโจมตีต้องการเพื่อบังคับให้ ผู้ใช้ละทิ้งเครือข่าย 5G ไปใช้ 4G จึงต้องให้ความสำคัญต่ อความปลอดภัยของ 4G ในขณะที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 5G ด้วยเช่นกัน
สิ่งที่คาดการณ์
การขาดแคลนคนเก่งไม่ใช่ในแบบที่
ความต้องการ: ความอยากรู้อยากเห็นและนักแก้ปั
สิ่งที่เกิดขึ้น
- ในเดือนพฤศจิกายน 2019 สมาคมที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ใหญ่
ที่สุดในโลกมีสมาชิกเป็นผู้เชี่ ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ ISC² เผยผลการศึกษาว่ามีความต้ องการกำลังคนด้านความปลอดภั ยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น 145% ซึ่งตอกย้ำถึงความต้องการที่ยั งคงมีอยู่ในปัจจุบัน และทำให้เกิดช่องว่างทางด้านทั กษะเป็นครั้งแรก - ภาวะชุลมุนของการทำงานจากที่บ้
านในช่วงที่มีการแพร่ ระบาดของไวรัส ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภั ยทางไซเบอร์ทำหลายอย่างมากเกิ นไปเพื่อปกป้องอาชญากรไซเบอร์ โดยการโจมตีที่สำคัญได้แก่ แคมเปญ malspam ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 หรือ coronavirus การจดทะเบียนโดเมนที่เกี่ยวกั บโรคระบาดเพื่อป้องกันไม่ให้ เหยื่อสงสัยและการฉ้อโกง การโฮสต์มัลแวร์ และการโจมตีแรนซัมแวร์ไปยังหน่ วยงานที่สำคัญ เช่น หน่วยงานสาธารณสุข - ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทั้
งภาครัฐและเอกชนได้เริ่ มอบรมและรับสมัครผู้เชี่ยวชาญด้ านความปลอดภัยทางไซเบอร์ - ทั้งเพื่อตอบสนองต่อ COVID-19 และรับมือความซับซ้อนการโจมตีที่ เพิ่มขึ้น - การริเริ่มเหล่านี้ช่วยดึงกลุ่
มผู้เชี่ยวชาญที่มีภูมิหลั งและทักษะที่หลากหลาย ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาช่องว่างด้ านทักษะทางสังคม หรือ soft skills ที่เราได้คาดการณ์ไว้ในปีที่ผ่ านมา - แม้ว่านี่จะเป็นก้าวที่ดี
ในการสร้างบุคลากรที่มีทักษะอย่ างยั่งยืนมากขึ้น องค์กรควรระลึกว่าบุคลากรใหม่ เหล่านี้ไม่ใช่ยาครอบจั กรวาลในการแก้ปัญหาขาดแคลนทั่ วโลก - โรคระบาดได้แสดงให้เห็นถึ
งความสำคัญของตำแหน่งนี้ทั้ งในปัจจุบันและอนาคต เราหวังว่าจะได้เห็นผู้คนคนเลื อกเส้นทางอาชีพในด้านไซเบอร์ซี เคียวริตี้มากขึ้น
สิ่งที่คาดการณ์
IOT จะกลายเป็นความเสี่ยงของทุกคน
กริ่งไร้สายของคุณอาจจะเปิดรั
สิ่งที่เกิดขึ้น
- นอกจากการจัดการช่องโหว่ของ IoT ที่มีอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่คื
อการทำงานระยะไกลหรือทำงานจากที่ บ้านที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อกั บ IoT มากขึ้น ท้าทายต่อทีมรักษาความปลอดภั ยทางไซเบอร์ในปีนี้อย่างมาก - อุปกรณ์ทำงานถูกเชื่อมต่อกั
บเครือข่ายในบ้านและอุปกรณ์ส่ วนตัวเชื่อมต่อกับเครือข่ ายขององค์กรทำให้การรั กษาความปลอดภัยของ IoT มีความซับซ้อนมากขึ้นในปี 2020 - ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่
น เกือบครึ่งหนึ่งของ บริษัทที่ทำการสำรวจ การรักษาความปลอดภัย IoT โดยพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ พบว่า องค์กร (46%) เห็นว่าเรื่องความปลอดภัยของ IoT จำเป็นต้องปรับปรุงอีกมาก ใน - ในสิงคโปร์ บริษัท (24%) ยังไม่ได้เริ่มรักษาความปลอดภัย IoT หรือแยกเครือข่ายอุปกรณ์ IoT ออกไปเป็นสัดส่วน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจากบางประเทศเช่นญี่ปุ่น (43%) และอินเดีย (36%) น่ากังวัลยิ่งกว่า
- การทำงานจากที่บ้านแพร่
หลายมากขึ้น องค์กรจำเป็นต้องปรับปรุ งแนวทางในการจัดการภัยคุ กคามทางไซเบอร์และให้ความสำคั ญของสุขอนามัยในโลกไซเบอร์ - IoT ในภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่าเอเชียแปซิฟิ
กจะครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ ที่สุดในตลาด Industrial Internet of Things (IIoT) ทั่วโลกในปี 2020 COVID-19 อาจทำให้ IIoT หยุดการขยายตัวชั่วคราว แต่ภูมิภาคนี้มีแนวโน้มที่จะเป็ นฮับการผลิตภาคอุ ตสาหกรรมและแหล่งลงทุนที่สำคั ญของโลก รวมถึงอาชญากรไซเบอร์ด้วย - อุปกรณ์ IIoT แทบจะไม่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้
โดยตรงและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกั บคลาวด์อาจจะไม่ได้รับการดู แลและปกป้อง โดยเฉพาะ หากมัลแวร์ไม่รบกวนฟังก์ชั นการทำงานหลักของอุปกรณ์ แต่ส่งผลกระทบที่อื่นในเครือข่ าย - เซ็นเซอร์เครือข่าย การควบคุมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิ
กส์อื่น ๆ ที่ประกอบเป็น IIoT ถูกเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ควบคุมหรือการตรวจสอบระยะไกล แต่ยังสร้างความเสี่ยงทางธุรกิ จและสังคมใหม่ ๆ - แม้ว่าเราจะไม่ได้สังเกตเห็
นการโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ แต่บอทเน็ต IoT เช่น Mirai ยังคงพัฒนาและใช้ประโยชน์จากช่ องโหว่ใหม่ ๆ นอกจากนี้เรายังพบช่องโหว่เก่า ๆ บนเราเตอร์ของผู้ใช้
สิ่งที่คาดการณ์
ข้อมูลส่วนบุคคลเริ่มไม่ชัดเจน
กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมู
สิ่งที่เกิดขึ้น
- ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็
นหนึ่งในไม่กี่หัวข้อที่เป็นข่ าวโด่งดังในปี 2020 สูสีกับข่าวกับ COVID-19 - เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับแอปพลิ
เคชั่นยอดนิยมของจีนไป จนถึงการรวบรวมข้อมูลส่วนบุ คคลจากการติดตามผู้สัมผัสในระดั บภูมิภาคและระดับโลก การพูดคุยเกี่ยวกับการเข้าถึง จัดเก็บและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุ คคล - ในบางประเทศและธุรกิจระวั
งแอปพลิเคชั่นติดตามผู้สัมผั สและอุปกรณ์สวมใส่ แม้จะยอมรับว่าเป็นสิ่งจำเป็นก็ ตาม COVID-19 ทำให้ความเป็นส่วนตัวของข้อมู ลซับซ้อนขึ้น - แอปติดตามผู้สัมผัส (ทั้งที่พัฒนาจากรัฐบาลและในอุ
ตสาหกรรม) และอุปกรณ์ที่สวมใส่ ทำให้เกิดการถกเถียงเรื่ องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตั้งแต่อำนาจอธิปไตยของข้อมูล แต่การจัดเก็บข้อมูลยังคงเป็นอุ ปสรรค - ปี 2020 และความจำเป็นในการติ
ดตามการระบาด COVID-19 อาจเป็นการทดสอบรัฐบาลขั้นสูงสุ ดในการรักษาความปลอดภัยข้อมู ลพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ
สิ่งที่คาดการณ์
อนาคตของ คลาวด์ มาถึงแล้ว อย่าหลงทางไปกับความวุ่นวาย
ความสับสนที่มากขึ้นเกี่ยวกับ configuration ยังมีความสับสนของแนวคิดและระดั
สิ่งที่เกิดขึ้น
- จากการศึกษาความปลอดภัยบนคลาวด์
ในภูมิภาค Asia-Pacific Cloud Security Study 2019 พบว่า:
○ 80% ขององค์กรขนาดใหญ่เห็นว่
○ 3 ใน 5 แห่ง ขององค์กรขนาดใหญ่ในภูมิ
○ เกือบสองในสามขององค์กรไม่มีมุ
○ ผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจภู
- ชุดข้อมูลตลาดโลกที่ใหญ่ที่สุด ด้านความปลอดภัยคลาวด์ State of Cloud Native Security Report เปิดเผยว่าการพึ่งพาระบบคลาวด์
ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ช่วยเพิ่ มความมั่นใจในความปลอดภั ยของระบบคลาวด์ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือด้านความปลอดภั ยจากหลากหลายอุปกรณ์และผู้ให้ บริการกลายเป็นบรรทัดฐาน อย่างไรก็ตามผู้ตอบแบบสอบถามยั งไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้รับผิ ดชอบด้านความปลอดภัยที่แท้จริง - ความสับสนทั้งหมดนี้เกิดขึ้
นขณะที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ปัจจัยสำคัญที่เร่งการย้ายไปยั งระบบคลาวด์ในปี 2020 องค์กรต่างๆ พบว่าตัวเองต้องการเปลี่ยนเป็ นดิจิทัลอย่างรวดเร็วและรองรั บการทำงานจากระยะไกลได้ดีขึ้น - ยิ่งเร่งรีบมาก ความเร็วน้อยลง: น่าเสียดายที่การแย่งชิงเพื่อย้
ายไปใช้ระบบคลาวด์ส่งผลเช่นเดี ยวกัน เกิดความท้าทายในการกำหนดค่าที่ ผิดพลาด จากรายงานภัยคุกคาม Cloud Threat Report, H2 2020 พบว่ามีการกำหนดค่าข้อมู ลประจำตัวผิดพลาดอย่างมากในบั ญชีคลาวด์และสุ่มเสี่ยงอย่ างมากต่อความปลอดภัยขององค์กรซึ่ งอาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมู ลที่มีราคาสูง การวิจัยเกิดขึ้นระหว่างเดื อนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2020 และมีขอบเขตครอบคลุมทั่ วโลกโดยครอบคลุมข้อมูลเทราไบต์ บัญชีคลาวด์หลายพันบัญชีและที่ เก็บโค้ด GitHub มากกว่า 100,000 รายการ