ELEVATE และ บริษัท หัวเว่ย ร่วมกันจัดงานสัมมนาออนไลน์ขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสำหรับการวางแนวทางพลิกฟื้นและพัฒนาเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมสำหรับภูมิภาคเอเชีย ภายในงาน บรรดาผู้บรรยายได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบาย พันธกิจ และมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ ที่จะนำไปสู่ ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่เน้นให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงผลประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง คำนึงถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น และเพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
คำถามสำคัญคือเศรษฐกิจจะได้รับการฟื้นฟูและเปลี่ยนแปลงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างไร ในขณะที่เรายังต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติด้านสภาพภูมิอากาศไปควบคู่กัน โรคระบาดทำให้เราตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น ส่งผลให้แผนการพลิกฟื้นและพัฒนาเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากคุณภาพอากาศที่ดีและการจัดการของเสียที่มีประสิทธิภาพนั้นต่างมีส่วนช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยังส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนต่อการรับมือโรคระบาดในระดับโลก นอกจากนี้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Big Data ไปจนถึง Internet of Things (IoT) ยังช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานและการก่อมลพิษในหลายภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพของพลังงานทดแทนต่าง ๆ ผ่านการนำโซลูชัน AI มาประยุกต์ใช้
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยไม่นับรวมประเทศจีน มีจำนวนประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกทั้งหมด และในปี พ.ศ. 2563 มีอัตราส่วนใน GDP โลกราว 25% ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งเป็นวิธีบูรณาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม ทั้งยังสร้างความหวังใหม่ที่จะต่อยอดไปสู่โมเดลเศรษฐกิจอันคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
คุณแคทเธอรีน เฉิน รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการคณะผู้บริหารบริษัท หัวเว่ย กล่าวพร้อมย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนและชี้ให้เห็นถึงความพยายามของหัวเว่ยเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การแสวงหาแหล่งพลังงานทดแทนใหม่ ๆ รวมถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนผ่านโซลูชัน ICT ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ “เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเทคโนโลยีจะต้องถูกนำไปใช้เพื่อพิทักษ์โลกซึ่งเป็นบ้านเพียงหลังเดียวของเรา ดิฉันมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในศักยภาพของเราที่จะผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้า รวมทั้งมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประชาคมโลกและความมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติ”
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หัวเว่ยจึงมุ่งมั่นลดปริมาณกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การดำเนินงาน ตลอดจนวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของหัวเว่ย โดยมุ่งหวังที่จะรักษาทรัพยากรและผลักดันอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อการก้าวสู่สังคมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของหัวเว่ยที่มีต่อนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ภายในงานยังมีผู้บรรยายจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคเข้าร่วมมากมาย ซึ่งคุณริชาร์ด เวลฟอร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของ ELEVATE องค์กรผู้จัดงานสัมมนาออนไลน์ร่วมกับหัวเว่ยในครั้งนี้ได้กล่าวว่า “งานสัมมนาออนไลน์นี้ได้อธิบายและแจกแจงเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสต่าง ๆ ในช่วงฟื้นฟูหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงความจำเป็นอันเร่งด่วนที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะโลกร้อนและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ และยังได้พิจารณาแนวทางการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรภาคสังคมต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน”