รายงาน “SMB Trends Report 2020” โดยเซลส์ฟอร์ซเผย ผู้บริโภคกว่า 77% หวังว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นในปีนี้จะเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น โดยจากรายงานดังกล่าวยังได้รวมข้อมูลคำตอบจากเจ้าของกิจการ SMB กว่า 2,300 ท่านทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึง 102 ท่านจากประเทศไทย เพื่อรายงานเทรนด์ SMB ประจำปี 2020
ในขณะที่ความคาดหวังของผู้บริโภคมีมากยิ่งขึ้น ทำให้เจ้าของกิจการ SMB ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันในการให้บริการ และการเอาใจใส่ลูกค้า รวมถึงยังต้องพยุงกิจการฝ่าวิกฤตไปพร้อมกัน ซึ่งวิกฤตเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิธีการทำงานของหลายๆกิจการ และมากไปกว่านั้นยังส่งผลกระทบไปถึงเรื่องความท้าทาย แรงขับเคลื่อน และเป้าหมายของเจ้าของกิจการอีกด้วย ซึ่งเซลส์ฟอร์ซได้เผยแผนการฟื้นฟูธุรกิจในช่วงหลัง COVID-19 จากเจ้าของ SMB ทั่วโลกภายในรายงานฉบับนี้
โดยจากผลสำรวจกิจการ SMB ในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึง 3 ปัจจัยหลักที่ชะลอกระบวนการทำงานของกิจการมากที่สุดคือ การตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าในอันดับที่ 1 ตามมาด้วยเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นอันดับที่ 2 และในอันดับที่ 3 คือการตามหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ โดยนอกจากนี้ภายในรายงานยังเผยให้เห็นถึงความท้าทายส่วนตัวของเจ้าของกิจการ SMB ไทย อาทิเช่น การหาลูกค้าใหม่ถือเป็นความท้าทายอันดับที่ 1 ตามมาด้วยการรักษาลูกค้าปัจจุบันเป็นอันดับที่ 2และการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเป็นอันดับที่ 3 แต่เมื่อถามถึงปัจจัยที่ชะลอการเติบโตในอนาคตของกิจการ จึงทราบว่า การตอบโจทย์ความคาดหวังจากลูกค้าถือเป็นปัจจัยหลักในอันดับที่ 1 ตามมาด้วยการรักษาความคงที่ทางการเงินเป็นอันดับที่ 2 และการปรับขนาดเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตเป็นอันดับที่ 3 ตามตารางด้านล่าง
นอกจากนี้ วิกฤตการระบาด ยังถือเป็นปัจจัยหลักในการเปลี่ ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค และสร้างผลกระทบต่อสั งคมและเศรษฐกิจ รวมไปถึงการดำเนินงานของธุรกิ จด้วยเช่นกัน ทั้งนี้วิกฤต COVID-19 ยังสร้างผลกระทบต่อการเติ บโตของธุรกิจในประเทศไทยอีกด้วย โดยจากรายงานแสดงให้เห็นว่า ความต้องการของลูกค้าที่ลดลงถื อเป็นผลกระทบจากวิกฤตในอันดับที่ 1 ตามมาด้วย รายได้ที่ลดลงเป็นอันดับ 2 และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุ ปทานเป็นอันดับ 3 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เจ้ าของ SMB ไทยเริ่มพิจารณาถึงการสมัครหาตั วช่วยทางการเงินเป็นอันดับที่ 1 และในอันดับที่ 2 คือการกลับมาจ้างงานพนักงานที่ เคยปลดไป โดยยังคงพิจารณาการลดจำนวนพนั กงานลงในอันดับ 3 ไปพร้อมกัน ตามตารางด้านล่าง
ข้อมูลสำคัญและข้อเท็จจริ
การขยายกิจการ SMB อาศัยการปรับตัวเพื่อความพึ
- 49% ของกิจการ SMB ที่กำลังโต ให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นกับลูกค้
าในช่วงวิกฤต ยกตัวอย่างเช่น การยืดเวลาและอั พเดทระยะเวลาในการคืนสินค้าหรื อชำระเงิน เป็นต้น - ในขณะที่การระบาดส่งผลให้พฤติ
กรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป เจ้าของกิจการ SMB ยังต้องเผชิญหน้ากับปัจจั ยการชะลอด้านการเงินและเงินทุน ซึ่งส่งผลให้ข้อได้เปรี ยบในการแข่งขันกับคู่แข่ง อย่างเช่นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆออกสู่ตลาด ไปจนถึงการส่งมอบประสบการณ์ที่ ต่อเนื่อง ได้กลายเป็นเรื่องที่ยากมากยิ่ งขึ้น - 3 เรื่องที่เจ้าของกิจการ SMB หลายๆท่านให้ความสำคั
ญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ เพื่อรับมือและเตรียมพร้อมกับวิ กฤตในอนาคต ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า เวิร์กโฟลว์ และการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร
ความยืดหยุ่นและการมองโลกในแง่
- 3 ใน 5 ของเจ้าของกิจการ SMB กล่าวว่า คำสั่งในพื้นที่ซึ่งระบุให้ปิ
ดหรือจำกัดระยะเวลาการดำเนินการ เป็นการคุกคามระบบการทำงานของธุ รกิจของพวกเขา รวมไปถึงการปฏิบัติตามข้ อกำหนดด้านสาธารณสุขเป็นการเพิ่ มภาระในการการทำงานมากยิ่งขึ้น - ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับความท้
าทายต่างๆ เจ้าของ SMB 22% กล่าวว่าพวกเขายังคงมองโลกในแง่ ดีเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจของตน โดยอีก 50% กล่าวว่าพวกเขาค่อนข้ างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกั บอนาคตของธุรกิจของตน
กิจการ SMB รูปแบบดิจิทัล มีความพร้อมในการรับมือกั
- เจ้าของกิจการ SMB 1 ใน 5 ได้เริ่มใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ นับตั้งแต่การแพร่ระบาดได้เริ่
มขึ้น อาทิเช่น ซอฟต์แวร์อีเมล์ด้านการตลาด ซอฟท์แวร์เพื่อการให้บริการลู กค้า เครื่องมือในการทำงานร่วมกัน และซอฟท์แวร์อีคอมเมิร์ซ เป็นต้น - กิจการ SMB 55% ที่กำลังโตกล่าวเป็นเสียงเดี
ยวกันว่า พวกเขาใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่ อนปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ และลูกค้า ซึ่ง 51% กล่าวว่ามันเป็นการขับเคลื่ อนการเติบโตของฐานลูกค้าไปในตั วอีกด้วย - 74% ของเจ้าของกิจการ SMB กล่าวว่า ความง่ายในการใช้งาน ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และราคา เป็นข้อพิจารณาอันดับต้น ๆ ในการพิจารณาการใช้งานเทคโนโลยี
ใหม่ๆ