หัวเว่ยเปิดตัวระบบเก็บข้อมูลความจุสูง OceanStor Pacific Series รุ่นใหม่ เสนอรุ่นที่สุดแห่งประสิทธิภาพและความคุ้มค่า พร้อมมอบบริการที่เสถียรสำหรับการจัดเก็บข้อมูล AI
การประมวลผลคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC
) วิดีโอ และการจัดเก็บข้อมูลความจุสูงรูปแบบอื่นๆ ทลายทุกขีดจำกัดทั้งในด้านสถาปัตยกรรม การให้บริการและสมรรถนะ ชูประโยชน์จากการเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครือข่ายอื่นแบบหลายโปรโตคอล (multi-protocol interworking
) อัลกอริทึม elastic EC
รุ่นใหม่ และชุดฮาร์ดแวร์เฉพาะ โดยผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่นี้จะช่วยวางมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดเก็บข้อมูลความจุสูงแห่งอนาคต ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการจัดการข้อมูล เติมเต็มศักยภาพด้านการใช้ข้อมูลธุรกิจองค์กรในยุคสมัยแห่งความอัจฉริยะ
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ทำให้การผลิตเชิงดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับโมเดลธุรกิจสมัยใหม่ โดยการผลิตเชิงดิจิทัลนี้ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ ก่อนจะแปรรูปไปเป็นการบริการ และก่อเกิดเป็นผลกำไรในท้ายที่สุด ด้วยปัจจัยการผลิตแบบใหม่นี้เอง ธุรกิจองค์กรจึงต้องเฟ้นหาวิธีที่เหมาะสมคุ้มค่าในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มีการจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ของบริการหลัก หรือข้อมูลความจุสูงที่ไม่มีการจัดเก็บเป็นหมวดหมู่จาก 5G, IoT, และการถ่ายทอดภาพความละเอียดสูง (Ultra-High Definition – UHD) ธุรกิจองค์กรต่างๆ ได้ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้ เพื่อแปลงเป็นองค์ความรู้และการบริการต่างๆ ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการผลิตขึ้นอีกขั้น.
นายปีเตอร์ โจว ประธานฝ่าย Data Storage และ Intelligent Vision ของหัวเว่ย กล่าวว่า “ข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ของธุรกิจองค์กร ปัจจุบัน พบว่าทั่วโลกมีการจัดเก็บข้อมูลเพียง 2% ในขณะที่มีข้อมูลเพียง 10% เท่านั้นที่ถูกนำมาต่อยอดให้เกิดมูลค่าเพิ่มเติม บรรดาธุรกิจองค์กรต่างพบกับหลากหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็นความจุที่ไม่เพียงพอ การเก็บข้อมูลแบบแยกกันเป็นไซโล (Data Silos) และการจัดการข้อมูลความจุสูงที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ระบบ OceanStor Pacific Series ของหัวเว่ยถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ ทั้งยังวางมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดเก็บข้อมูลความจุสูงอย่างทรงประสิทธิภาพ ประหยัด และมีอายุการใช้งานยาวนาน จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการจัดเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือและวางใจได้”
นายซาง ไห่เฟิง ประธานฝ่ายระบบจัดเก็บศูนย์ข้อมูลของหัวเว่ย อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสามทิศทางกลยุทธ์หลักของหัวเว่ย สำหรับการจัดเก็บข้อมูลความจุสูง ดังนี้
· เทคโนโลยีชั้นนำ: หัวเว่ยได้สร้างชุดฮาร์ดแวร์เฉพาะและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมซอฟต์แวร์ต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครือข่ายชนิดอื่นแบบหลายโปรโตคอล อัลกอริทึมการลดข้อมูลอย่างทรงประสิทธิภาพ และความเสถียรแบบหลายระดับ ในการตอบโจทย์ความต้องการใช้งานในแต่ละสถานการณ์
· นวัตกรรมเชิงธุรกิจ: หัวเว่ยได้ใช้ประโยชน์จากระบบป้องกันข้อมูลซ้ำซ้อนชั้นนำของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดข้อมูล ซึ่งทำให้เป็นรายแรกของอุตสาหกรรมที่โปรโมทโมเดลธุรกิจในด้านความจุทั้งหมดที่สามารถรองรับได้ โมเดลดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจว่าจะได้รับบริการรูปแบบไหนตั้งแต่ต้น จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ ต้นทุนการเป็นเจ้าของ (Total cost of ownership) และเกณฑ์การใช้งานของการจัดเก็บข้อมูลความจุสูงได้
· ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม: หัวเว่ยถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการเฉพาะด้านจากอุตสาหกรรม โดยยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในหมู่ธุรกิจองค์กรและปลดปล่อยขุมพลังที่แท้จริงแห่งข้อมูล
หัวเว่ยได้เปิดตัวระบบจัดเก็บข้อมูลเจนเนอเรชันแรกไปเมื่อปี พ.ศ. 2552 และได้ลงทุนในการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลความจุสูงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของประเทศจีน ถึง 4 ปีติดต่อกัน OceanStor Pacific Series มุ่งเป็นทางเลือกของการจัดเก็บข้อมูลความจุสูงที่เชื่อถือได้ ผ่านความชำนาญทั้งในด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีความพร้อมทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ การประหยัดค่าใช้จ่าย และความเสถียร
ระบบจัดเก็บข้อมูล OceanStor ของหัวเว่ย ได้ถูกนำไปใช้ในมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ในหมู่ลูกค้ากว่า 12,000 รายจากหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นโทรคมนาคม การเงิน ภาครัฐ พลังงาน สาธารณสุข การผลิต และคมนาคม ระบบจัดเก็บข้อมูล OceanStor ของหัวเว่ย จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้าทั่วโลกที่ต้องการจัดเก็บและจัดการข้อมูลซึ่งเกิดจากบริการต่างๆ ของตน
