แม้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสตาร์ทอัพทั่วโลกจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่เกิดภาวะฟองสบู่ตั้งแต่ปลายปีพ.ศ. 2562 และทำให้ราคาคอนโดมิเนียมลดลงอย่างมาก และการระบาดของเชื้อไวรัสยิ่งทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยลดน้อยลงไปอีก แต่สตาร์ทอัพที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนและตอบโจทย์ตลาด ยังมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน (Venture Capital) ในไทยและต่างประเทศ ดังเช่นที่ ZmyHome (ซี-มาย-โฮม) แพลตฟอร์ม ซื้อ เช่า บ้าน คอนโด ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องความสะดวกรวดเร็วในการซื้อเช่าที่อยู่อาศัยให้กับคนไทย และโฟกัสที่จะช่วยให้เจ้าของขายบ้านสำเร็จภายใน 3 เดือน โดยล่าสุดได้รับเงินลงทุนจากกองทุนประเทศเกาหลี (Bon Angel) และกองทุนจากประเทศสิงค์โปร์ (KK Fund) เพื่อนำไปต่อยอดจากสิ่งที่ได้ริเริ่มมา
หลังจากที่ ZmyHome ได้รับเงินลงทุนเริ่มต้นจาก KK Fund (Venture Capital จากประเทศสิงค์โปร์) เมื่อปีพ.ศ.2561 เพื่อขยายเว็บไซท์ https://zmyhome.com/ “บ้าน คอนโด เจ้าของขายเอง อันดับ 1” จนมีประกาศร่วม 100,000 รายการ และมีผู้เข้าใช้มากกว่า 1,000,000 ครั้ง/เดือน จากการนำเสนอจุดขายที่แตกต่างที่ ประกาศทั้งหมดมีอยู่จริง ราคาจริง และทรัพย์ทั้งหมดเป็นทรัพย์ที่เจ้าของขายเอง ทำให้คนซื้อพบบ้านคอนโดที่ถูกใจได้รวดเร็ว และราคาดี ล่าสุดได้มี Bon Angel กองทุนจากเกาหลีใต้ได้เข้าร่วมลงทุนกับ ZmyHome เพื่อเร่งการเติบโตให้มากขึ้นไปอีก พร้อมทั้งต่อยอดการปฏิวัติวิธีการขายบ้าน คอนโด ของบริษัท ที่เริ่มมีการพัฒนาไปแล้ว โดยให้ผู้ขายได้ “เห็นผู้ซื้อ เช่า บ้าน คอนโด ในพื้นที่ของตัวเอง”พร้อมทั้ง “ส่งข้อความตรงหาผู้ซื้อที่
ผู้ขายสนใจ” ผ่านไลน์แชท ซึ่งในอนาคตมั่นใจว่าจะเป็นวิธีการขายบ้านที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม มากกว่าการโฆษณา และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ขาย (ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของขายเอง หรือขายผ่านตัวแทน)
นายณัฐพล อัศว์วิเศษศิวะกุล ผู้ก่อตั้ง ZmyHome กล่าวว่า “หลังจากที่เราได้รับเงินลงทุนก้อนแรกจาก KK Fund และทำให้ตลาดได้เห็นแล้วว่า แพลตฟอร์มซื้อขายบ้านคอนโดที่ตรวจสอบทรัพย์ที่ลงประกาศว่าจะต้องมีอยู่จริง ลงขายด้วยราคาจริง และอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ผู้ซื้อ ผู้เช่า เจอทรัพย์ได้ทันที ซึ่งรวดเร็วกว่าการค้นหาบนเว็บไซท์ที่ไม่ตรวจสอบประกาศที่ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ปัจจุบัน ZmyHome พร้อมแล้วที่จะก้าวต่อไปอีกขั้น จากเงินลงทุนที่ได้รับ ด้วยการเปิดให้นายหน้าที่เป็นตัวแทนอย่างถูกต้อง ได้ลงประกาศขาย เช่า บน ZmyHome เพื่อให้เรามีบ้าน คอนโด ทุกหลังในตลาด ตามเป้าหมายตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเชิญชวนให้นายหน้าลงขายเฉพาะทรัพย์ที่มีอยู่จริง ไม่ซ้ำกับผู้ขายรายอื่น และอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ซื้อ ผู้เช่า ได้พบบ้าน คอนโดทั้งหมดในแหล่งเดียว และค้นหาได้รวดเร็ว เช่นเดียวกับการค้นหาห้องพักในโรงแรม
นอกจากการเตรียมเปิดให้ตัวแทนเข้ามาลงประกาศอย่างเป็นระเบียบได้แล้ว ZmyHome ยังพัฒนาระบบการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้การขาย-เช่าสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยการช่วยให้เจ้าของเห็น Users ที่กำลังต้องการซื้อหรือเช่าบ้านคอนโดในพื้นที่ (ไม่ได้เปิดเผยตัวแทนที่แท้จริงของผู้ซื้อ) และส่งข้อความตรงหา Users นั้นๆ โดยผู้ขายสามารถพิจารณาดูทรัพย์ที่ผู้ซื้อสนใจ และประเมินโอกาสในการขายทรัพย์ของตัวเองให้กับผู้ซื้อรายนั้น ก่อนที่จะส่งข้อความผ่านทางไลน์ และผู้ซื้อจะได้รับข้อความผ่านทางเว็บไซต์ Line SMS และ Email โดยหลังจากที่ Users ได้รับข้อความแล้วสามารถโทรกลับหาเจ้าของทรัพย์ได้โดยตรง หรือต่อรองราคา หรือให้ Feedback กลับไปหาเจ้าของอีกด้วย ทั้งนี้หากระบบนี้สมบูรณ์จะเป็นระบบที่ผู้ขาย หรือผู้ให้เช่า ต้องมีไว้ใช้ เหมือนกับที่ผู้ที่เล่นหุ้น จะต้องเห็นราคาซื้อของผู้เสนอซื้อ เพื่อที่จะตัดสินใจขายหุ้น เพราะต้องการเข้าถึงผู้ซื้อได้ทุกรายเมื่อต้องการจะขาย”
อีกทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มแล้ว ZmyHome เงินลงทุนที่ได้รับมาในครั้งนี้ ยังจะใช้สำหรับพัฒนาธุรกิจตัวแทน (Property Agent) ในนาม “อยู่เย็น” ซึ่งมีที่มามาจาก “อยู่เย็นเป็นสุช” เพื่อให้ผู้ซื้อผู้เช่ามั่นใจได้ว่า จะได้ที่อยู่อาศัยที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในบริเวณแยกพระราม 9 เมื่อใช้บริการกับเรา รวมทั้งเป็นต้นแบบให้กับนายหน้าอื่นๆ ในการใช้แพลตฟอร์ม ZmyHome ซึ่งภายในปีนี้ “อยู่เย็น” จะ Focus เฉพาะบริเวณรอบ MRT พระราม 9 ซึ่งเป็น New CBD เท่านั้น เพื่อให้บริการอย่างรู้ลึกในพื้นที่ ทั้งในแง่ข้อดีข้อเสียของโครงการต่างๆ ราคาที่ขาย-เช่าสำเร็จ ลักษณะของผู้ซื้อและผู้เช่าของแต่ละโครงการ
“อยู่เย็น” จะมีการใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายตัวแทนมืออาชีพ เพื่อให้เข้าถึงทรัพย์ทุกรายการในพื้นที่ และผู้ที่กำลังซื้อเช่าทุกคน โดย “อยู่เย็น” จะช่วยเป็นศูนย์กลางในการทำการตลาดแทนเจ้าของและตัวแทนทั้งหมด แทนที่แต่ละคนจะต้องลงทุนการตลาดเพื่อแข่งขันกันเอง แต่เราจะช่วยให้ทุกคนประหยัดค่าการตลาด และชำระค่าบริการให้กับ “อยู่เย็น” เมื่อขายสำเร็จเท่านั้น โดยสามารถติดต่อฝากขาย เช่ากับเราได้ที่ https://www.facebook.com/YueYenPropertyAgent/ หรือเข้ามาเยี่ยมหน้าร้านของเราได้ที่สี่แยกพระราม 9 โดยในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่โรคโควิดยังมีการระบาด “อยู่เย็น” ได้มีการทดลองให้บริการ และมีลูกค้าติดต่อให้เข้ามาหาซื้อ-เช่ากับเราถึง 100 รายในช่วงระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเกินคาด โดยลูกค้าที่เข้ามากร้อยละ 95% เป็นลูกค้าคนไทย และมีชาวต่างชาติที่เช่าอยู่แล้วในพื้นที่ ต้องการย้ายที่อยู่เพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ยังชอบที่จะอยู่บริเวณนี้เช่นเดิม เนื่องจากสะดวกทั้งในแง่ของการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย
ทางด้าน นาย Simon Kang ผู้ร่วมก่อตั้ง Bon Angel Venture Partner กล่าวว่า เราเชื่อว่า แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ที่จะประสบความสำเร็จ จะต้องเป็นแพลตฟอร์มที่บริหารจัดการประกาศทั้งหมดอย่างถูกต้อง และอัพเดทอยู่เสมอ ซึ่งทีมงานของซีมายโฮม ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำได้จริง ทำให้เราเชื่อมั่นว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นระบบนิเวศน์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ให้กับประเทศไทย
และ นาย Koichi Saito ผู้ก่อตั้ง KK Fund ได้ให้ความเห็นว่า “เรามีความเชื่อมั่นที่จะร่วมลงทุนต่อใน ZmyHome หลังจากที่ได้ลงทุนในรอบแรกเมื่อสองปีที่ผ่านมา ซึ่งแพลตฟอร์มมีการเติบโตทั้งในด้านผู้ใช้งานและรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยแพลตฟอร์มมีผู้เข้าใช้มากกว่า 1 ล้านครั้งต่อเดือน และมีรายได้เติบโตถึง 5 เท่าเทียบจากก่อนได้รับเงินลงทุน” ซึ่งการระดมทุนในรอบนี้เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง Bon Angel Venture Partner , KK Fund ซึ่งเป็น Investor ของ ZmyHome ในรอบที่แล้ว และ Angel Investor รายนึงของไทย
Bon Angel Venture Partner เป็นกองทุน Venture Capital อันดับ 1 ของประเทศเกาหลี ที่ลงทุนใน Startup ในระยะเริ่มต้น ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 โดยมีผู้ร่วมก่อตั้ง 3 คน ได้แก่ BG Chang, Simon Kang and Inae Song โดยกว่า 14 ปีที่ผ่านมา Bon Angel มีการลงทุน Startups ไปแล้วกว่า 190 บริษัท exit ไปแล้ว 15 บริษัท และ 2 ในนั้นคือ “Woowa Brothers” และ “PUBG” ซึ่งปัจจุบันเป็น 2 ใน Top Unicorns ของเกาหลี