แท็บแล็ตระดับพรีเมียมตัวใหม่ล่าสุดที่ค่าย Huawei เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมานี้ นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตามองอย่างมากด้วยคุณสมบัติที่เหมาะกับการเป็นแท็บเล็ตคู่ใจ เป็นผู้ช่วยที่จะทำให้ชีวิตการทำงานของเราง่ายขึ้นและ Professional ขึ้น อีกหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ยังคงต้อง Work From Home กันอย่างต่อเนื่อง
แท็บเล็ตที่มี Desktop Mode ใช้งานได้เสมือนแล็ปท็อป
หนึ่งในปัญหาการทำงานผ่านแท็บเล็ตคืออินเทอร์เฟซที่ไม่เหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป ทำให้ต้องเพ่งหน้าจอเป็นพิเศษ รวมถึงไม่สามารถเปิดวินโดว์เพื่อทำงานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกันได้ ด้วย Desktop Mode ใน Huawei MatePad Pro ผู้ใช้จะสามารถทำงานโปรแกรมออฟฟิศต่างๆ ได้เสมือนทำผ่านคอมพิวเตอร์ ยิ่งเมื่อเชื่อมต่อกับ Smart Magnetic Keyboard ที่เชื่อมต่อได้ง่ายเพียงกริ๊กเดียวด้วยแถบแม่เล็ก ยิ่งเหมือนแล็ปท็อปกระทัดรัดดีๆ นี่เอง ผู้ใช้สามารถจดบันทึกงานหรือทำพรีเซนเทชันได้สบาย ด้วยหน้าจอแบบ FullView Display ขนาด 10.8 นิ้ว ที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 90% ทั้งยังมีสัดส่วนภาพกว้างกว่าจอแท็บเล็ตทั่วไป ด้วยอัตราส่วน 16:10 ให้ภาพเต็มจอ เรื่องการถนอมสายตาก็หมดกังวลไปได้เลยเพราะมีโหมดการอ่านแบบถนอมสายตา สามารถตั้งค่าจอให้เหมือนกระดาษได้ และได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าสามารถช่วยถนอมสายตาผู้ใช้ได้ด้วยการลดแสงสีฟ้า
หยิบ M-Pencil เคาะ “ก๊อกๆ” ก็จดโน๊ตได้ทันที
ซึ่งนอกจากคีย์บอร์ดแล้ว Huawei MatePad Pro ยังมีอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า M-Pencil เจ้าปากกาสีเงินที่แปะติดกับตัวแท็บเล็ตด้วยพลังแม่เหล็กเช่นเดียวกัน ไฮไลต์สำคัญสำหรับการใช้งานเจ้าปากกาตัวนี้ก็คือ แม้ว่าหน้าจอของ MatePad Pro จะปิดอยู่ แต่แค่หยิบ M-Pencil มาเคาะก๊อกๆ สองครั้ง แท็บเล็ตคู่ใจก็จะรู้ทันทีว่าเราต้องการจะจดบันทึกอะไรสักอย่าง แอปพลิเคชันโน้ตจะปรากฏขึ้นมาอัตโนมัติและพร้อมให้เราเขียนลงไปทันที ฟีเจอร์นี้มีชื่อเรียกว่า Screen-off Shorthand ช่วยให้จดบันทึกหรืออัดเสียงเก็บบันทึกได้ทันใจ หากอยู่ๆ เกิดต้องจดรายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมายระหว่างประชุมแบบทันทีทันใด ก็ไม่มีพลาดอีกต่อไป
รองรับการทำงานแบบ Multitask ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
ในวันที่ต้องทำงานอยู่บ้าน จะดีแค่ไหนถ้าตื่นเช้ามาเราสามารถเช็คอีเมล อ่านข่าวบนเว็บไซต์ ส่องโซเชียลเน็ตเวิร์กของเพื่อนๆ และตอบแชทไลน์ไปพร้อมกันได้ทั้งหมด ด้วยการใช้งานเพียงหน้าจอเดียวโดยไม่ต้องสลับแอปไปมาให้วุ่นวาย
ทุกคนก็เคยเห็นกันมาแล้วกับสมาร์ทดีไวซ์ที่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันมากกว่า 1 แอปพร้อมกัน เช่น สตรีมวิดีโอออนไลน์ไปด้วยและเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กไปด้วย แต่ Huawei MatePad Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์ Window-Multiplier ที่แบ่งจอแสดงแอปพลิเคชันพร้อมๆ กันได้ถึง 3 แอป โดยมีแอปมากมายให้เลือกใช้ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก HUAWEI AppGallery
นอกจากนี้ยังสามารถแสดงหน้าจอของดีไวซ์อื่นๆ บนแท็บเล็ตได้ด้วยฟีเจอร์ Huawei Share นวัตกรรมของหัวเว่ยที่สามารถแชร์จอสมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่น ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10 ขึ้นไป เช่น Huawei P40 Series หรือ Huawei Mate 30 Pro 5G ให้ไปปรากฏบนจอแท็บเล็ต แล้วใช้งานหน้าจอมือถือผ่านจอแท็บเล็ตได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งหากนับรวมการแชร์จอผ่าน Huawei Share เข้ากับฟีเจอร์รองรับแอปหลายหน้าตา แท็บเล็ตตัวนี้จะสามารถแสดงจอพร้อมกันได้สูงสุดถึง 4 จอย่อย ซึ่งยังไม่มีแท็บเล็ตตัวไหนจะอำนวยความสะดวกให้การ multitask ได้มากขนาดนี้
ให้การทำงานต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน ด้วยแบตเตอรี่สุดอึด
Huawei Matepad Pro มากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,250 mAh ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้ทำงานผ่านโปรแกรมออฟฟิศต่างๆ ติดต่อกันได้นานสูงสุด 11 ชั่วโมง โดนตามงานตอนไหนก็ไม่พลาด เพราะมีงานส่งแน่นอน และเมื่อต้องการชาร์จแบบเร็วๆ ก็สามารถใช้โหมดชาร์จเร็ว 20 วัตต์ โดยชาร์จเพียง 30 นาที สามารถใช้งานต่อได้ถึง 2 ชั่วโมง และหากชาร์จ 60 นาทีจะใช้ต่อได้ถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง ยาวๆ กันไป ให้ไอเดียไม่สะดุด
Huawei Matepad Pro เป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของหัวเว่ยรองรับการชาร์จแบบไร้สายที่ 15 วัตต์ เพราะต่อให้ทำงานในบ้าน แต่บางทีก็ไม่ได้สะดวกเดินไปหาสายชาร์จ หรือย้ายไปนั่งใกล้ปลั๊กไฟ การชาร์จแบบไร้สายช่วยจัดการความยุ่งยากนี้ นอกจากนี้แท็บเล็ตแบตอึดรุ่นนี้ยังสามารถแปลงร่างเป็นพาวเวอร์แบงค์ไร้สายด้วยโหมด Reverse Wireless Charge ที่สามารถชาร์จแบตให้กับดีไวซ์อื่นๆ ได้ด้วย รวมถึงปากกาที่เพียงต่อเข้ากับเครื่องก็รับพลังชาร์จได้ในทันที ไม่ต้องกลัวเลยว่างานจะสะดุด จอจะดับกะทันหัน หรืออุปกรณ์อื่นแบตหมดอีกต่อไป
สำหรับในประเทศไทยทางหัวเว่ยประกาศราคาในวันเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยรุ่นที่นำเข้ามาวางจำหน่าย ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นที่ใส่ซิมได้ Huawei MatePad Pro 4G ราคา 19,990 บาท และรุ่นที่เชื่อมต่อไวไฟได้เพียงอย่างเดียว Huawei MatePad Pro Wifi 16,990 บาท ทั้งสองรุ่นนี้มีขนาดหน่วยความจำและความจุเครื่องเท่ากันคือ RAM 6 GB และ ROM 128 GB ซึ่งสามารถซื้อหน่วยความจำมาใส่เพิ่มได้ถึง 256 GB ว่ากันมาขนาดนี้ถ้าใครต้องการจับจองล่วงหน้า ดูข้อมูล หรือกดพรีออเดอร์ได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/campaign/matepad-pro/ บอกไว้ก่อนว่าโปรโมชันพรีออเดอร์ที่แถมทั้ง Smart Magnetic Keyboard, M-Pencil และบริการคอนเทนต์ฟรีต่างๆ มูลค่าสูงถึง 9,000 บาท ถึงแค่วันที่ 30 เมษายนเท่านั้น ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่1พฤษภาคมนี้
